“ฮะนะบิ”「花火」หรือเทศกาลชมดอกไม้ไฟ เป็นที่รู้กันว่าฤดูร้อนของญี่ปุ่นนั้น การชมดอกไม้ไฟตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ไม่เพียงแต่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างพากันมุ่งหน้าไปชมให้ได้สักครั้ง
แต่ดอกไม้ไฟนับร้อยนับพัน หรือบางงานก็มากกว่าหมื่นลูกที่เราเห็นกันนั้น เคยสงสัยกันบ้างไหมครับ ว่ามันทำจากอะไร? หน้าตาเป็นยังไง? หรือมันมีกี่ประเภทกันแน่? ก่อนจะไปดูดอกไม้ไฟไฮไลท์ฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น เรามาทำความรู้จักดอกไม้ไฟกันซักหน่อย เพื่อให้การชมดอกไม้ไฟของเพื่อน ๆ มีความสนุก และมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น!!
ดอกไม้ไฟ ผู้แต่งแต้มสีสันให้กับท้องฟ้าฤดูร้อน
เทศกาลชมดอกไม้ไฟเริ่มจัดขึ้นเป็นธรรมเนียมปฎิบัติครั้งแรกในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) จนกระทั่งเข้าสู่สมัยเมจิ (ค.ศ. 1868-1912) เมื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าสู่สังคมญี่ปุ่นมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ดอกไม้ไฟจึงเริ่มมีสีสันมากขึ้น มีความซับซ้อนในการผลิตที่ใช้สารประกอบเคมีเป็นส่วนประกอบสำคัญ
ส่วนประกอบของดอกไม้ไฟ
สิ่งที่ทำให้ดอกไม้ไฟมีสีสันและรูปร่างที่แตกต่างกัน คือ ลูกดอกไม้ไฟห่อหุ้มด้วยเปลือกที่เป็นกระดาษ ภายในอัดแน่นด้วยก้อนดินปืนเล็ก ๆ จำนวนมาก ให้สีสันแตกต่างกันไปเมื่อดินปืนระเบิดตัว กระจายออกเป็นดอกไม้ไฟอันแสนงดงามที่เราเฝ้าชะเง้อแหงนมองไปเบื้องบน
ดินปืนที่อัดแน่นอยู่นั้นจะผสมด้วยสารประกอบเคมี สตรอนเชียมให้สีแดง ทองแดงให้สีน้ำเงิน โซเดียมให้สีเหลือง และแบเรียมให้สีเขียว ดอกไม้ไฟลูกที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางยาวถึง 1 เมตร หนักถึง 380 กิโลกรัมเลยทีเดียวครับ!!
ด้วยหลักการนี้เอง นำไปสู่การออกแบบสร้างดอกไม้ไฟที่งดงาม โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสลับตำแหน่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับดอกไม้ไฟแต่ละลูก หรือจะผสมหลายแบบในลูกเดียวก็มีให้เห็น แต่โดยหลักแล้วในญี่ปุ่นก็มีให้ชมอยู่ด้วยกัน 3 แบบ 3 สไตล์ ส่วนความซับซ้อนหรือรูปทรงต่าง ๆ ก็จะเป็นไปตามเทคนิคและความสามารถของผู้ผลิต มาดูกันดีกว่าครับว่ามีแบบไหนกันบ้าง!!
แบบวาริโมโนะ
เป็นดอกไม้ไฟรูปทรงกลม กระจายตัวบนท้องฟ้าเป็นเส้นยาว ๆ ถือเป็นดอกไม้ไฟรูปแบบพื้นฐานที่มีความสวยเด่นตระการตา จึงนิยมใช้เป็นรูปแบบหลักในงานเทศกาลไม่ว่าแห่งใด
แบบโควาริโมโนะ
เป็นดอกไม้ไฟที่ออกแบบให้มีลูกดอกไม้ไฟลูกเล็กจำนวนมากซ้อนอยู่ในดอกไม้ไฟลูกใหญ่ เมื่อลูกใหญ่กระจายตัวจากแรงระเบิด ลูกเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กระจายตัวบนท้องฟ้าไปพร้อม ๆ กัน
แบบคามุโระ
ดอกไม้ไฟชนิดนี้จะกระจายตัวบนท้องฟ้า และในไม่ช้าสารประกอบเคมีภายในจะแผ่ลงต่ำ ส่องแสงสว่างไสวเป็นช่อระย้างดงามเป็นเวลาชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่แบบคามุโระจะเปล่งแสงได้นานกว่าดอกไม้ไฟชนิดอื่น ๆ นั่นเอง
มาถึงตอนนี้ เพื่อน ๆ ก็คงจะรู้จักดอกไม้ไฟกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ!? ดูดอกไม้ไฟคราวนี้ อย่าลืมสังเกตุให้ดีว่าลูกไหนเป็นแบบไหนนะครับ!! ถ้าพร้อมแล้ว ก็วางแผนลางาน จองตั๋วเก็บกระเป๋าไปเที่ยวชมดอกไม้ไฟแห่งฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นกันได้เลย!!
สรุปเนื้อหาจาก: 不思議の国ニッポン