เมื่อเข้าเดือนมิถุนายน ผลไม้ชนิดหนึ่งซึ่งมีสีเหลืองอมส้มคล้ายมะยงชิดน่าตาน่ากินจะถูกนำมาวางขายอยู่ตามร้านขายผักและซุปเปอร์มาร์เก็ตของญี่ปุ่น ผลไม้ชนิดนี้เรียกว่า โลควอท (Loquat) หรือ บิวะ มารู้จักผลไม้บิวะกันนะคะ
ลักษณะของผลบิวะ
บิวะ (Biwa, 枇杷) เป็นผลไม้ที่มีชื่อพ้องเสียงกับพิณบิวะ (琵琶) เครื่องดนตรีของญี่ปุ่น เหตุที่เรียกผลไม้นี้ว่าบิวะนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าผลไม้ชนิดนี้มีรูปทรงคล้ายกับพิณญี่ปุ่นนั่นเอง ผลบิวะมีสีเหลืองอมส้ม มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เนื้อบิวะจะฉ่ำมีรสหวานหรือหวานอมเปรี้ยวตามแต่พันธุ์ เมล็ดมีสีออกน้ำตาลดำค่อนข้างใหญ่ จึงมีส่วนของเนื้อผลไม้ให้รับประทานค่อนข้างน้อย

พันธุ์ของบิวะ
ในญี่ปุ่นมีการปลูกบิวะในพื้นที่ไม่กี่จังหวัดได้แก่ นางาซากิ (Nagasaki) ชิบะ (Chiba) เอฮิเมะ (Ehime) คุมาโมโตะ (Kumamoto) และคาโกชิมะ (Kagoshima) ร้อยละ 80 ของบิวะที่ผลิตได้ในญี่ปุ่นจะมาจากสองสายพันธุ์หลัก ได้แก่
- โมเทกิ บิวะ (Motegi Biwa, 茂木びわ) ซึ่งมีผลขนาดเล็กประมาณ 50 กรัม มีเนื้อค่อนข้างหนาและมีรสหวาน บิวะพันธุ์นี้สามารถหารับประทานได้เฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน
- ทานากะ บิวะ (Tanaka biwa, 田中びわ) ซึ่งมีผลใหญ่กว่าโมเทกิ บิวะคือประมาณ 70 กรัม บิวะพันธุ์นี้จะมีสีสวยที่ผสมกันระหว่างสีส้มและสีเหลือง มีรสชาติที่สมดุลระหว่างความเปรี้ยวกับความหวาน พันธุ์นี้จะมีรสชาติที่อร่อยและมีราคาแพงกว่าพันธุ์โมเทกิ บิวะ และหารับประทานได้เฉพาะช่วงเดือนมิถุนายนเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ที่ปลูกค่อนข้างน้อยจากจังหวัดโคจิ (Kochi) ชื่อพันธุ์คุสึ บิวะ (Kusu biwa, 楠びわ) ซึ่งเป็นบิวะที่ออกผลในเดือนพฤษภาคมมีรสชาติหวาน
วิธีการรับประทานบิวะให้อร่อย
บิวะเป็นผลไม้ที่บอบบางช้ำได้ง่ายระหว่างการขนส่ง ผลบิวะจึงค่อนข้างมีราคาแพงเมื่อเปรียบเทียบกับส่วนที่รับประทานได้ จากสถิติพบว่าคนญี่ปุ่นรับประทานบิวะสดเฉลี่ยแค่คนละ 3 ผล วิธีการรับประทานนั้นทำได้โดยการลอกเปลือกออกและนำมารับประทานทันที ไม่ควรทิ้งไว้นาน เนื่องจากบิวะประกอบไปด้วยเอนไซม์ออกซิเดสและสารแทนนินซึ่งจะทำให้เนื้อบิวะมีสีน้ำตาลและมีรสฝาด ทั้งนี้วิธีการชะลอการเกิดสีน้ำตาลของผลบิวะนั้นทำได้โดยการแช่ผลบิวะที่ปอกใหม่ในน้ำผสมน้ำส้มหรือมะนาว
ผลบิวะกับผลิตภัณฑ์อาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
นอกจากการนำมารับประทานสดแล้วคนญี่ปุ่นยังสร้างคุณค่าของผลไม้โดยการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น แยม ใส่ในเยลลี่ และนำมาทำไอศกรีมซึ่งให้รสชาติที่หวานหอมอร่อยสร้างความสดชื่นต้อนรับบรรยากาศการเริ่มต้นฤดูร้อนได้ดี
ได้รู้จักบิวะกันแล้วนะคะ หากมาญี่ปุ่นในช่วงเดือนมิถุนายนจะสามารถหาซื้อบิวะสดๆ มารับประทานได้ง่าย แต่หากมาในช่วงอื่นของปีก็ลองหาเจลลี่บิวะมารับประทานดูนะคะ ผลิตภัณฑ์จากบิวะเหล่านี้จะมีวิธีการถนอมให้มีรสชาติที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากๆ ค่ะ