ตอนที่ 1 ผมได้นำเสนอวิธีการเก็บใบชาแบบไม่ให้เสียของกันไปแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นความรู้เรื่องชาขั้นพื้นฐานมาก ๆ สิ่งที่ทำให้ชาเสื่อมคุณภาพลงได้คือ ออกซิเจน ความชื้น แสงแดด ความร้อน และการติดกลิ่น สรุปคือแค่เก็บชาของท่านให้พ้นจาก 5 สิ่งนี้ได้มากที่สุดก็ยิ่งดีนั่นเอง แต่ในความเป็นจริงมันก็ยากใช่ไหมครับ แต่ครั้งนี้เราจะมาพบวิธียืดวันหมดอายุของใบชาเขียวให้ได้มากที่สุดกัน!
วันหมดอายุบนซองไม่ตรงเสมอไป
ความจริงแล้วในภาษาญี่ปุ่นคำว่าวันหมดอายุมี 2 แบบครับ คือ 1. วันหมดอายุควรบริโภค (消費期限) หมายถึง เราจะทานได้ถึงแค่วันที่ระบุไว้เท่านั้นนะ เลยจากนั้นจะบูดเสีย และ 2. วันหมดอายุรสชาติ (賞味期限) หมายถึง สินค้าของเราจะอร่อยถึงแค่วันนี้เท่านั้นนะ ต่อจากนั้นก็ไม่อร่อยแล้วนะ โดยมากผลิตภัณฑ์อาหารมักจะเขียนแบบที่ 2 เพื่อไม่ให้ลูกค้าติงได้ว่ากินก่อนวันหมดอายุควรบริโภคแล้วไม่อร่อย สำหรับชาเองก็มักจะเป็นแบบที่ 2 ครับ แปลว่าถึงจะเลยวันหมดอายุแล้วก็ยังชงดื่มได้อยู่นั่นเองแม้ว่ารสชาติจะหายไปเรื่อย ๆ ก็ตาม
ทีนี้มันเกี่ยวอะไรกับชาล่ะ? นั่นก็คือวันหมดอายุรสชาติที่ระบุไว้นั้นความจริงแล้วคือวันหมดอายุภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ชานั้นถูกเก็บรักษาในอุณภูมิปกติโดยที่ยังไม่แกะซองนั่นเอง แปลว่าถ้าเราแกะซองแล้วมันจะหมดอายุรสชาติเร็วขึ้นเนื่องจากสัมผัสกับอากาศและความชื้นนั่นเองครับ กลับกันวิธีเก็บชาที่เปลี่ยนไปก็ทำให้อายุหดหรือยืดได้เช่นกัน ถ้าเก็บไว้ในที่อุณหภูมิสูงก็จะอายุสั้นลงอย่างไม่ต้องสงสัย อ้าว แล้ววิธียืดอายุล่ะ? นั่นก็คือ…
ถ้ายังไม่เปิดซองใบชาให้จับแช่ตู้เย็น
ท่านที่อ่านวิธีเก็บชาเขียวญี่ปุ่นตอนที่แล้วอาจจะพูดว่า อ้าว! ไหนว่าห้ามใส่ตู้เย็นไง!? จริงอยู่ว่าหากเปิดซองแล้วใส่ตู้เย็น กลิ่นอาหารก็อาจจะติดใบชาได้ แถมพอเอาออกมาไอน้ำในอากาศจะไปเกาะใบชาอย่างรวดเร็วเหมือนแก้วน้ำปั่นเปียก ๆ แต่ถ้าท่านยังไม่เปิดซองก็ไม่มีปัญหา! การนำซองใบชาเขียวไปแช่ช่องแข็งจะยืดอายุใบชาได้ถึง 2 ปีทีเดียว ใบชาส่วนใหญ่มีอายุ 1 ปีนับจากบรรจุซองหรือก็คือถ้าแช่ช่องแข็งก็จะบวกอายุไปอีก 1 ปีครับ แน่นอนว่าจะใส่ช่องเย็นธรรมดาก็ได้เหมือนกันแต่จะอยู่ได้ไม่นานเท่าครับ แต่ว่าถ้าเปิดซองแล้วล่ะ…?
แบ่งชาเป็นหลาย ๆ ส่วน
หากเราแกะซองแล้ววิธีที่ดีที่สุดในการรักษาคือชงให้หมดภายใน 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนครับ แต่ทราบหรือไม่ว่าการแบ่งชาเก็บไว้หลาย ๆ ส่วนจะช่วยให้ยืดการเสื่อมถอยของรสชาติได้ ทำไมกันล่ะ? ลองนึกดูนะครับ หากเราเก็บชาไว้ในที่เดียว ทุกครั้งที่เปิดมาชง อากาศก็จะเข้า ๆ ออก ๆ ทุกครั้งใช่ไหมครับ นั่นทำให้รสชาติใบชาเสื่อมลงเรื่อย ๆ แต่ถ้าเราเก็บไว้หลายส่วน ชาส่วนที่แบ่งไว้จะสัมผัสอากาศน้อยครั้งกว่า พอชงที่แบ่งไว้ส่วนหนึ่งหมดแล้วไปเปิดอีกส่วนหนึ่ง ใบชาส่วนนั้นที่สัมผัสอากาศแค่ครั้งเดียว ย่อมจะคงรสชาติได้นานกว่าใบชาที่โดนอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าครับ
ไม่ทันจริง ๆ ให้ใส่ถุงซิปล็อกแช่ตู้เย็น
หากท่านทำอย่างไรก็ดื่มให้หมดใน 1 เดือนไม่ทัน ก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากจะใส่ตู้เย็นครับ ตอนใส่ขอให้ใส่ถุงซิปล็อกไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อกันไอน้ำเกาะเวลาเอาออกจากตู้เย็นให้ได้มากที่สุด และพอเอาออกมาแล้วต้องวางทิ้งไว้ให้หายเย็นครับ จะให้ดีก็วางทิ้งไว้วันเต็ม ๆ เลย
เป็นอย่างไรบ้างครับ เท่านี้ต่อให้ซื้อชามาเป็นโหลก็ไม่ต้องกลัวชงไม่ทันแล้วนะครับ เพราะแค่แช่ช่องฟรีซไว้ ก็ยืดเวลาชงได้อีกปีเต็ม ๆ ไปญี่ปุ่นแต่ละครั้งก็ซื้อตุนไว้ปีนึงไปเลย!
ผู้เขียน: Guno
