Sustainable Development Goals หรือ SDGs คือ เป้าหมายการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืน เป็นเป้าหมายที่องค์กรและธุรกิจต่างๆ ให้ความสนใจและปรับกิจกรรมทางธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายดังกล่าว ในบทความนี้จะมาแนะนำธุรกิจร้านขนมญี่ปุ่นเก่าแก่อายุกว่าร้อยปีที่นำ SDGs มาประยุกต์ใช้กับดำเนินธุรกิจค่ะ
ตู้จำหน่ายขนม วากาชิกาชา!?
箕面市高山堂さんの和菓子の自販機のアップです🙇♂️ pic.twitter.com/9rZedBtmlR
— ぷらもおやぢ(あにも工房)ヘナチョコプラモで小さな幸せ (@Hanksato) January 8, 2022
“ทาคายามาโดะ” เป็นร้านขนมวากาชิขนมหวานสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นอายุ 135 ปี เริ่มต้นกิจการในปี พ.ศ. 2430 ที่เมืองโอซาก้าและจำหน่ายวากาชิมากกว่า 50 ชนิด แต่ด้วยผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดขายลดลงมากถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด สาเหตุมาจากกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นผู้สูงวัยออกจากบ้านไม่ได้และยอดสั่งซื้อจากบริษัทต่างๆ ลดลง นอกจากนี้ยังต้องย่นเวลาทำการลงตามมาตรป้องกันโควิด-19 ทำให้ทางร้านตัดสินค้าตั้งตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ 24 ชม. โดยได้วางตู้จำหน่ายขนมอัตโนมัติซึ่งหาได้ยากในภูมิภาคคันไซ ตั้งตู้ที่สาขาหลักเมืองนิชิโนะมิยะ เมืองอามากาสะกิ จังหวัดเฮียวโกะ และเมืองมิโน จังหวัดโอซาก้า
อร่อยคุ้มเข้าถึงง่าย!
この類の薄皮で白あんを包んだ和菓子に目がない。
名前で即買い西宮 #高山堂 のスウィートまーめいど✨
📝
ままどおる、通りもん、母恵夢、ハーバー、さびえる、まーめいど_φ(・_・#進物メモ #食メモ_φ #お店メモ_φ #まーめいど#2021_φ pic.twitter.com/kqxdFTs2Bd— むぎ (@mugi5050) May 8, 2021
ทางร้านได้วางตู้จำหน่ายแบบแช่เย็นตามจุดจำหน่ายจุดละ 2 ตู้ ตู้แรกเป็นจะจำหน่ายสินค้า 8 อย่างรวมถึง “Sweet Mermaid” มันจูสไตล์ฝรั่งซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ส่วนตู้ที่สองจะจำหน่ายเฉพาะบัตเตอร์แซนด์วิช (บิสกิตสอดไส้บัตเตอร์ครีม) ทั้งหมด 6 รสชาติ โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ “SDGs Wagashi Gacha” ซึ่งเป็นการนำวากาชิที่รูปแบบไม่สวยหรือใกล้หมดอายุราคาระหว่าง 450 – 600 เยนทั้งหมด 3 ชิ้นมาจำหน่ายในราคาเพียง 300 เยนเท่านั้น! ขนมที่ขายในตู้ก็ไม่ธรรมดานะคะ เพราะเป็นขนมยอดนิยมที่ขายหมดตลอด ขอบอกว่าคุ้มมากๆ!
今日からまたお店が短縮営業で、
夜飯難民😭で、昼間発見した『高山堂』の和菓子自販機でバターサンドを買ってみた😄
甘党にはありがたい💖 pic.twitter.com/VEud4wdIgD— ふじワークス (@hujiworks) January 27, 2022
แน่นอนว่าผลตอบรับก็ดีมากเช่นกัน เพราะกลุ่มลูกค้าขยายตัวมากขึ้น จากเดิมที่ยอดขายส่วนใหญ่มาจากคนสูงวัยและบริษัทต่างๆ พอตั้งตู้อัตโนมัติก็มีกลุ่มนักเรียนชั้นประถมและวัยรุ่นหญิงแวะเวียนมาซื้อตอนช่วงเย็นมากขึ้น ทำให้ยอดขาดสูงกว่าที่คาดไว้ถึง 1.6 เท่า ทำให้ต้องเติมขนมสามช่วงเวลา เช้า กลางวัน เย็น โดยช่วงเวลาที่ทำยอดได้สูงสุดก็คือช่วงเย็นที่ตบะแตกง่ายที่สุดนั่นเองค่ะ
ที่ยอดขายพุ่งสูงขึ้น สาเหตุอาจจะเป็นเพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น กลับจากเรียนหรือทำงานก็กินขนมหวานๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอร้านเปิดหรือหาเวลาไปช่วงวันหยุด แล้วก็ได้ปริมาณที่พอเหมาะสำหรับทานคนเดียวอีกด้วย นอกจากนี้ทางร้านยังมีแพลนจะขยายตู้ไปตั้งตามสถานีรถไฟฟ้าหรือตามห้างสรรพสินค้าเพื่อเจาะตลาดและเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้นอีก ไอเดียดีมากๆ ถ้าไปคันไซอย่าลืมแวะไปทานกันนะคะ!
สรุปเนื้อหาจาก: Yahoonews