ทุกคนรู้ไหมคะว่าที่ญี่ปุ่นเขามี “วันแห่งการจูบ” กับ “วันแห่งจดหมายรัก” ด้วยนะ! โดยทั้ง 2 วันจะตรงกับวันที่ 23 พฤษภาคมของทุกปี เราไปดูที่มาที่น่าสนใจของวันที่ระลึกทั้ง 2 วันนี้กันดีกว่า
Kiss Day
Kiss Day หรือวันแห่งการจูบ มีที่มาจากภาพยนตร์เรื่อง Hatachi no Seishun ที่ออกฉายเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ปี 1946 เนื่องจากมี “ฉากจูบ” ที่กล่าวกันว่าเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นที่มีการใส่ฉากจูบลงไปในภาพยนตร์ วันที่ 23 พฤษภาคม จึงถูกตั้งให้กลายเป็น Kiss Day ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เช่น ใครเป็นคนตั้ง เริ่มใช้เมื่อใด และเพื่อวัตถุประสงค์ใดนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด
View this post on Instagram
Hatachi no Seishun เป็นภาพยนตร์โรแมนติกที่สร้างขึ้นช่วงหลังสงคราม กำกับโดย Sasaki Yasushi ในเวลานั้นฉากเลิฟซีนต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องต้องห้ามในญี่ปุ่นและต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้ปรากฎในภาพยนตร์ เมื่อมีการใส่ฉากจูบเข้ามาจึงเกิดอิมแพคเป็นที่ฮือฮาและกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก
ธุรกิจภาพยนตร์ของญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นได้รับการควบคุมโดย GHQ (กองบัญชาการสูงสุดแห่งฝ่ายสัมพันธมิตร) ซึ่งถ้าเกี่ยวกับบทภาพยนตร์ก็จะได้รับการพิจารณาโดยแผนก CIE (Civil Information & Educational Section)
แต่เดิมในภาพยนตร์นั้นเป็นเพียงฉากที่นักแสดงนำทั้งสองกอดกัน แต่เมื่อส่งให้ทาง GHQ ผู้อ่านบทก็สั่งให้เพิ่มฉากจูบเข้ามา โดยไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด แต่ก็คาดเดาเหตุผลได้ เช่น
“เพื่อเปลี่ยนวิธีคิดของคนญี่ปุ่นที่ว่าฉากเลิฟซีนเป็นเรื่องต้องห้าม”
“เพื่อให้คนญี่ปุ่นกล้าแสดงความรู้สึกได้อย่างเปิดเผย”
“การจูบเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพและประชาธิปไตย”
แต่ในการถ่ายฉากจูบ จะใช้ผ้าก๊อซมาคั่นไว้ระหว่างนักแสดงทั้งสองคนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ริมฝีปากสัมผัสกันโดยตรง
Love Letter Day
Love Letter Day หรือวันแห่งจดหมายรัก ตั้งขึ้นในปี 1998 โดย บริษัท Shochiku เพื่อจุดประสงค์ในการโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง Love Letter ซึ่งสร้างมาจากเรื่องสั้นของ Asada Jiro
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Morisaki Azuma ออกฉายวันที่ 23 พฤษภาคม ทำให้วันนี้กลายเป็น Love Letter Day และเนื่องจากคำว่าจดหมายรักในภาษาญี่ปุ่นคือ 恋文 (Koibumi) จึงเป็นการเล่นคำไปในตัว (5=koi, 2=bu, 3=mi)
Kiss Day หรือ Love Letter Day เขาทำอะไรกัน ?
ในวัน Kiss Day หรือ Love Letter Day หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเป็นวันสำหรับคู่รักเท่านั้น ถ้าเป็นการจูบก็อาจจะใช่ แต่ถ้าเป็นการเขียนจดหมายรัก ทุกคนก็สามารถเขียนให้ใครก็ได้ที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนสำคัญในชีวิตที่เราอยากจะบอกความรู้สึก แม้ว่าในปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะใช้โซเชียลเป็นสื่อกลางเพราะมีความรวดเร็วกว่า แต่การเขียนจดหมายก็มีความคลาสสิค จับต้องได้ การถ่ายทอดออกไปด้วยลายมือของตัวเอง ผู้รับจะสัมผัสความรู้สึกของผู้เขียนได้อย่างแน่นอน ^^
สรุปเนื้อหาจาก jpnculture