ฤดูใบไม้ร่วงจัดว่าเป็นฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวผลไม้จำนวนมาก เช่น องุ่น และ สาลี่ เป็นต้น วันนี้พวกเราจึงได้คัดสรรสวนผลไม้ที่อยู่ใกล้กับโตเกียวซึ่งเพื่อนๆ สามารถเก็บผลไม้ที่อยู่ในสวนติดไม้ติดมือกลับไปรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยได้ด้วย และยังสามารถเดินทางไปง่ายๆ โดยการขึ้นรถไฟจากสถานีโตเกียว เมื่อถึงสถานีอันเป็นจุดหมายปลายทางแล้ว ใช้เวลาเดินต่ออีกไม่เกิน 10 นาที ก็ถึงที่หมายแล้วครับ ถ้าเพื่อนๆ ลองออกไปเก็บผลไม้พร้อมกับครอบครัวหรือคนรักในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะสนุกขนาดไหนกันนะ ?
หมายเหตุ : ข้อมูลการเก็บผลไม้และกิจกรรมต่างๆ ที่ปรากฏในบทความนี้ เป็นข้อมูล ณ ปี 2020 หากเพื่อนๆ สนใจจะเข้าชมสวนผลไม้ต่างๆ ที่พวกเราได้รวบรวมมา ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ทางการของสวนผลไม้แต่ละแห่งอีกครั้ง
ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลย !
1. สวนมะสะคะโดะเอ็น (将門園) จังหวัดไซตะมะ
View this post on Instagram
สวนมะสะคะโดะเอ็น เป็นสวนที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันแสนงดงาม ที่สำคัญคือสวนผลไม้แห่งนี้เน้นปลูกองุ่นพันธุ์เคียวโฮ (巨峰) เป็นหลัก และยังมีองุ่นสายพันธุ์อื่นๆ อีกประมาณ 10 สายพันธุ์ ด้วยกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม: ลักษณะเด่นขององุ่นพันธุ์เคียวโฮ คือ มีสีม่วงอมดำ ขนาดใหญ่ เนื้อองุ่นชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ มีกลิ่นหอม และรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นองุ่นที่ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นมากที่สุด
View this post on Instagram
นอกจากนี้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมจนถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม เพื่อนๆ สามารถเก็บองุ่นที่พร้อมเก็บเกี่ยวในช่วงเวลานั้นได้ด้วย แต่ก็อาจมีองุ่นบางสายพันธุ์ที่ไม่สามารถเก็บกลับไปได้นะ แต่อย่างไรก็ดี ที่สวนแห่งนี้ยังมีองุ่นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนั่นคือ องุ่นจิจิบุยะมะรุบี้ (ちちぶ山ルビー) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองจิจิบุนั่นเอง และยังเป็นองุ่นที่สามารถทานได้โดยไม่ต้องปลอกเปลือกอีกด้วย แนะนำว่าให้เพื่อนๆ ลองซื้อกลับไปทานกันดูนะ
เว็บไซต์: masakadoen.com
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Chichibu (秩父鉄道) มาลงที่สถานี Bushuhino (武州日野駅) และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
ที่ตั้ง: 533-1 Arakawahino, Chichibu, Saitama
2. สวนโนะกุจิโนเอ็น (野口農園) จังหวัดชิบะ
View this post on Instagram
สวนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึโดะ (松戸市) จังหวัดชิบะ ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม จนถึงปลายเดือนกันยายน เพื่อนๆ สามารถเก็บสาลี่ลูกกลมโตหลากหลายสายพันธุ์กลับไปได้ด้วย เช่น สาลี่พันธุ์โคซุย (幸水) พันธุ์โฮซุย (豊水) และพันธุ์นิอิทากะ (新高) เป็นต้น
View this post on Instagram
ที่สวนแห่งนี้ นอกจากจะเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ได้ลองมีประสบการณ์เก็บสาลี่ลูกใหญ่ เนื้อในชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ รสชาติหวานอร่อยแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับให้ลองชิมรสชาติของสาลี่ในสวนด้วยนะ นอกจากนี้ ยังได้ยินมาว่าตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม จนถึงต้นเดือนกันยายน จะเป็นช่วงเวลาที่ทางสวนเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ สามารถเก็บลูกเกาลัดได้ด้วย ส่วนในเดือนพฤศจิกายนตั้งแต่ช่วงกลางเดือนจนถึงปลายเดือน จะเป็นช่วงเวลาสำหรับเก็บผลกีวี่ครับ
เว็บไซต์: noguchi.shisyou.com
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Tobu Urban Park Line (東武アーバンパークライン) มาลงที่สถานี Mutsumi (六実駅) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที
ที่ตั้ง: 3-chōme−51−1, Mutsumi, Matsudo, Chiba
3. สวนยะมะไดโนเอ็น (やまだい農園) จังหวัดนะกะโนะ
View this post on Instagram
สวนแห่งนี้ได้เพาะปลูกแอปเปิ้ลบนผืนดินของจังหวัดนะกะโนะซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแอปเปิลชินชู (信州りんご) มาเป็นระยะเวลากว่า 100 ปี แล้ว นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม: แอปเปิลชินชู (信州りんご) ภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า ชินชูริงโกะ คือชื่อเรียกของแอปเปิลที่ได้ปลูกบนผืนดินของจังหวัดนะกะโนะ ซึ่งเป็นจังหวัดที่เพาะปลูกแอปเปิลเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น)
View this post on Instagram
ในทุกๆ ปี เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวของแอปเปิลแต่ละสายพันธุ์ ทางสวนจะเปิดให้คนทั่วไปเข้าแบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ดังนั้น เพื่อนๆ จึงสามารถเข้าไปเก็บแอปเปิลได้โดยไม่ต้องเกรงใจเจ้าของสวนเลยล่ะ และหากเพื่อนๆ ท่านใดมีน้องๆ หนูๆ ที่บ้าน หรือสัตว์เลี้ยงแสนรักล่ะก็ จะพามาช่วยเก็บแอปเปิลด้วยก็ได้นะ ทางสวนเค้ายินดีต้อนรับจ้า
ข้อมูลเพิ่มเติม : สวนแห่งนี้เค้ามีช่อง YouTube เป็นของตัวเองด้วยนะ เพื่อนๆ ท่านใดอยากทราบข้อมูลประวัติความเป็นมาของสวนแห่งนี้เพิ่มเติม สามารถรับชมได้จากด้านล่างนี่เลย
เว็บไซต์: apple-nagano.com
วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟสายสาย Shinano (しなの鉄道) มาลงที่สถานี Toyono (豊野駅) และเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
ที่ตั้ง: 1793 Akanuma, Nagano
4. สวนชิเซ็นโนเอ็นโทมิโอกะ (自然農園冨岡) จังหวัดนะกะโนะ
View this post on Instagram
สวนแห่งนี้เป็นสวนออแกนิกที่คนในครอบครัวเจ้าของสวนช่วยกันบริหารจัดการ ที่สำคัญคือที่นี่เค้าเคร่งครัดในเรื่องการใช้ปุ๋ยออแกนิก 100% เป็นอย่างมาก โดยทางสวนจะทำการฉีดพ่นน้ำคลอเรลลา (クロレラ) ไปยังต้นไม้ผลต่างๆ ภายในสวน ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ข้อมูลเพิ่มเติม : น้ำคลอเรลลา (Chlorella) ภาษาญี่ปุ่นอ่านว่าคุโระเระระ (クロレラ) เป็นน้ำที่มีสีเขียว และจัดเป็นปุ๋ยออแกนิกชนิดหนึ่งที่เกษตรกรใช้เป็นปุ๋ยให้แก่พืชผลทางการเกษตร
View this post on Instagram
ว่ากันว่าสวนแห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากที่สุดในเมืองเลยทีเดียว โดยตั้งแต่ปลายเดือนกันยานจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน เพื่อนๆ สามารถสนุกสนานไปกับการเก็บแอปเปิลในสวนได้ด้วย และยังได้ยินมาว่าลูกท้อ ลูกเนคทารีน และลูกพลัม ก็สามารถเก็บได้ด้วยนะ แต่เนื่องจากลูกพลัมของสวนแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก บางครั้งก็ขายหมดในชั่วพริบตา ระวังจะพลาดอดทานของอร่อยนะ
วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Nagano (長野電鉄) มาลงที่สถานี Obuse (小布施駅) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
ที่ตั้ง: 300-1 Tsusumi, Obuse, Kamitakai District, Nagano
5. สวนบุโดโนะฮะยะคะวะเอ็น (ぶどうの早川園) จังหวัดยะมะนะชิ
View this post on Instagram
สวนผลไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดยะมะนะชิ ตรงทางเข้าวัดไคเซ็งโคจิ (甲斐善光寺) เพื่อนๆ ท่านใดที่ชื่นชอบการทานองุ่นเป็นชีวิตจิตใจห้ามพลาดสวนแห่งนี้เด็ดขาด เพราะเป็นสวนที่ให้เพื่อนๆ เข้ามาเก็บองุ่นโดยเฉพาะเลยจ้า
View this post on Instagram
และยังได้ยินมาว่า ที่สวนแห่งนี้ได้รวมรวบองุ่นสายพันธุ์หายากจากทั่วโลกไว้เป็นจำนวนมาก หากเพื่อนๆ ท่านใดอยากลิ้มรสองุ่นสายพันธุ์ต่างๆ จากทั่วโลกที่ทางสวนเค้าได้รวบรวมไว้ทั้งหมดล่ะก็ คงจะเป็นไปได้ยากหน่อยนะ เพราะมีมากกว่า 40 สายพันธุ์ เลยทีเดียว สมกับเป็นสวนเฉพาะทางองุ่นจริงๆ หากลองชวนเพื่อนๆ มาช่วยกันเก็บองุ่นสายพันธุ์ต่างๆ แล้วนำมาแบ่งปันแลกเปลี่ยนกันคงจะเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกดีนะ
เว็บไซต์: budou.or.tv
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR zenkoji (JR 善光寺) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ที่ตั้ง: 2 Chome-4-15 Zenkoji, Kofu, Yamanashi
6. สวนบัมโปเอ็นบุโดคะริ (盤峰園ぶどう狩り) จังหวัดโทชิกิ
View this post on Instagram
ส่วนผลไม้ที่ดูโดดเด่นสะดุดตาแห่งนี้ มีพื้นที่กว้างถึง 80,000 หมื่นตารางเมตร โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนถึงเดือนตุลาคม จะมีองุ่นอยู่สองสายพันธุ์ที่เพื่อนๆ สามารถเข้ามาเก็บได้ คือ องุ่นพันธุ์เคียวโฮ (巨峰) และพันธุ์เดลาแวร์ (デラウェア)
View this post on Instagram
นอกจากนี้ที่สวนเค้ายังมีน้ำแข็งไสคาคิโกริรสองุ่น (ぶどうのかき氷) และ เฟรบเป้รสองุ่นให้เพื่อนๆ ได้เลือกซื้อทานกันด้วย และที่นี่เค้ามีให้ลองตกกุ้งเครฟิชด้วยนะ ดังนั้น หากเพื่อนๆ ท่านใดสนใจก็สามารถพาน้องๆ หนูๆ ที่บ้านมาหาประสบการณ์ตกกุ้งเครฟิชที่นี่ได้เลยจ้า
เว็บไซต์: yomogi.or.jp
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Ohirashita (JR大平下駅) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 นาที
ที่ตั้ง: 1837 Ohiramachi Tomida, Tochigi, 329-4404, Japan
7. สวนฮะมะมะสึฟุรุสึปาคุโทคิโนะซุมิกะ (はままつフルーツパーク時之栖) จังหวัดชิซุโอกะ
View this post on Instagram
สวนแห่งนี้มีเนื้อที่ขนาดใหญ่เท่ากับโตเกียวโดมจำนวน 9 โดม เลยทีเดียว ได้ยินมาว่าในแต่ละปี เพื่อนๆ สามารถเข้ามาเก็บผลไม้ในสวนแห่งนี้ได้มากถึง 15 ชนิด ด้วยกัน
View this post on Instagram
สวนแห่งนี้เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เพื่อนๆ สามารถเก็บสาลี่และลูกมะเดื่อในสวนได้ด้วยนะ เรียกได้ว่าเป็นสวนที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะแทบจะไม่มีสวนแห่งไหนเลยที่จะมีลูกมะเดื่อให้เก็บ และในแต่ละฤดูเพื่อนๆ ยังสามารถเข้ามาเก็บผลไม้หลากหลายชนิดที่เจริญเติบโตในฤดูกาลนั้นๆ ได้ด้วย โดยเพื่อนๆ สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของสวนเลยจ้า นอกจากนี้ภายในสวนยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย ถ้าเพื่อนๆสามารถพาน้องๆ หนูๆ ที่บ้านมาด้วยล่ะก็ รับรองว่าสนุกสนานได้ทั้งวันแน่นอน
เว็บไซต์: tokinosumika.com
วิธีเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Tenryuhamanako (天竜浜名湖鉄道) มาลงที่สถานี Fruit park
(フルーツパーク駅) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
ที่ตั้ง: 4263-1 Miyakodacho, Kita Ward, Hamamatsu, Shizuoka
ออกไปสัมผัสฤดูใบไม้ร่วงโดยการเก็บผลไม้กันเถอะ !
เป็นอย่างไรบ้างครับกับข้อมูลสวนผลไม้ต่างๆ ที่พวกเราได้รวบรวมมาในวันนี้ หากเพื่อนๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกับครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนซี้ การไปลองเก็บผลไม้ด้วยกันอาจจะกลายเป็นความทรงจำดีๆ ในฤดูใบไม้ร่วงก็ได้นะ สุดท้ายนี้ ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าการเก็บผลไม้และกิจกรรมต่างๆ ที่ปรากฏในบทความนี้ เป็นข้อมูล ณ ปี 2020 หากเพื่อนๆ สนใจจะเข้าชมสวนผลไม้ต่างๆ ที่เราได้รวบรวมมา ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ทางการของสวนผลไม้แต่ละแห่งอีกครั้งนะ ^_^
สรุปเนื้อหาจาก retrip
ผู้เขียน : Aongsama