อะมะเตะระสึขณะเผยกายออกมาจากถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ - ภาพโดย Shunsai Toshimasa, 1887

ถ้ำหินแห่งสรวงสวรรค์ ความมืดมิด และความสว่างไสวของโลก จากโคะจิกิ : บันทึกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุด

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ห่างหายไปเสียนาน หวังว่าจะยังไม่ลืมเรื่องราวจากโคะจิกิทั้ง 2 ตอนที่ผมเล่าไว้คราวก่อน ตั้งแต่การเกิดขึ้นของแผ่นดินญี่ปุ่นอย่างน่าอัศจรรย์ และเรื่องที่ว่าด้วยมรณภูมิ ที่พูดถึงการเกิดและการตายของมนุษย์

คราวนี้กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราว ณ ถ้ำหินแห่งหนึ่ง…และเหมือนเคย จงปล่อยใจให้ลอยไปอีกครั้ง จินตนาการไปตามตัวอักษร และเรื่องราวของโคะจิกิกันดูอีกทีครับ!!

อย่าลืมอ่านตอนแรก “กำเนิดท้องฟ้าและผืนโลก” กันก่อนนะครับ!!
ตอน 2 “มรณภูมิ เหตุแห่งการเกิดและการตาย” 

กำเนิดเทพทั้งสาม : ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และท้องทะเล

ในระหว่างที่อิซานางิ และอิซานามิยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก่อนที่จะพลัดพรากจากกันไปอยู่ในมรณภูมิองค์หนึ่งในความตอนที่แล้ว พวกเขาได้ให้กำเนิดเทพต่าง ๆ หลายองค์ ในจำนวนนั้นมี 3 องค์ที่มีอำนาจเหนือกว่าเทพองค์อื่น ๆ ได้แก่ “อามาเทะระสึ” เทพหญิงผู้งดงามแจ่มใส ประดุจแสงอาทิตย์ส่องประกายระยับวับวาว…“ซึคุโยมิ” เทพชายผู้มีรูปลักษณ์งามสง่า มีความฉลาดเฉลียวเป็นที่ยิ่ง และ “สึซาโนโอะ” ผู้มีร่างอันแข็งแกร่งใหญ่โต

การกำเนิดของทั้ง 3 สร้างความปิติให้แก่อิซานางิอย่างมาก จึงได้มอบของประจำกาย พร้อมหน้าที่อันยิ่งใหญ่แก่เทพทั้งสาม…

“เทพแห่งดวงอาทิตย์เอย เจ้าจงขึ้นไปสถิตย์ ณ ทากามางาฮาระแห่งสวรรค์

เพื่อปกครองโลกแห่งทิวาวารแทนข้าเถิด”

สั่งพลันคล้องสร้อยมณีส่งประกายแวววับสดใสให้แก่อามาเทระสึ อานุภาพของสร้อยยังผลให้พระพักตร์ปรากฏเป็นแสงระยับเจิดจ้าดังทรงแสงสว่างเป็นอาภรณ์ ด้วยการนี้เอง สวรรค์จึงสว่างไสวอยู่ตลอดกาลเวลา

และแล้วจึงหันมากล่าวแก่ซึคุโยมิ…

“เทพแห่งดวงจันทร์ผู้บริสุทธิ์ และฉลาดเฉลียวเอย

เจ้าจงลงไปปกครองโลกแห่งราตรีกาลแทนข้าด้วยเถิด”

สั่งแล้วก็ยื่นไม้เท้าส่งประกายสีเงินยวงประทานให้ พลันเทพซึคุโยมิก็พาร่างหายวับไปกับโลกแห่งราตรีกาล

ส่วนสึซาโนโอะก็ได้กล่าวว่า…

“เทพแห่งท้องทะเลผู้มีพลังอันมหาศาล เจ้าจงไปปกครองท้องทะเลอันไพศาลแทนข้าเถิด”

สั่งไปด้วยว่ากังวลใจ พลางพินิจใบหน้าสึซาโนโอะด้วยว่าดูน่าเกลียดน่ากลัว ร่างกายก็ใหญ่โตกว่า 2 เมตร ผิดแผกไปจากพระเชษฐา และพระภคินีเป็นอย่างยิ่ง

สึซาโนโอะผู้น่าเกลียดและอ่อนแอ

หลังจากที่เทพผู้มารดา (อิซานามิ) ต้องสิ้นไป และตกไปอยู่ในมรณภูมิแล้วนั้น ก็ไม่เป็นอันปกครองท้องทะเล ได้แต่ร่ำไห้คร่ำครวญมิรู้เหนื่อย สะบัดเท้าเร่าๆ เหมือนทารก ปล่อยตัวจนน่าเกลียดเสียยิ่งกว่าเก่า ก่อเกิดเป็นเทพชั่วร้ายมากมายจากความเศร้า ประหนึ่งแมลงวันเดือนห้า นำมาซึ่งความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

กาลเป็นเช่นนั้น เทพอิซานางิผู้เป็นบิดา จึงรับสั่งเนรเทศโอรสให้ออกไปเสียจากการปกครองท้องทะเล ในเมื่อเขาเอาแต่ใจและไร้ค่า อยู่ต่อไปก็หาประโยชน์อันใดมิได้…แม้เช่นนั้น สึซาโนโอะก็หาได้สะทกสะท้านไม่ แต่ก็ดันระลึกถึงพี่สาวขึ้น จึงออกเดินทางไปยังทากามางาฮาระแห่งสวรรค์ ด้วยหวังจะไปร่ำลาอามาเทระสึก่อนจาก

สรวงสวรรค์ ดินแดนแห่งความเงียบสงบ

สวรรค์ภายใต้การปกครองของอามาเทระสึช่างเงียบสงบ ต้นไม้ล้วนมีแต่กิ่งที่ผลิใบอ่อนแลดูเขียวขจี มีนกน้อยบินรื่นรมย์ตลอดปี ท้องทุ่งสวยสดงดงามด้วยฝูงม้า สัตว์ต่างๆ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เบิกบานใจ

แต่แล้วความสงบเรียบร้อยของสรรพสัตว์ และความงามของพืชนานาพันธุ์ ก็สูญสิ้นไปพร้อมๆ กับเสียงดังสวบๆ สนั่นลั่น ราวกับแผ่นดินจะแยกแตกเป็นเสี่ยงๆ ทุกก้าวที่เดินไปคันนาก็พังทลายลงสิ้น ต้นไม้หักโค่นราบเตียนไม่เหลือสิ่งใด

อามาเทระสึตกใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมองออกไปจึงเห็นชายร่างใหญ่เดินไหล่กระเพื่อมมาด้วยพลังมหาศาล…”ไม่ผิดแน่ เป็นเจ้าน้องชายของข้านั่นเอง สงสัยจะมาแย่งครองดินแดนของข้าเป็นแน่!!” เมื่อคิดได้เช่นนั้น จึงรีบหลบลี้เข้าไปแฝงกายอยู่ในถ้ำใหญ่ที่เรียกกันว่า “อาเมะโนะอิวายะ” หรือถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งสวรรค์ แลโลกมนุษย์จึงมืดมิดลงโดยพลัน มิสามารถแบ่งแยกกลางวันกลางคืนได้เป็นเวลานานแสนนาน สร้างความเดือดร้อนในแดนสวรรค์ยิ่งกว่าคราใด

อุบายอันแยบยล เพื่อลวงอามาเทระสึให้เผยกายอีกครั้ง

เทพทั้งหลายไม่อยู่นิ่ง ต่างพากันวางอุบายเพื่อจะนำความสว่างไสวกลับมาให้ได้อีกครั้ง และเทพอาวุโสคาเมะอิคาเนะ จึงได้เสนอหนทางแก่เทพทั้งหลายให้ได้ลงมือ…

เหล่าเทพได้เตรียมง้าวอันงดงามทำด้วยเหล็กจากภูเขาลูกหนึ่งบนสวรรค์นั้น สร้อยมณีจากมณีทรงลูกน้ำ 500 ดวง มีกระจกแผ่นใหญ่ร้อยติดไว้ด้วยกัน แล้วจึงต้อนไก่ที่มีชื่อว่านางานะคิโทริมารวมกันไว้จำนวนมาก ด้วยเหตุที่ไก่ชนิดนี้มีนิสัยชอบขันยาวๆ และนานๆ และประดับกิ่งต้นซากะคิด้วยสร้อยมณีนั้น โดยให้กระจกประดับไว้ตรงกลางต้น ก่อนจะนำสิ่งของทั้งหมดนี้ตรงไปยังถ้ำที่อามาเทระสึแฝงกายอยู่ภายใน

นำถังไม้คว่ำลงที่กลางวง และให้เทพอาเมะโนะอุซึเมะ ผู้งดงามแต่มีลักษณะคล้ายบุรุษ ขึ้นไปร่ายรำบนถังไม้ สร้างความครื้นเครง เคล้าเสียงดนตรี เสียงหัวเราะร่าของเหล่าเทพ และเสียงไก่ขันยาวนานอึกทึกครึกโครมไปทั่วสวรรค์ ดังถึงขั้นเล็ดลอดเข้าไปในถ้ำสวรรค์ จนอามาเทระสึก็ฉงนใจถึงเสียงต่างๆ พาลให้แง้มประตูหินเปิดออกเพื่อแอบดูว่าสิ่งใดเล่า ที่เกิดขึ้นภายนอก

“ข้าไม่อยู่เสียคนหนึ่งโลกทั้งใบต้องมืดมิด ไหนเลยพวกท่านถึงได้โห่ร้องเหมือนดั่งคนเสียจริตเช่นนี้ได้เล่า?” อามาเทระสึถามไปด้วยใจสงสัย

“ก็เพราะมีเทพองค์ใหม่ที่มีมหิทธานุภาพเหนือกว่าท่านมาแทนอย่างไรเล่า!” เทพอาเมะโนะอุซึเมะผู้กำลังร่ายรำแสร้งหลอก…

กาลนั้นเอง กระจกที่ประดับไว้ก็สะท้อนภาพเรือนร่างอันงดงามส่งแสงประกายระยับของอามาเทระสึ ด้วยมิทันสังเกตว่าเป็นภาพสะท้อนของตนเอง แลสำคัญผิดว่าตนได้พบกับเทพองค์ใหม่ จึงเผลอผลักประตูหินออก แล้วเผยกายออกสู่สวรรค์ นำความสว่างไสวกลับมาสู่โลกอีกวาระหนึ่ง คืนอันมืดมิดก็พลันสดใสขึ้น สรวงสวรรค์จึงได้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง…อุบายอันแยบยลสัมฤทธิ์ผล

สึซาโนโอะ ผู้ถูกเนรเทศซ้ำ ไปสู่โลกมนุษย์

บทลงโทษแก่ความเลวร้ายที่สึซาโนโอะได้นำมาสู่สรวงสวรรค์ ทำให้เทพทั้งหลายขับไล่เขาออกจากดินแดนอันสงบสุขนี้ แต่ก่อนไปก็ได้จับเขาตัดเล็บ โกนหนวด ชำระล้างความสกปรกเสียให้เกลี้ยงเกลา ก่อนจะลงไปสู่โลกด้วยประการฉะนี้เอง

…เรื่องราวบนสวรรค์ก็จบลงด้วยกาลนี้ นอกจากความบันเทิงในตำนานโคะจิกิที่ผมเล่ามาแล้ว ความในบทนี้ยังสะท้อนให้เห็นความเชื่อในแบบชินโต ว่างานครื้นเครง ดนตรี และการร่ายรำ เป็นสิ่งที่ใช้ในการบูชาเทพเจ้าในความเชื่อของพวกเขา เทพเจ้าของพวกเขาเป็นผู้รักสนุก และรักความสะอาดยิ่งกว่าใครทั้งปวง…เพื่อน ๆ ก็คงจะสังเกตได้จากงานเทศกาลทั้งหลายที่ยังสืบทอดมาจนกระทั่งปัจจุบันใช่ไหมหล่ะครับ? มีงานเทศกาลไหนบ้าง ที่เราไม่เห็นการโห่ร้องของผู้คน? งานไหนบ้างที่เราไม่เห็นการร่ายรำและดนตรี? หรืองานไหนบ้างที่เราไม่เห็นความสะอาดเป็นที่สุด แม้ว่าคนจะเนืองแน่นแค่ไหนก็ตาม? ทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่มีที่มาที่ไป แถมยังถูกบันทึกไว้ในโคะจิกินี้มานานกว่า 1,300 ปีเลยทีเดียวนะครับ!!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save