หลังจากที่ Pokémon Tokyo Banana ได้ออกวางจำหน่ายโตเกียวบานาน่าลายปิกาจูแสนน่ารักไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้โปเกมอนตัวที่ 2 ก็พร้อมออกวางจำหน่ายแล้ว โดยครั้งนี้มาในลายน้องอีวุย โปเกมอนขวัญใจใครหลาย ๆ คน
Pokémon Tokyo Banana เป็นการคอลแลบกันระหว่าง “โปเกมอน” และขนมยอดฮิต “โตเกียวบานานา” ที่จะออกแบบขนมโตเกียวบานาน่าเป็นลายโปเกมอนให้น่ารักน่าทานยิ่งกว่าเดิม โดยน้องอีวุยนี้จะเริ่มทะยอยวางจำหน่ายที่ 7-eleven ทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2564
Eevee Tokyo Banana จะมาในธีม mofumofu หรือภาษาไทยคือ นุ่มฟูววว~ สปันจ์เค้กรสช็อกโกแลตเนื้อนุ่มด้านนอกอบออกมาเป็นลวดลายอีวุยน้อยน่ารัก สอดไส้ด้วยครีมคัสตาร์ดกล้วยรสคาราเมลมัคคิอาโต้ เป็นขนมที่เต็มเปี่ยมด้วยรสชาติแห่งความสุข เหมาะกับการทานในช่วงพักเบรคเสียจริง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการทานที่ยิ่งเพิ่มความอร่อยได้มากขึ้น เช่น นำไปแช่เย็น ก็จะเปลี่ยนเป็นไอศกรีม หรือหากนำไปปิ้งให้กลายเป็นเฟรนช์โทสต์ก็ไม่เลว สามารถทานได้หลากหลายแบบประหนึ่งเป็นน้องอีวุยที่วิวัฒนาการได้หลายร่างนั่นเอง
Eevee Tokyo Banana มีทั้งหมด 6 ลายด้วยกัน คือ Gokigen Eevee, Osumashi Eevee, Odekake Eevee, Wink Eevee, Hello Eevee และ Eevee Tail ทุกลายล้วนน่ารักอย่างไม่อาจต้านทานได้จริง ๆ โดยเฉพาะลายหางน้องอีวุยที่จะเป็นรูปหัวใจคิวท์ ๆ แถมยังเป็นลายที่หายากอีกด้วย ใส่มาในซองพลาสติกลายโปเกบอลสีสันน่ารักสดใสมาก ๆ
ตัวแพ็คเกจออกแบบในโทนสีส้ม-น้ำตาลเหมือนตัวอีวุย ให้ฟีลลิ่งที่มีความสนุกสนาน บนแพ็คเกจมีลวดลายน้องอีวุยในท่าทางต่าง ๆ ถึง 6 แบบ แฟนพันธ์ุแท้ต้องสะสมให้ครบแล้วล่ะค่ะ ในแพ็คเกจจะมี 2 ชิ้น ราคา 291 เยน
Eevee Tokyo Banana จะเริ่มวางจำหน่าที่ 7-eleven ทั่วประเทศญี่ปุ่นยกเว้นโอกินาว่า ในจำนวนจำกัดดังนี้
เริ่มจำหน่ายวันที่ 2 มกราคม
– โตเกียว, คานากาวะ, ชิบะ, ไซตามะ
เริ่มจำหน่ายวันที่ 16 มกราคม
– ฮอกไกโด, อาโอโมริ, อิวาเตะ, อาคิตะ, มิยางิ, ยามากาตะ, ฟุกุชิมะ, อิบารากิ, โทจิกิ, กุนมะ, นีงาตะ, โทยามะ, อิชิกาวะ, ฟุคุอิ
เริ่มจำหน่ายวันที่ 23 มกราคม
– ยามานาชิ, นากาโนะ, ชิซุโอกะ, ไอจิ, กิฟุ, มิเอะ, โอคายามะ, ฮิโรชิม่า, ทตโตริ, ชิมาเนะ, ยามากุจิ, โทคุชิมะ, คางาวะ, เอฮิเมะ, โคจิ
เริ่มจำหน่ายวันที่ 30 มกราคม
– โอซาก้า, เกียวโต, เฮียวโกะ, ชิกะ, นารา, วากายาม่า, ฟุกุโอกะ, ซากะ, นางาซากิ, โออิตะ, คุมาโมโตะ, มิยาซากิ, คาโกชิม่า
หากในปีหน้าได้มีโอกาสไปญี่ปุ่น ต้องไปลองสักครั้งแล้วล่ะค่ะ ^^
สรุปเนื้อหาจาก prtimes