วัฒนธรรมโอตาคุในที่นี้ หมายถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เหล่าโอตาคุมักทำกันเรื่อยมา ซึ่งกิจกรรมที่ว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ตนให้ความสนใจ ชื่นชอบ อาจถึงขั้นคลั่งไคล้ ถ้าพูดถึงในสมัยนี้ก็อย่างเช่น ไปคอนเสิร์ตศิลปินที่ชอบ ซื้ออัลบั้มซื้อกู๊ดส์ เข้ากลุ่มแฟนคลับตามเว็บไซต์หรือห้องแชทหาเพื่อนร่วมคุยเรื่องของโอชิ เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่ในสมัยเฮเซหรือเรวะแต่มีมาตั้งแต่สมัยเมจิแล้ว แต่จะเป็นในรูปแบบไหน มาหาคำตอบได้ในบทความนี้กันค่ะ
ทำความรู้จักนักเล่าเรื่องหญิงสุดฮอต ไอดอลสมัยเมจิ
娘義太夫。女義太夫ともいい、江戸の頃に始まる。明治になって美貌と美声を売りにアイドル的な義太夫語りがあらわれて、熱狂的に支持された。書生達が詰めかけ、サワリ(佳境)になると「どうするどうする」と声をかける「どうする連」(一種のコールをかける追っかけ)が現れた。 #わろてんか pic.twitter.com/adq4ZKImsa
— 酒上小琴【サケノウエノコゴト】 (@raizou5th) October 15, 2017
ในสมัยเมจิ นักเล่าเรื่องหญิงที่เรียกกันว่า อนนะกิดะยู หรือ มุสุเมะกิดะยู (女義太夫・娘義太夫) เป็นที่นิยมมาก นักเล่าเรื่องหญิงที่ว่านั้นหมายถึงผู้หญิงที่ทำหน้าที่เล่าเรื่องราวต่างๆ ควบคู่กับคนดีดชามิเซ็นให้จังหวะ เป็นการแสดงโจรุริ (浄瑠璃) ประเภทหนึ่งซึ่งริเริ่มโดยทาเคโมโตะ กิดะยู (竹本義太夫) ในสมัยเอโดะตอนต้น
นักเล่าเรื่องหญิงในสมัยนั้น ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนไอดอลหญิงในสมัยปัจจุบัน คอลัมน์นิตยสารที่เกี่ยวกับนักเล่าเรื่องหญิงก็ได้รับความนิยมจากผู้อ่านมากเช่นกัน มีหลายคนที่อายุยังน้อย ประมาณ 6-15 ปี ที่ได้รับความนิยมสุดๆ คือโทะโยะทะเคะ โระโช (豊竹呂昇) และ ทาเคะโมะโตะ อะยะโนะสุเคะ (竹本綾之助)
เสียงเชียร์จาก โดสุรุเร็น โอตาคุผู้เร่าร้อน
アイドルオタクの誕生を1970年代に求める人もいるけど、明治時代の「堂摺連(ドウスルレン)」に始まりを見出す人もいる。
同摺連は娘義太夫という弾語りを行う娘の熱烈なファンを指す。
徒党を組んで客席で騒いだり、勝手に太夫の護衛行なったり、ファン同士で語り合ったりとその原型が垣間見える pic.twitter.com/YSAFHnLSi5— HAL@古き悪しき時代大好き侍 (@HAL9152) April 30, 2018
การมีแฟนคลับที่คอยตามเชียร์ตามให้กำลังใจนั้นเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนมีชื่อเสียงโด่งดัง แน่นอนว่านักเล่าเรื่องหญิงเองก็เช่นกัน
ขณะแสดง เมื่อนักเล่าเรื่องหญิงดำเนินมาถึงฉากเข้มข้น แฟนๆ ที่นั่งอยู่ก็จะส่งเสียงว่า “โดสุรุ โดสุรุ (どうする、どうする)” ตั้งแต่นั้นมาจึงเรียกแฟนๆ ผู้เร่าร้อนเหล่านี้ว่า “โดสุรุเร็น (堂摺連)” คนที่คอยปรบมือให้จังหวะก็มี และว่ากันว่าบางคนถึงกับเอาก้นถ้วยชามาขูดกันแล้วส่งเสียงเชียร์เอะอะก็มีเหมือนกัน
สำหรับใครที่เคยไปคอนเสิร์ตพอจะคุ้นๆ กันมั้ยคะ? นี่มันเหมือนกับตอนที่ผู้ชมส่งเสียงเชียร์ศิลปินในยุคปัจจุบันเลย
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับวีรกรรมของแฟนคลับในสมัยนั้นอีกว่า ตอนที่นักเล่าเรื่องหญิงเผลอทำปิ่นปักผมหล่นขณะทำการแสดง ถึงกับเกิดสงครามขนาดย่อมๆ ระหว่างแฟนคลับเพื่อแย่งชิงปิ่นปักผมนั้นเลยทีเดียว หรือไม่ก็ตอนที่นักเล่าเรื่องหญิงขึ้นรถลากเพื่อย้ายไปแสดงในโรงละครอื่น แฟนคลับบางคนถึงกับวิ่งไล่ตามก็มี ทำให้มีการเรียกแฟนคลับที่เร่าร้อนถึงขนาดวิ่งไล่ตามรถลากว่า โอคคะเคะเร็น (追駆連) ซึ่งเป็นที่มาของคำว่าโอคคะเคะ ที่แปลว่า ไล่ตาม (追っかけ) ในปัจจุบันนั่นเอง
ฮอตขนาดกุมหัวใจนักเขียนชื่อดัง
นักเล่าเรื่องหญิงไม่ได้เป็นที่นิยมแค่กับคนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังสามารถกุมหัวใจเหล่านักเขียนชื่อดังสมัยเมจิได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นนัตสึเมะ โซเซกิ, ทาคาฮามะ เคียวชิ, ชิกะ นาโอยะ ต่างก็เป็นโอตาคุตัวยงของนักเล่าเรื่องหญิง
นัตสึเมะ โซเซกิก็เคยเขียนถึงนักเล่าเรื่องหญิงลงในนิยายเรื่องยาวของตน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซันชิโร่ (三四郎) หรือ โคจิน (行人)
ชิกะ นาโอยะก็เคยพร่ำเพ้อรำพรรณถึงนักเล่าเรื่องหญิงในไดอารี่ของตน เขาเป็นแฟนคลับตัวยงของโทะโยะทะเคะ โระโช ทั้งใช้นามแฝงส่งแฟนเลทเทอร์ไปให้ ทั้งเอาโปสเตอร์มาติดในห้อง ทั้งคุยกับเพื่อนโอตาคุถึงโอชิที่ชอบ ทั้งยังเคยแวะไปโรงละครหลังกลับจากงานศพคนรู้จัก
หลายๆ อย่างที่กล่าวไปด้านบนคล้ายกับแฟนคลับในสมัยนี้เลย ทำให้รู้ว่าต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความชอบและพฤติกรรมของแฟนคลับที่มีต่อโอชิก็มีลักษณะคล้ายๆ กันเพียงแต่มีความแตกต่างเล็กน้อยตามยุคสมัย ไม่รู้ว่าในอนาคตที่เทคโนโลยีก้าวหน้า แฟนคลับจะเชียร์ไอดอลในรูปแบบไหน จะเป็นแบบตัวอวาตาร์เข้าไปเชียร์ในคอนเสิร์ตออนไลน์หรือเปล่า? พอลองจินตนาการดูก็สนุกดีเหมือนกันนะคะ
สรุปเนื้อหาจาก meijimura