สมัยเอโดะจะอยู่ในช่วงระหว่างปีค.ศ. 1600 – 1868 ระยะเวลายาวนานเกือบสามร้อยปี ถ้าเทียบกับประวัติศาสตร์ไทยจะอยู่สมัยอยุธยาตอนปลายจนถึงรัตนโกสินทร์ ในสมัยเอโดะการพนันได้รับความนิยมสูง จนได้รับการขนานนามจากทั่วโลกว่าเป็นประเทศแห่งการพนัน ในบทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับการพนันที่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมในสมัยเอโดะกันค่ะ
ประเทศแห่งการพนัน?!
ญี่ปุ่นในสมัยเอโดะมีบทลงโทษรุนแรงสำหรับเจ้ามือหรือเจ้าของบ่อนถึงขั้นประหารหรือเนรเทศเลยทีเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้กระทำผิดก็มักถูกปล่อยตัว หรือทำโทษสถานเบา เช่น ริบของ หรือจ่ายค่าปรับ ทำให้ปัญหาการติดการพนันของชาวเอโดะยากที่จะแก้ไข และเกิดปัญหาอาชญกรรมตามมามากมาย การพนันที่นิยมเล่นในสมัยเอโดะมี 3 อย่างดังนี้
1. อะนะอิจิ (穴一)
ได้รับความนิยมในช่วงปลายสมัยเอโดะ โดยผู้เล่นจะขุดหลุมบนพื้นที่มีขนาดใหญ่พอใส่ธนบัตรหรือเหรียญได้ จากนั้นผู้เล่นก็จะเริ่มเกมโดยผลัดกันการโยนเหรียญจากตำแหน่งต่างๆ เป็นที่นิยมทั่วประเทศ เพราะเล่นง่ายเดิมพันด้วยเงินจำนวนน้อยและเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา จึงเป็นเกมที่คุ้นเคยทุกเพศทุกวัย
2. โฮบิกิ (宝引)
เป็นเกมที่คล้ายเป็นการจับสลาก โดยผู้เล่นจะเลือกเชือกเส้นเล็กๆ จากเชือกทั้งหมดหลายๆ เส้นที่มัดกันไว้ ของรางวัลที่ได้มักเป็นของเล่นหรือขนม เป็นเกมที่เด็กๆ สมัยเอโดะชอบเล่นมากในช่วงปีใหม่ แต่ในหมู่ผู้ใหญ่จะนิยมเล่นเกมที่ชื่อว่า “โซโทริโฮฮิกิ” (総取り宝引) มีวิธีเล่นคล้ายกับโฮบิกิแต่ผู้เล่นต้องวางเงินเหมือนค่าธรรมเนียมในการเล่น และคนที่ดึงเชือกได้ถูกอันจะได้รับเงินค่าธรรมเนียมนั้นทั้งหมด ข้อดีของเกมนี้คือสามารถขนเงินจำนวนเยอะๆ ได้ง่ายกว่าเกมอื่น แม้รัฐบาลเอโดะออกคำสั่งห้ามเล่นหลายต่อหลายครั้งแต่ก็เปล่าประโยชน์ สาเหตุหนึ่งน่าจะเป็นเพราะสามารถขนเงินพนันหนีได้อย่างรวดเร็ว
3. ดกโค่ย ดกโค่ย (どっこいどっこい)
อดีตจะใช้โต๊ะรูปวงกลมในการเล่น ชื่อที่รู้จักกันในปัจจุบันก็คือ “รูเล็ต” ว่ากันว่าที่ชื่อเกมฟังดูแปลกก็เพราะพัฒนามาจากการละเล่นของเด็กๆ นั่นเอง ถึงชื่อเกมจะดูน่ารัก ใสๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นเกมที่โกงง่ายและโกงกันเยอะมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้เล่นมักเกิดความไม่พอใจจนถึงขั้นใช้ความรุนแรง ในปีค.ศ.1935 นักสืบญี่ปุ่นคนหนึ่งมาเปิดเผยและจับกุมกลโกงเกมดกโค่ยดกโค่ยเป็นครั้งแรกที่ด้านนอกสนามแข่งม้าอุตสึโนะมิยะ (宇都宮競馬場) จ.อิบารากิ
การพนันเป็นเกมที่มีอยู่ให้เห็นแทบทุกประเทศและทุกระดับสังคมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากในบทความจะเห็นได้ว่าการควบคุมที่หละหลวมของผู้มีอำนาจ ทำให้การเกิดปัญหาสังคมตามมา ปัจจุบันที่ญี่ปุ่นก็มีกฏหมายควบคุมที่ชัดเจนและเข้นข้นมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้แก้ปัญหาโดยการสั่งห้ามและอ้างถึงเรื่องศาสนาหรือศีลธรรมอันดีแต่อย่างใด
สรุปเนื้อหาจาก mag.japaaan
