ประโยชน์ของ “เก๋ากี้” และปริมาณการรับประทานในมุมมองของคนญี่ปุ่น

คนไทยส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับไก่หรือหมูตุ๋นเครื่องยาจีน ซึ่งหนึ่งในเครื่องยาจีนที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายก็คือเก๋ากี้ ในญี่ปุ่นก็มีเก๋ากี้เหมือนกัน มารู้จักประโยชน์ของเก๋ากี้และปริมาณการรับประทานเพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายในมุมมองของคนญี่ปุ่นกันนะคะ

รู้จักกับเก๋ากี้

เก๋ากี้ หรือ โกจิเบอร์รี่ หรือ วูฟเบอร์รี่ เป็นผลไม้ขนาดเล็กจากไม้ยืนต้นในวงศ์ Solanaceae ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า คุโกะ (クコ) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยในญี่ปุ่นมีแหล่งปลูกอยู่ที่จังหวัดชิซุโอกะและโอคายามะ เก๋ากี้สดจะมีรูปร่างคล้ายมะเขือเทศขนาดเล็กที่ไม่สามารถเก็บผลสดไว้ได้นานเนื่องจากผิวผลจะลอกเสียได้ง่าย ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงนำมาตากแห้งและจำหน่ายเช่นเดียวกับเก๋ากี้จากจีน

ประโยชน์ของเก๋ากี้

เก๋ากี้อุดมไปด้วยวิตามิน ซี บี 1 บี 3 อี และบีต้า แคโรทีน ซึ่งมีบทบาทในด้านความงาม บำรุงสายตา และช่วยเสริมสร้างแข็งแรงของร่างกายตลอดจนช่วยป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อไวรัส มีบีเทน (Betaine) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการรักษาเซลล์ตับให้ทำงานปกติ ป้องกันไขมันพอกตับ และป้องกันโรคตับแข็ง มีกรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง ได้แก่ ไอโซลิวซีน วาลีน ทริปโตเฟน ธรีโอนีน ฮีสติดีน ฟีนิลอะลานีน ไลซีน ลิวซีน และเมทไธโอนีน ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นกรดอะมิโนที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หากร่างกายขาดกรดอะมิโนเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกซึมเศร้าได้ง่าย นอกจากนี้เก๋ากี้ยังอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่และป้องกันโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น มะเร็ง และความดันโลหิตสูง เป็นต้น จึงจัดเป็นหนึ่งในซุปเปอร์ฟู้ด (Superfood) ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ

วิธีการนำเก๋ากี้มารับประทาน

ร้านอาหารจีนในร้านอาหารญี่ปุ่นมักจะนำเก๋ากี้หรือคุโกะมาเสิร์ฟกับเมนูของหวานจีนที่เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นคือ เต้าหู้หวานอันนิน โทฟุ (Annin toufu, 杏仁豆腐) นอกจากนี้ยังนำมาตุ๋นกับเนื้อหมูหรือไก่ รับประทานกับสลัด รับประทานเป็นของว่างกับถั่วต่างๆ และนำมาดองเหล้า เป็นต้น

เต้าหู้หวานอันนิน โทฟุ
ขนมหวานแบบจีน
สลัดกะหล่ำปลีและเก๋ากี้
เก๋ากี้ตุ๋นหมู
เก๋ากี้ในของว่าง
เหล้าดองเก๋ากี้

ข้อควรระวังในการรับประทานเก๋ากี้

แม้ว่าเก๋ากี้จะอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหาร แต่ก็มีสารอัลคาลอยด์ (Alkaloids) ตามธรรมชาติในปริมาณเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป โดยทั่วไปแล้วปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวันคือ 10-20 กรัมหรือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ การรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้และปวดท้องได้

ในญี่ปุ่นเก๋ากี้หรือคุโกะจัดเป็นสมุนไพรที่ใช้ในการบำรุงร่างกายที่คนญี่ปุ่นให้ความนิยม อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากแต่ก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะพอดีเพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าโทษค่ะ

สรุปเนื้อหาจาก: kurashi-no

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save