ออนเซ็น หรือ น้ำพุร้อน ถูกค้นพบตั้งแต่สมัยโบราณของญี่ปุ่น และยังมีกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งในญี่ปุ่น สำหรับฝั่งยุโรปดูเหมือนว่าออนเซ็นจะถูกมองว่าเป็นการรักษาทางการแพทย์อย่างหนึ่ง แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นแล้ว ออนเซ็นเป็นสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมกับผ่อนคลายและบำบัดรักษาจิตใจ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ในญี่ปุ่นต่างเข้ามาใช้บริการออนเซ็นอย่างต่อเนื่องมายาวนาน แต่การแช่ออนเซ็นนั้นเป็นเพียงการเอาตัวเอาไปแช่ในน้ำร้อน หรือว่ามีอะไรมากกว่านั้น? บทความนี้จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ
วิธีการแช่ออนเซ็นขั้นพื้นฐาน
วิธีการขั้นพื้นฐานในการแช่ออนเซ็นของญี่ปุ่น มี 4 อย่าง ดังต่อไปนี้
1. อันดับแรก ก่อนลงแช่ต้องเติมน้ำให้กับร่างกายด้วยการดื่มเครื่องดื่มประเภทเกลือแร่
เนื่องจากการลงไปแช่ออนเซ็น ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นเนื่องจากเหงื่อออก ความหนืดของเลือดจึงเพิ่มมากขึ้นไปด้วย เพราะร่างกายสูญเสียน้ำ ดังนั้นก่อนแช่ 15- 30 นาที ให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเกลือแร่หรือวิตามินซี และหลังจากแช่เสร็จแล้ว ควรจะต้องดื่มน้ำ 1 แก้ว จะทำให้ร่างกายไม่อ่อนล้าจากการสูญเสียเหงื่อ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนและหลังการแช่เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก หากต้องการดื่มจริง ๆ ให้ดื่มพอรับรู้การเมานิด ๆ หน่อย ๆ โดยยังสามารถควบคุมสติได้ แต่จะให้ดี ไม่แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังแช่ออนเซ็นดีกว่าค่ะ
2. ต่อมาอาบน้ำล้างตัวให้สะอาด
ถ้าเป็นออนเซ็นของทางยุโรป มาตรฐานคือผู้หญิงและผู้ชายสามารถลงไปแช่พร้อมกันได้โดยสวมใส่ชุดว่ายน้ำ แต่ออนเซ็นของญี่ปุ่นนั้น ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายจะลงแช่โดยการเปลือยกาย และแน่นอนว่าก่อนที่คุณจะลงแช่ออนเซ็น จะต้องมีการทำความสะอาดร่างกายเสียก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวคิดตามหลักการศาสนาพุทธและชาติพันธุ์ญี่ปุ่น ที่ว่าจะต้องชำระร่างกายและจิตใจให้สะอาดเสียก่อนที่จะลงแช่ออนเซ็นที่เปรียบเสมือนว่าการแช่ออนเซ็นเป็นการรับพรจากโลก ดังนั้นการอาบน้ำให้ร่างกายสะอาดก่อนแช่ออนเซ็นจึงไม่ได้หมายความว่าเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปเพียงอย่างเดียว สิ่งนี้คือหนึ่งในความน่าสนใจของออนเซ็นญี่ปุ่นที่แฝงมากับวัฒนธรรมและการดำเนินชีวิต
3. ราดน้ำอุ่นลงบนตัว
ออนเซ็นส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นมีอุณหภูมิสูงถึง 39 – 42 °C ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่คนญี่ปุ่นรู้สึกสบายที่สุด แต่หากเข้าไปแช่ทันทีในขณะที่อุณหภูมิสูงเช่นนี้ ร่างกายจะรู้สึกว่ามันร้อนเป็นพิเศษเพราะร่างกายอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นกว่า ดังนั้นการราดด้วยน้ำอุ่นก่อนลงแช่จึงเป็นการปรับร่างกายให้เตรียมพร้อมก่อนลงแช่ออนเซ็นนั่นเอง วิธีการราดน้ำอุ่นลงบนตัว เริ่มจาก “เท้าขวา→เท้าซ้าย→เข่าขวา→เข่าซ้าย→สะโพกขวา→สะโพกซ้าย→ท้อง→ไหล่ขวา→ไหล่ซ้าย→หลัง” ทั้งหมด 10 ขัน หรือปริมาณที่ใกล้เคียง 10 ขัน เพื่อให้ร่างกายชินกับความร้อน ทำให้ง่ายต่อการแช่ออนเซ็นเหมือนการวอร์มก่อนออกกำลังกายและยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
4. ลงไปแช่แบบเปลือยได้เลย โดยไม่ต้องใส่ผ้าขนหนู
หลังจากเตรียมพร้อมร่างกายแล้ว ก็ถึงเวลาลงแช่ออนเซ็น เหตุผลที่ออนเซ็นในญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำผ้าขนหนูเข้าไปก็เพราะว่าเมื่อล้างร่างกายสะอาดแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ผ้าขนหนูลงไปให้น้ำสกปรก แต่ก็มีออนเซ็นบางแห่งที่อนุญาตให้เอาผ้าขนหนูเล็ก ๆ เข้าไปได้ โดยผู้คนส่วนใหญ่มักจะวางผ้าขนหนูผืนเล็กบนศีรษะ เพราะส่วนศีรษะที่ไม่โดนน้ำร้อนอาจจะเย็นลงได้ การวางผ้าขนหนูจึงเป็นช่วยให้ศีรษะอบอุ่น
จุดสำคัญคือ เมื่อได้แช่ออนเซ็นแล้ว จะต้องแช่ให้เหงื่อออกมามากที่สุด
วิธีการแช่ออนเซ็นที่แนะนำมากที่สุดคือ “ไม่ควรแช่ครั้งเดียวนานเกินไป” เพราะออนเซ็นของญี่ปุ่นมีอุณหภูมิที่สูงและมีส่วนผสมแร่ธาตุมากมาย การแช่ในระยะเวลาที่พอดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ลองจินตนาการเปรียบเทียบการแช่ออนเซ็นเหมือนการทอดไก่ หากลงทอดลงในน้ำมันที่ร้อนจัดทีเดียว จะมีเพียงหนังไก่เท่านั้นที่สุกไหม้ แต่ถ้าค่อย ๆ ทอดด้วยความร้อนที่พอดีและมีการตักออกมาพักและลงไปทอดเรื่อย ๆ จนสุก ก็จะได้ไก่ทอดที่กรอบนอกนุ่มใน การแช่ออนเซ็นก็เช่นเดียวกัน อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศามีผลต่อร่างกายอย่างมาก การแช่ออนเซ็นให้ได้ประสิทธิภาพนั้นจะต้องให้ร่างกายได้รับความร้อนไปถึงข้างใน ถึงจะทำให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดี ส่งผลให้ผิวพรรณงดงาม ดังนั้นการแช่ออนเซ็นจะต้องไม่แช่เพียงครั้งเดียวนาน ๆ แทนที่จะเป็นการแช่ยาว 15 นาที ให้แบ่งเป็น 3 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ผู้เชี่ยวชาญด้านออนเซ็นแนะนำว่าจะทำให้เหงื่อออกมามากเลยทีเดียว
แต่ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านออนเซ็นก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การแบ่งเวลาเช่นนี้ขึ้นอยู่กับส่วนผสมแร่ธาตุของออนเซ็นแต่ละแห่งด้วยเช่นกัน แต่โดยทั่วไปหากแช่ถึง 5 นาที เหงื่อก็เริ่มออกแล้ว หากต้องการจะแช่นานมากกว่า 5 นาที ก็สามารถทำได้ แต่ไม่ควรเกิน 10 นาที โดยควรขึ้นมาพัก 1 ครั้ง นอกจากนี้ในสถานที่ให้บริการออนเซ็นก็มีการบริการแช่เท้ากับมือด้วยเช่นกัน การแช่น้ำกับมือให้อุ่นเป็นการช่วยให้เลือดในร่างกายไหลเวียนดีขึ้น ดังนั้นหากต้องการจะแช่นาน ๆ อาจจะเปลี่ยนมาแช่เท้ากับมือแทนก็ได้
วิธีการแช่ออนเซ็นเพื่อฟื้นตัวจากความเมื่อยล้าและเสริมความงาม
หากต้องการจะฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้า ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ทำโดยวิธีการ “แช่น้ำร้อนสลับกับน้ำเย็น” โดยหลังจากที่ขึ้นจากการแช่ออนเซ็นแล้วให้ใช้น้ำเย็นราดที่ตัวทันที จะทำให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุด หากใครที่ไม่อยากราดทั้งตัว ก็สามารถราดแค่ส่วนปลายเท้าหรือปลายมือก็ได้ หลังจากนั้นก็ลงไปแช่ออนเซ็นต่ออีกครั้ง วิธีการนี้จะทำให้การไหลเวียนของเลือดถูกกระตุ้น สามารถผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้ และวิธีนี้ยังแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมอาหารอีกด้วย
ออนเซ็นของญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อว่ามีส่วนผสมแร่ธาตุที่ทำให้ผิวสวยเรียบเนียน ทุกครั้งที่ขึ้นจากการแช่ออนเซ็นผิวหนังของคุณจะถูกรีเซตใหม่ เป็นช่วงเวลาที่ผิวหนังจะดูดซับครีมบำรุงที่ทาลงไปมากที่สุด ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าหลังจากแช่ออนเซ็น ให้ล้างตัวให้สะอาดอีกครั้งเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกที่ออกมาตามรูขุมขน และหลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วให้รีบทาครีมบำรุงทันที เพื่อทำให้ผิวหนังได้รับประโยชน์จากครีมบำรุงมากที่สุด
มารยาทขั้นพื้นฐานที่พึงปฏิบัติในการแช่ออนเซ็น
การแช่ออนเซ็นเป็นการใช้สถานที่บริการรวมที่ไม่ได้มีแต่เราเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องคำนึงถึงผู้ใช้ท่านอื่นให้มาก ๆ มารยาทขั้นพื้นฐานที่ควรปฏิบัติคือ ไม่ลงไปแช่ในบ่อออนเซ็นแบบรวดเร็วทันที แต่ให้ค่อย ๆ ลงไปแช่ ระวังอย่าให้น้ำกระเพื่อมไปโดนผู้อื่น ระวังอย่าให้ผ้าขนหนูโดนน้ำออนเซ็น และไม่นำศีรษะลงไปจุ่มในออนเซ็น เป็นต้น ออนเซ็นไม่เหมือนกับสระว่ายน้ำ ต่อให้บ่อกว้างขนาดไหนคุณก็ไม่สามารถว่ายน้ำในนั้นได้ ดังนั้นจึงต้องระวังข้อนี้เป็นพิเศษ นอกจากนี้ออนเซ็นของญี่ปุ่นยังเป็นสถานที่แห่งการสื่อสาร ในกรณีที่มีคนเข้าไปแช่ก่อนคุณอยู่ คุณสามารถที่จะทักทายโดยการส่งยิ้มแล้วพูดว่า “คอนนิจิวะ(สวัสดี)” ได้เช่นกัน และหลังจากที่แช่เสร็จจะขึ้นจากออนเซ็นคุณก็สามารถกล่าวคำอำลาด้วยคำว่า “โอซาคินิ(ขอตัวก่อน)”
หลังจากที่ขึ้นจากออนเซ็นมายังห้องแต่งตัว จะมีผ้าขนหนูผืนใหญ่และผืนเล็กเตรียมไว้ให้ สำหรับผ้าขนหนูผืนใหญ่นั้นเอาไว้เช็ดร่างกายให้แห้ง ก่อนที่จะเข้าไปห้องแต่งตัว เมื่อไปถึงจุดที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ก็เอาวางไว้ด้านล่างเพื่อรองเท้า ส่วนผ้าขนหนูผืนเล็กก็จะใช้เช็ดหลังกับขาให้แห้งอีกครั้ง
ออนเซ็นเป็นสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่เงียบสงบและผ่อนคลาย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือการเตรียมใจให้พร้อมกับสิ่งแวดล้อมเช่นนั้น ในขณะที่แช่ออนเซ็นคุณจะได้สัมผัสกับเสียงน้ำไหล เสียงนก เสียงคลื่นทะเลและกลิ่นของดอกไม้ใบหญ้า โดยเฉพาะยุคที่ต้องทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนทั้งวัน ดังนั้นการแช่ออนเซ็นจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้คุณได้รู้สึกสงบผ่อนคลายและเพลิดเพลินสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ
สรุปเนื้อหาจาก: onsen-s
ผู้เขียน: KOKATETA