แม้ว่าที่ญี่ปุ่นจะหาซื้อหอยลายญี่ปุ่นหรืออาซาริ (あさり) ได้ทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่จะรับประทานหอยลายอวบหวานอร่อยนั้นมีแค่สองช่วงของปีคือ ช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน และเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น โดยหนึ่งในเมนูเด็ดที่คนญี่ปุ่นนิยมชมชอบมากคือ หอยอาซาริหรือหอยลายญี่ปุ่นนึ่งสาเก มารู้วิธีการเอาทรายออกจากหอย วิธีการทำหอยลายญี่ปุ่นนึ่งสาเก และคุณค่าสารอาหารในหอยลายกันนะคะ
วิธีการเอาทรายและโคลนออกจากหอย
แม้ว่าจะมีหอยลายแบบที่เอาทรายออกแล้ววางจำหน่าย แต่เมื่อนำมาปรุงอาหารก็มักจะเจอทรายอยู่ดี คนญี่ปุ่นมีหลักการเอาทรายและโคลนออกจากหอยลายญี่ปุ่นดังนี้คือ
1. แช่หอยลายในน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นของเกลือประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเตรียมได้ง่ายโดยการละลายเกลือ 1 ช้อนชาในน้ำ 200 มิลลิลิตร
2. วางเรียงหอยในภาชนะก้นตื้นไม่ให้หอยซ้อนทับกัน เพราะหากซ้อนทับกัน หอยที่อยู่ด้านล่างจะดูดเอาทรายที่หอยตัวบนคายออกมา ทั้งนี้ปริมาณน้ำเกลือที่ใช้แช่ควรใช้ในปริมาณที่พอปิดตัวหอยได้ เพื่อให้หอยคายโคลนและทรายออกมาได้อย่างง่ายดาย
3. ปิดฝาภาชนะด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรืออลูมิเนียมฟอยล์ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้หอยรู้สึกว่าเหมือนอยู่ในทราย ซึ่งจะทำให้หอยคายทรายออกมาจนหมด อีกทั้งการปิดฝาภาชนะก็มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่หอยพ่นออกมาเปื้อนบริเวณรอบๆ ที่วางภาชนะ
4. วางภาชนะใส่หอยไว้ในตู้เย็นประมาณ 2-3 ชั่วโมง
วิธีการทำหอยลายนึ่งสาเก
วัตถุดิบ
- หอยลายญี่ปุ่น 300 กรัม
- สาเกปรุงอาหารหรือสาเกสำหรับดื่ม 3 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมหั่น เล็กน้อย
วิธีทำ
1. เตรียมน้ำเกลือโดยการละลายเกลือ 1 ช้อนโต๊ะครึ่งหรือประมาณ 9 กรัมในน้ำ 300 มิลลิลิตร จากนั้นเทน้ำเกลือลงในภาชนะที่เรียงหอยไว้ ปิดด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ และนำภาชนะไปวางไว้ในตู้เย็นประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาก็นำหอยลายมาล้างขัดให้สะอาด
2. หั่นต้นหอมให้มีขนาดเล็ก
3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง นำหอยใส่ในกระทะ เติมสาเกลงไป ปิดฝากระทะและเขย่ากระทะเป็นครั้งคราว รอจนฝาหอยเปิดออกแล้วจึงปิดไฟ ทั้งนี้ไม่ควรจะให้หอยสุกเกินไปเพราะจะทำให้หอยหดตัวและมีเนื้อสัมผัสเหนียว
4. ตักหอยลายใส่จาน โรยด้วยต้นหอมหั่น เสิร์ฟตามชอบ (โดยปกติหอยลายจะมีรสเค็มอยู่แล้ว แต่หากรู้สึกว่ารสชาติยังอ่อนก็เติมเกลือหรือโชยุลงไปเล็กน้อยก็ได้)
คุณค่าสารอาหารที่ทำให้คนญี่ปุ่นชอบรับประทานหอยลายญี่ปุ่น
นอกจากรสชาติอร่อยแล้ว หอยลายญี่ปุ่นยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่างๆ ได้แก่ แคลเซียม โพแทสเซียม สังกะสี และธาตุเหล็ก อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามิน B12 โดยในหอยลาย 100 กรัมมีวิตามิน B12 สูงถึง 20 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน (2.4 ไมโครกรัม) การรับประทานหอยลายเพียงวันละ 5 กรัมก็ให้ปริมาณวิตามิน B12 ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันแล้ว โดยวิตามินดังกล่าวมีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้คือ ช่วยบำรุงประสาท บรรเทาความเหนื่อยล้าของร่างกาย ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยให้มีสมาธิและความจำดี และผ่อนคลายความเครียด เป็นต้น นอกจากนี้หอยลายญี่ปุ่นยังอุดมไปด้วยทอรีน (Taurine) ซึ่งช่วยให้ตับทำงานได้ดี บรรเทาอาการเมาค้าง และทำให้เลือดไหลเวียนดี เป็นต้น
หอยลายญี่ปุ่นนึ่งสาเกเป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานเป็นกับแกล้ม หอยลายไทยก็อร่อยและมีคุณค่าทางอาหารไม่แตกต่างกัน หากเจอหอยลายสดๆ ลองซื้อมาทำดูนะคะ
สรุปเนื้อหาจาก: oceans-nadia