รู้หรือไม่? ทำไมหน้าต่างห้องเรียนของญี่ปุ่นถึงต้องอยู่ฝั่งซ้ายมือเสมอ

พักหลังนี้ผู้เขียนกลับมาใช้เวลาอยู่กับหน้าจอดูซีรีส์และอนิเมะญี่ปุ่นติดต่อกันจนตาแฉะมาหลายวันแล้วค่ะ เมื่อไปสะดุดกับบทความญี่ปุ่นที่ว่า “ทำไมหน้าต่างห้องเรียนในโรงเรียนของญี่ปุ่นจึงยู่ฝั่งซ้ายมือ” เลยลองนึกภาพตามแล้วก็ร้องกับตัวเองว่า “เออ..จริงด้วย!” ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ทั้งภาพจากซีรีส์และอนิเมะส่วนใหญ่ที่นึกขึ้นมาได้ก็จะเห็นหน้าต่างห้องเรียนอยู่ทางซ้ายมือทั้งหมดเลย จึงอยากจะมาแชร์ความรู้เล็กๆ ที่จะบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นให้ทุกคนได้ทราบกันบ้างค่ะ

ตำแหน่งหน้าต่างห้องเรียนก็มีประวัตินะ!?

 

ห้องเรียนในโรงเรียนของญี่ปุ่นนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีหน้าต่างที่เห็นด้านนอกตัวอาคารอยู่ทางด้านซ้ายมือ และทราบกันหรือไม่คะว่า การที่หน้าต่างห้องเรียนของญี่ปุ่นมักจะอยู่ฝั่งซ้ายมืออยู่เสมอนั้น ได้มีการกำหนดเอาไว้ตั้งแต่สมัยเมจิ (ค.ศ. 1868 – ค.ศ. 1912) เลยล่ะค่ะ

ต้นแบบของระบบการศึกษาของญี่ปุ่นนั้นได้รับอิทธิพลมาจากประเทศฝรั่งเศส จากนั้นจึงเริ่มสร้างโรงเรียนขึ้นทั่วญี่ปุ่นในสมัยเมจิที่ 6 (ค.ศ. 1873) และเมื่อมีการก่อตั้งกระทรวงศึกษาขึ้นในสมัยเมจิที่ 28 (ค.ศ. 1895) จึงได้สร้างกฎระเบียบสำหรับใช้ในโรงเรียนขึ้นมาด้วยนั่นเองค่ะ

กฎระเบียบที่กำหนดขึ้นมาในตอนนั้นมีดังนี้

– ห้องเรียนต้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

– หน้าต่างต้องอยู่ทางทิศใต้ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้

– ให้แสงจากด้านนอกเข้าทางด้านซ้ายมือของนักเรียน

นับแต่นั้นมา ลักษณะห้องเรียนของญี่ปุ่นจึงถูกกำหนดให้มีหน้าต่างอยู่ทางซ้ายมือ กระดานดำอยู่ด้านหน้า ทางเดินทางขวามือ และตู้หรือล็อคเกอร์อยู่ด้านหลังห้องเสมอ

เหตุผลคืออะไร?

เนื่องจากในสมัยเมจินนั้นยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงจำเป็นต้องอาศัยแสงสว่างจากด้านนอก ส่วนเหตุที่เลือกให้หน้าต่างอยู่ทางทิศใต้ก็เพราะว่าใน 1 ปีจะมีแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาจากทิศใต้แทบตลอดทั้งปี

ปัจจุบันกฎระเบียบดังกล่าวไม่ได้มีการนำมาบังคับใช้แล้ว ส่วนหนึ่งก็เพราะเรามีไฟฟ้าใช้กันอย่างแพร่หลายแล้วนั่นเอง แต่ผังห้องเรียนก็ยังอิงความคิดดั้งเดิมที่ได้รับมาในสมัยเมจิอยู่ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นความเคยชินไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ทำให้รู้สึกว่าหน้าต่างห้องเรียนต้องอยู่ทางซ้ายมือ ดังนั้นแม้แต่ห้องเรียนใหม่ๆ ส่วนใหญ่ก็ยังมีหน้าต่างอยู่ทางซ้ายมือแทบทั้งหมดเลยค่ะ

เหตุผลอีกข้อหนึ่งคือ เพราะคนส่วนใหญ่นั้นถนัดขวา การที่มีแสงเข้าจากทางซ้ายมือก็เพื่อให้เขียนหนังสือได้สะดวกนั่นเอง เพราะถ้าแสงเข้าจากทางขวา เงาแขนก็จะบัง ทำให้มองเห็นตอนเขียนหนังสือได้ลำบากกว่าใช่ไหมล่ะคะ (คนถนัดซ้ายก็จะลำบากหน่อยๆ นะเนี่ย)

มีห้องเรียนที่ไม่ได้กำหนดให้แสงเข้าจากซ้ายมือด้วยนะ

นอกจากห้องเรียนทั่วไปแล้ว ก็ยังมีห้องเรียนศิลปะที่แตกต่างออกไป โดยห้องศิลปะส่วนใหญ่นั้นจะมีแสงเข้าจากทางทิศเหนือค่ะ

ส่วนเหตุผลก็คือเพื่อไม่ให้แสงส่องเข้าภายในห้องได้โดยตรง เพราะถ้าแสงเข้ามาจากทางทิศใต้การทำมุมของแสงก็จะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาได้ง่าย ซึ่งจะลำบากเวลาที่นักเรียนลงแรเงาตามแบบอยู่ เมื่อแสงเข้าจากทางทิศเหนือก็จะเลี่ยงปัญหาดังกล่าวได้ นอกจากได้แสงที่ละมุนแล้วการตกกระทบของแสงก็จะไม่เปลี่ยนแปลงง่าย ทำให้เพ่งสมาธิกับภาพตรงหน้าได้เต็มที่นั่นเองค่ะ

เรื่องที่ดูเล็กน้อยนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของคนญี่ปุ่นได้ชัดเจนมากๆ เลยล่ะค่ะ เป็นการตัดสินใจที่ผ่านการใตร่ตรองอย่างเป็นเหตุเป็นผลและคำนึงถึงอีกฝ่ายอย่างแท้จริง แถมคนญี่ปุ่นยังเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว นับว่าเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นคนญี่ปุ่นได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ

สรุปเนื้อหาจาก: jpnculturemirainoshitenclassic

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save