มะเขือม่วงหรือนะสึ (なす) เป็นหนึ่งในผักที่หารับประทานได้ตลอดทั้งปีในญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานมะเขือม่วงมาก เพราะนอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารมากมายแล้วยังอร่อยถูกปากด้วย มารู้ประโยชน์ของมะเขือม่วง วิธีการรับประทานเพื่อให้ประโยชน์ต่อร่างกายให้มากที่สุด และเมนูจากมะเขือม่วงสไตล์ญี่ปุ่นที่อร่อยเพื่อสุขภาพกันนะคะ
ประโยชน์ของมะเขือม่วง
มะเขือม่วงเป็นผักที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบร้อยละ 90 และให้พลังงานต่ำ โดยมะเขือม่วง 100 กรัมให้พลังงานเพียงแค่ 20 กิโลแคลอรี่ มะเขือม่วงมีเส้นใยอาหารสูงซึ่งช่วยป้องกันอาการท้องผูกและทำให้ระบบย่อยอาหารดี จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก
เปลือกของมะเขือม่วงอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ฟลาโวนอยด์ และแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน เสริมสร้างความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันของร่างกายและสายตา ช่วยให้ผิวพรรณสวยงามและป้องกันการแก่ก่อนวัย เป็นต้น นอกจากนี้มะเขือม่วงยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมซึ่งช่วยลดการบวมน้ำของร่างกายและช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายด้วย
วิธีการรับประทานมะเขือม่วงให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด
รับประทานโดยไม่ปอกเปลือกทิ้ง
เปลือกของมะเขือม่วงอุดมไปด้วยโพลีฟีนอลและแอนโทไซยานิน การรับประทานทั้งเปลือกจะช่วยคงคุณค่าสารอาหารไว้มากที่สุด อย่างไรก็ตามแอนโทไซยานินนั้นละลายน้ำได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการหั่นมะเขือม่วงแล้วนำไปแช่น้ำเป็นเวลานาน เพราะสารอาหารจะละลายไปกับน้ำ
ปรุงด้วยน้ำมัน
แอนโทไซยานินละลายในน้ำได้ง่ายทำให้สูญเสียสารอาหารเมื่อนำมาต้มด้วยน้ำ การผัดหรือทอดด้วยน้ำมันจะช่วยป้องกันไม่ให้แอนโทไซยานินและสารอาหารละลายออกจากมะเขือม่วงตามรอยหั่น วิธีการปรุงอาหารที่ดีเพื่อคงคุณค่าและรสชาติของมะเขือยาวให้มากที่สุดคือ การผัดหรือทอดเทมปุระ
ทำเป็นซุปมะเขือม่วง
หากต้องการหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำมัน การนำมะเขือม่วงมาทำเป็นแกงเลียงหรือซุปมิโสะก็เป็นอีกวิธีในการนำมะเขือม่วงมารับประทานให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยจะได้ระบแอนโทไซยานินที่ละลายออกมาในน้ำซุปจากมะเขือม่วงที่ต้มจนนิ่มแล้ว
วิธีทำมะเขือม่วงหมักน้ำซอสโชยุ
เมนูดังต่อไปนี้เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่คงไว้ซึ่งสารอาหารในมะเขือม่วงและรสชาติอร่อย ทั้งยังสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกายจากน้ำส้มสายชูญี่ปุ่นและขิง
วัตถุดิบ
- มะเขือม่วง 2 ผล
- ขิงขูด 1 ช้อนชา
- เกลือเล็กน้อย
- น้ำส้มสายชูญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. นำมะเขือม่วงมาล้างและหั่นให้มีขนาดประมาณ 1.5 เซนติเมตร
2. โรยเกลือลงไปบนมะเขือม่วงและวางไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นนำมาล้างผ่านตะแกรงอย่างรวดเร็วและวางให้สะเด็ดน้ำ

3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง เติมน้ำมันลงไป นำมะเขือม่วงลงไปทอดในกระทะจนเป็นสีน้ำตาลแล้วจึงพลิกกลับอีกด้าน รอจนมะเขือม่วงเป็นสีน้ำตาลแล้วจึงตักขึ้นและซับน้ำมันส่วนเกินออกด้วยกระดาษชำระสำหรับงานครัว

4. ผสมส่วนผสมของเครื่องปรุงสำหรับหมัก ได้แก่ โชยุ น้ำส้มสายชูญี่ปุ่น น้ำตาล เกลือเล็กน้อย และขิงให้เข้ากัน แล้วเทลงไปหมักกับมะเขือม่วงประมาณ 15 นาที จากนั้นจัดเสิร์ฟโดยโรยงาและต้นหอมหั่นเล็กน้อย
มะเขือม่วงจัดเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านความงามที่หาซื้อได้ง่ายในเมืองไทย เวลานำมาปรุงอาหารก็หลีกเลี่ยงการปอกเปลือกหรือนำมาต้มแยกน้ำทิ้งไปนะคะ
สรุปเนื้อหาจาก: mogwell.karadashift