นอกจากการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย การออกกำลังกาย และการพักผ่อนที่เพียงพอแล้ว การดื่มชาสมุนไพรบางชนิดก็ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้นทำให้ไม่ป่วยง่าย มารู้กันว่ามีชาสมุนไพรใดบ้างที่คนญี่ปุ่นบอกต่อกันว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
1. ชาดอกเอลเดอฟลาวเวอร์ (Elderflower tea)
ชาดอกเอลเดอฟลาวเวอร์มีฤทธิ์ขับปัสสาวะช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย มีฤทธิ์ละลายเสมหะ ทำให้ทางเดินหายใจโล่งจึงช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้ละอองฟางและโรคจมูกอักเสบได้ดี นอกจากนี้ การดื่มชาดอกเอลเดอฟลาวเวอร์ก่อนนอนยังช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและทำให้นอนหลับได้สนิท
2. ชาคาโมมายล์ (Chamomile tea)
ชาคาโมมายด์ช่วยบรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หลอดลมอักเสบ อาการปวดท้องและปวดประจำเดือน หากสูดไอของชาดอกคาโมมายล์จะช่วยบรรเทาอาการไข้ละอองฟางและคัดจมูกได้ นอกจากนี้ สารอะซูลีน (Azulene) ที่มีมากในชาจะช่วยซ่อมแซมและทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ระบบย่อยอาหารกลับมาทำงานได้ดีขึ้นหลังอาการเจ็บป่วยไม่สบาย อย่างไรก็ดี มีข้อควรระวังคือ สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชาชนิดนี้
3. ชาดอกเอ็กไคนาเชีย (Echinacea tea)
ชาดอกเอ็กไคนาเชียมีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียจึงช่วยป้องกันไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้ดี นอกจากนี้ ชาชนิดนี้ยังมีฤทธิ์ช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้และมีประสิทธิภาพช่วยบรรเทาอาการไข้ละอองฟาง โรคผิวหนังและโรคโพรงจมูกอักเสบที่มีสาเหตุมาจากภูมิแพ้ ข้อควรระวังคือ สตรีมีครรภ์และแม่ที่กำลังให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการดื่มชาชนิดนี้
4. ชาโรสฮิป (Rosehip)
ชาโรสฮิปมีสรรพคุณช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัสจึงช่วยป้องกันและบรรเทาไข้หวัดได้ดี นอกจากนี้ ชาชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายด้วยแสงแดด ข้อควรระวังคือไม่ควรดื่มมากเกินไปเพราะจะทำให้ปวดท้องได้
นอกจากชาเขียวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายแล้ว ชาที่กล่าวไปข้างต้นยังเป็นชาที่ได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นไม่น้อย นอกจากการดื่มเพียวๆ แล้วก็ยังสามารถนำชาเหล่านี้มาผสมกันเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น สามารถดื่มได้วันละ 3-4 ถ้วยโดยไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ (ยกเว้นชาบางชนิดที่สตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่ม)
สรุปเนื้อหาจาก haramedical