พูดถึงข้าวเกรียบในไทย ที่เรารู้จักกันดีมักเป็นรสปลาหรือรสกุ้ง บางทีเราก็คิดว่าข้าวเกรียบกุ้งที่อยู่ในซองเป็นแท่งๆ ที่เรากินนับว่าเป็นข้าวเกรียบ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ข้าวเกรียบอย่างที่คนไทยคุ้นชินกัน แต่เป็นขนมจำพวกเซมเบ้ (せんべい เขียนคันจิได้ว่า 煎餅) ของญี่ปุ่น ถึงจะคล้ายคลึงกันตรงที่ทำจากข้าวเหมือนกันแต่มีที่มาต่างกันครับ วันนี้จะขอพูดถึงที่มาของทั้ง “ข้าวเกรียบ” แล้วก็ “เซมเบ้” กันเลยนะครับ
เซมเบ้
นิยามของขนม “เซมเบ้” ของญี่ปุ่น คือขนมที่ทำโดยการนวด “แป้งข้าวเจ้า” หรือ “แป้งสาลี” แล้วแผ่เป็นแผ่นบางๆ กลมๆ เอาไป “ปิ้ง” บนแผ่นเหล็ก (แต่ที่ทอดแบบน้ำมันท่วมก็มี)
มีคำกล่าวอ้างว่าขนมที่พอจะเคลมได้ว่าเป็นเซมเบ้ (คือเอาธัญพืชมาบดแหลกแล้วปิ้งกิน) นั้นมีมาแต่ยุคยาโยอิ เนื่องจากขุดพบสิ่งนี้ที่ซากโบราณสถานที่โยชิโนะการิ 吉野ヶ里遺跡 จังหวัดซากะ แต่ว่าเซมเบ้อย่างที่กินกันทุกวันนี้ ว่ากันว่ามีที่มาจากหญิงชราคนหนึ่งชื่อ “โอเซ็น” ซึ่งเปิดร้านขายดังโงะที่โซกะจูกุ (ปัจจุบันคือเมืองโซกะ 草加市 จังหวัดไซตามะ) ที่ทำเซมเบ้เพราะมีซามูไรคนหนึ่งไปบอกว่า “ลองเอาดังโงะมาบี้ให้แบนๆ แล้วปิ้งดูหน่อยเป็นไร” ก็เลยเกิดขนมเซมเบ้ขึ้นมา บ้างก็ว่าเกิดจากชาวนาที่โซกะจูกุบี้ข้าวสวยให้แบนๆ กลมๆ เอาไปตากแดด ใส่เกลือ ปิ้ง กินเป็นของว่าง กลายเป็นของกินคนเดินทางเลยแพร่ไปทั่วประเทศ ตอนหลังจึงมีคนคิดทำเซมเบ้รสโชยุ แล้วก็ได้รับความนิยมไปทั่ว กลายเป็นเซมเบ้อย่างที่กินทุกวันนี้
แน่นอนว่าเมื่อแพร่หลายไปทั่ว ต่างที่ก็ต่างประดิษฐ์คิดค้นทำให้ได้หน้าตาและรสชาติแปลกใหม่ต่างกันออกไป เช่น ฮอลันดาเซมเบ้ โอะนิกิริเซมเบ้ (ทำเป็นรูปสามเหลี่ยม) โนริเซมเบ้ (พันสาหร่าย) หรือโทคาราชิเซมเบ้ (ใส่พริกป่น) เอบิเซมเบ้ (ที่คนไทยเรียกข้าวเกรียบกุ้ง) ทาโกะเซมเบ้ อะไรก็ไม่ฮาเท่า “ชิกะเซมเบ้” (เซมเบ้กวาง ไม่ได้ทำจากเนื้อกวางนะ แต่ทำขายเอาป้อนให้กวางกิน พบได้ที่จังหวัดนาราตามริมทางตามวัดแถวนั้น)
ข้าวเกรียบ
จริงๆ อาหารของกินเล่นที่เรียกว่าข้าวเกรียบของไทยนั้นมีหลายอย่างตามท้องถิ่น เช่น ข้าวเกรียบว่าว (ทำจากข้าวเหนียวนึ่ง ตำให้เหนียวแล้วใส่น้ำตาล) ข้าวแคบ (ทำจากแป้งข้าวเหนียวที่เอาเมล็ดข้าวเหนียวมาโม่ ใส่น้ำ งาดำและเกลือ) แต่สองอย่างนี้เป็นของท้องถิ่นซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เห็น แต่ข้าวเกรียบที่คนไทยรู้จักกินในวงกว้างเห็นได้ตามตลาดทั่วไป เช่น ข้าวเกรียบปลา มีที่มาจากอินโดนีเซีย ข้าวเกรียบปลาแบบนี้ทำจากแป้งมัน (สมัยก่อนใช้แป้งสาคู) เอาแป้งผสมส่วนผสมปั้นแผ่เป็นชิ้นกลมๆ แบนๆ ตากแดกแล้วเอาไปทอดกินได้ และข้าวเกรียบแป้งมันนี่แหละที่มีสูตรดัดแปลงไปมากมาย เป็นข้าวเกรียบกุ้ง ข้าวเกรียบฟักทอง ข้าวเกรียบมันม่วง พบได้ตามร้านที่เขาขายถั่วต่างๆ ในตลาด ผู้เขียนชอบข้าวเกรียบปลามากๆ ครับ
ขอให้เจริญอาหารนะครับ สวัสดีครับ
สรุปเนื้อหาจาก เส้นทางเศรษฐี, Wikipedia