หลายคนคงทราบกันดีว่าการสวม “ชุดกิโมโน” หรือ “ชุดยูกาตะ” ตามวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้น จะต้องสวมโดยนำปกเสื้อด้าน “ซ้ายทับขวา” เสมอ นั่นเป็นเพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า การสวมชุดแบบ “ขวาทับซ้าย” เป็นลางร้าย ไม่เป็นมงคล เพราะเป็นวิธีการสวมผ้าห่อศพสำหรับผู้เสียชีวิตนั่นเอง
ในครั้งนี้ เราจะพาผู้อ่านทุกท่านไปหาคำตอบกันว่า ทำไม? การสวมชุดกิโมโนแบบขวาทับซ้ายจึงเป็นสิ่งไม่เป็นมงคลในวัฒธรรมญี่ปุ่น และทำไม? ผ้าห่อศพตามพิธีกรรมของญี่ปุ่น จะต้องสวมแบบขวาทับซ้ายและเป็นชุดกิโมโนสีขาว
ทำไมผ้าห่อศพต้องเป็นสีขาว?
“ชินิโชโซะคุ” (死装束) หรือ ผ้าห่อศพ คือชุดกิโมโนสีขาวที่จะสวมใส่ให้ผู้เสียชีวิตก่อนการบรรจุศพ ส่วนใหญ่ชาวญี่ปุ่นมักเรียกชุดนี้ว่า “ชิโรโชโซะคุ” (白装束) โดยมีทฤษฎีเขียนอธิบายไว้มากมายเกี่ยวกับเหตุผลที่ผ้าห่อศพตามพิธีกรรมของญี่ปุ่นเป็นสีขาว โดยเราจะขอยกตัวอย่าง 2 ทฤษฎี ดังนี้
1. เพื่อให้ผู้เสียชีวิตเดินทางไปยังแดนสุขาวดีด้วยจิตใจบริสุทธิ์
ทฤษฎีเกี่ยวกับชุดชินิโชโซะคุที่น่าเชื่อถือที่สุดได้อธิบายเอาไว้ว่า ในการธุดงค์ออกไปศึกษาหรือแสวงบุญของนักบวชนั้น จำเป็นต้องละทิ้งกิเลสและความคิดอันไม่บริสุทธิ์ทั้งหมด และคงไว้แต่จิตใจที่ใสสะอาด
ในการเดินทางไปยังแดนสุขาวดีของผู้เสียชีวิต ก็จะต้องไปด้วยสภาพร่างกายและจิตใจอันบริสุทธิ์เช่นเดียวกัน ชาวญี่ปุ่นจึงสวมผ้าห่อศพสีขาว เพื่อให้ผู้เสียชีวิตเดินทางไปยังแดนสุขาวดีได้อย่างสงบสุขนั่นเอง
2. เพราะสีขาว คือสีที่แสดงถึงความตาย
ชาวญี่ปุ่นเชื่อเรื่องสีมงคล “โคฮาคุ” หรือ “สีแดงและสีขาว” มาตั้งแต่โบราณ โดยเชื่อว่าสีแดง หมายถึง “การเกิด” มีที่มาจากสีร่างกายของเด็กทารกแรกเกิด ดังนั้นสีขาวจึงมีความหมายตรงข้ามกับการมีชีวิตอยู่ หมายถึง “ความตาย” และ “โลกหลังความตาย” นั่นเอง
ทำไมต้องสวมผ้าห่อศพแบบ “ขวาทับซ้าย”
มี 2 ทฤษฎีที่น่าสนใจเขียนเกี่ยวกับเหตุที่ต้องสวมชุดชินิโชโซะคุแบบ “ขวาทับซ้าย” อธิบายไว้ดังนี้
1. กฎการสวมใส่เครื่องแต่งกายในยุคนาระ
ทฤษฎีที่น่าเชื่อถือที่สุดได้เขียนอธิบายเกี่ยวกับกฎหมายการสวมใส่เครื่องแต่งกายในยุคนาระเอาไว้ว่า ในปี 718 พระจักรพรรดินีเก็นโชได้ออกคำสั่งเกี่ยวกับการสวมใส่เครื่องแต่งกาย หรือ “เอะบุคุเรียว” (衣服令) ว่า “ประชาชนจะต้องสวมกิโมโนแบบซ้ายทับขวาเท่านั้น” เพื่อเป็นการแบ่งแยกระหว่างประชาชนทั่วไปและชนชั้นสูงผู้มียศฐาบรรดาศักดิ์
จากนั้นมา ประชาชนทั่วไปจะสวมเครื่องแต่งกายแบบ “ซ้ายทับขวา” ส่วนชนชั้นสูงจะสวมเครื่องแต่งกายแบบ “ขวาทับซ้าย” อย่างไรก็ตาม ในพิธีศพของประชาชนทั่วไปในยุคนั้น จะมีการส่งผู้เสียชีวิตขึ้นสวรรค์ด้วยการสวมเครื่องแต่งกายแบบเดียวกับชนชั้นสูง จนเกิดเป็นธรรมเนียมที่ว่า ผู้เสียชีวิตจะต้องสวมชุดแบบ “ขวาทับซ้าย” สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
2. เพราะพระพุทธเจ้าทรงผ้าจีวรแบบ “ขวาทับซ้าย” ก่อนปรินิพพาน
ครั้นเมื่อพระพุทธองค์ทรงเสด็จปรินิพพานทรงผ้าจีวรแบบ “ขวาทับซ้าย” ชาวญี่ปุ่นจึงเชื่อว่า การสวมเครื่องแต่งกายแบบซ้ายทับขวาแสดงถึง “ภพภูมิปัจจุบัน” และการสวมเครื่องแต่งกายแบบขวาทับซ้ายจะมีความหมายตรงกันข้าม แสดงถึง “ภพภูมิหลังความตาย” นั่นเอง
หวังว่าเพื่อน ๆ จะเข้าใจเหตุผลที่ผ้าห่อศพตามพิธีกรรมของญี่ปุ่นต้องเป็น “ชุดสีขาว” และต้องสวมแบบ “ขวาทับซ้าย” กันไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม หากเพื่อน ๆ มีโอกาสได้สวมชุดกิโมโนหรือชุดยูกาตะ ก็ต้องไม่ลืมที่จะสวมแบบ “ซ้ายทับขวา” เสมอ! และสำหรับใครที่จะถ่ายรูปสวมชุดกิโมโนลงโซเชียล ก็ต้องระมัดระวังฟังก์ชัน กลับภาพ (Flip) ในแอปพลิเคชันถ่ายรูปด้วยนะคะ ถึงแม้จะใส่กิโมโนถูกต้อง แต่ถ้ารูปภาพกลับด้านจนดูเหมือนว่าใส่กิโมโนแบบ “ขวาทับซ้าย” ก็อาจเกิดดราม่าเล็ก ๆ ได้ เพราะชาวญี่ปุ่นค่อนข้างถือความเชื่อนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
สรุปเนื้อหาจาก : syukatsulabo