สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่น JR Times by JR East ก็เป็นเว็บหนึ่งที่เหมาะกับการทำการบ้านเพื่อเตรียมทริปลุยญี่ปุ่นค่ะ โดย JR Times by JR East เป็นเว็บไซต์ที่รวมทุกบทความเกี่ยวกับรถไฟที่นักท่องเที่ยวต้องรู้ รวมถึงบทความรีวิวรถไฟ Joyful Train ซีรี่ย์รถไฟที่มีรถไฟทั้งหมด 13 คันที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่ยานพาหนะเท่านั้น แต่รถไฟแต่ละขบวนต่างมีธีมเฉพาะของตัวเองที่จะมาสร้างความสนุกเพลิดเพลินให้กับการเดินทาง
สำหรับบทความนี้ เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ Joyful Train ทั้ง 13 ขบวนกันแบบครบที่เดียวจบ โดยเรามีแขกพิเศษคือคุณ Carissa Loh นักเขียนชาวสิงคโปร์ผู้ชื่นชอบการเดินทางด้วยรถไฟ และได้เดินทางด้วย Joyful Train มาแล้วทุกขบวนมาเป็นไกด์ให้กับเราค่ะ! หยิบกระเป๋า กระชับตั๋วรถไฟในมือให้พร้อม แล้วมาออกเดินทางกันเลย!
รู้จัก Joyful Train ทั้ง 13 ขบวนของ JR East

เมื่อพูดถึงญี่ปุ่นคุณอาจจะนึกภาพรถไฟชินกันเซ็นที่มีทั้งความเร็วที่เหนือชั้นและเทคโนโลยีที่ล้ำยุค แต่การนั่งรถไฟสายท้องถิ่นไปตามแถบชนบทเองก็เป็นประสบการณ์การเดินทางที่ลืมไม่ลงเช่นกัน ในพื้นที่แถบตะวันออกของญี่ปุ่น รถไฟ Joyful Train (のってたのしい列車, Nottetanoshii Ressha) ของ JR East ถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ว่านี้ โดยการพาผู้โดยสารอย่างคุณเดินทางไปบนขบวนรถไฟที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน พร้อมๆ กับค้นพบเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่ท้องถิ่นที่รถไฟวิ่งผ่าน!
นอกจากการเป็นยานพาหนะแล้ว รถไฟ Joyful Train แต่ละขบวนยังมาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แบ่งออกได้เป็นสี่กลุ่มดังนี้
1.รถไฟที่มีการตกแต่งภายในเฉพาะตัวและมีกิจกรรมพิเศษบนขบวนรถ
แม้จะดูไม่ค่อยออกเมื่อมองจากภายนอกขบวนรถ แต่เมื่อก้าวขึ้นไปคุณจะได้เห็นการตกแต่งภายในที่พิเศษแบบหาที่ไหนไม่ได้อีก โดยการตกแต่งภายในเหล่านี้จะอิงมาจากธีมเฉพาะตัวของขบวนรถ
Toreiyu Tsubasa: ชินกันเซ็นที่มาพร้อมกับออนเซ็นเท้า

ยามากาตะเป็นที่รู้จักในเรื่องของออนเซ็นรักษาโรคและผลไม้สดอร่อย และ Toreiyu Tsubasa ก็เป็นรถไฟความเร็วสูงที่สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงเอกลักษณ์ทั้งสองนี้ โดยบนขบวนรถมีทั้งที่นั่งเสื่อทาทามิ การตกแต่งในธีมผลไม้ และออนเซ็นเท้าอยู่ด้วย
อย่างหนึ่งที่คุณต้องลองให้ได้เมื่อนั่ง Toreiyu Tsubasa คือการแช่ออนเซ็นเท้าที่เป็นกิจกรรมที่ทั้งสนุกและชวนผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน และคุณยังจะได้ผ้าขนหนูผืนเล็กพร้อมถุงกลับไปเป็นของที่ระลึกอีกด้วย คล้ายกับที่คุณจะได้เวลาไปออนเซ็นจริงๆ เลยทีเดียว! ออนเซ็นเท้าเหล่านี้จะจัดให้เราได้นั่งหันเข้าหาหน้าต่างเพื่อชมวิวชนบทของญี่ปุ่นที่รถไฟวิ่งผ่าน
POKÉMON with YOU Train: รถไฟที่เต็มไปด้วยพิคาชู

ปิกาปิก้า! เชื่อว่าแฟนๆ ของพิคาชูสีเหลืองน่ารักนี้คงไม่ยอมพลาดโอกาสนั่งรถไฟ POKÉMON with YOU Train ขบวนนี้อย่างแน่นอน รถไฟขบวนนี้เริ่มวิ่งครั้งแรกในปี 2012 เพื่อคืนรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2011 รถไฟขบวนนี้ได้รับการปรับโฉมใหม่จนเป็นดีไซน์พิคาชูสดใสน่ารักอย่างทุกวันนี้
ทั้งภายนอกและภายในรถไฟต่างเต็มไปด้วยพิคาชูหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสนับร้อย ที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เห็นก็ต้องยิ้มไปตามๆ กัน นอกจากนี้ยังมีภาพเงาและรอยเท้าพิคาชูสุดคาวาอี้ที่ประดับตามที่นั่งและพื้นตู้รถโดยสาร และยังมีตุ๊กตาพิคาชูอีกเป็นสิบๆ ตัวรอเราอยู่ในห้องเล่น
Koshino Shu*Kura: รถไฟสำหรับคนรักสาเก

รถไฟที่คนรักสาเกห้ามพลาด Koshino Shu*Kura นี้ เป็นรถไฟที่คนท้องถิ่นผู้รักสาเกนั้นชื่นชอบ รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟที่วิ่งภายในจังหวัดนีงาตะ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องข้าวและผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากข้าวเช่นสุราที่หมักจากข้าว (สาเก) นอกจากนี้ Koshino Shu*Kura ยังมีการตกแต่งภายในที่ออกแบบให้เหมือนถังไม้ในโรงหมักสาเก
พื้นที่กิจกรรมนี้เป็นพื้นที่สำหรับการแสดงดนตรีแจ๊สสด กิจกรรมชิมสาเกฟรี และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีเคาน์เตอร์บาร์ที่เตรียมสาเกท้องถิ่นอีกมากมายไว้ให้ ซึ่งสาเกที่จัดเตรียมไว้ให้นั้นจะต่างกันออกไปตามแต่ละฤดูกาล
HIGH RAIL 1375: รถไฟที่วิ่งใกล้ท้องฟ้าที่สุด

ด้วยความที่เป็นรถไฟที่วิ่งผ่านทางรถไฟที่ยกระดับขึ้นสูงที่สุดในญี่ปุ่น (ที่ความสูง 1,375 ม.) รถไฟ HIGH RAIL 1375 จึงมีคอนเซ็ปต์เป็น “รถไฟที่วิ่งใกล้ท้องฟ้าที่สุด” บนขบวนรถมีที่นั่งที่หันเข้าหาหน้าต่างเพื่อให้คุณได้ชมวิวตระการตาของแนวเทือกเขายัตสึงะทาเกะ รวมถึงวิวที่สูงต่างๆ ตลอดทางได้อย่างเต็มที่
ที่พิเศษสำหรับบรรดาคนรักดาราศาสตร์คือท้องฟ้าจำลอง (ครั้งแรกของการสร้างท้องฟ้าจำลองทรงโดมบนรถไฟ) และห้องสมุดดาราศาสตร์เล็กๆ บนขบวนรถ นอกจากนี้ ถ้าคุณขึ้นรถไฟขบวนนี้ในเที่ยวกลางคืน รถไฟจะหยุดแวะที่สถานี Nobeyama (野辺山駅) เพื่อพาคุณลงไปทัวร์ดูดาวเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็มแบบฟรีๆ
2.รถไฟชมวิวที่มีกิจกรรมสนุกๆ ตามสถานีรถไฟ
รถไฟ Joyful Train เหล่านี้วิ่งผ่านเส้นทางรถไฟที่มีวิวสวยงาม ทำให้ตลอดการเดินทางมีวิวตระการตามากมายให้ได้ชมกัน และขณะที่วิ่งผ่านจุดชมวิวเหล่านี้ รถไฟบางขบวนจะชะลอลงให้คุณถ่ายรูปวิวนอกหน้าต่างบานกว้างของขบวนรถได้ หรือคุณสามารถลงจากรถไฟที่บางสถานีเพื่อเข้าไปชมวิวใกล้ๆ ได้ และที่สถานียังมีรถบัสบริการรับส่งไปยังจุดท่องเที่ยวที่คุณสนใจได้อีกด้วย
Resort Shirakami: รถไฟ Joyful Train รุ่นบุกเบิก

รถไฟ Joyful Train ขบวนแรก Resort Shirakami นั้นเป็นรถไฟที่วิ่งไปตามทางรถไฟสาย Gono ที่เลียบชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น ทำให้ผู้โดยสารสามารถชื่นชมทั้งทะเลสีไพลินและทุ่งนาเขียวขจีได้ รถไฟขบวนนี้วิ่งให้บริการแทบทุกวัน โดยมีรถไฟให้บริการมากถึง 3 เที่ยวต่อวันทั้งในขาเข้าและขาออก ที่สำคัญคือเป็นหนึ่งในรถไฟ Joyful Train ที่ใช้เดินทางได้สะดวกที่สุดด้วย สำหรับขบวนรถไฟของ Resort Shirakami นั้นมีสามขบวนที่ต่างกันออกไป และแต่ละขบวนต่างมีชื่อเรียกตามจุดเด่นในพื้นที่ Shirakami-Sanchi ที่เป็นมรดกโลก UNESCO ได้แก่ Buna, Aoike และ Kumagera
Resort View Furusato: รถไฟที่มีวิวภูเขาสวยงามให้ชมมากมาย

รถไฟ Resort View Furusato เป็นรถไฟที่ให้ผู้โดยสารสามารถชมวิวพาโนรามาของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือได้ ในขณะที่รถไฟวิ่งไปตามทางรถไฟสาย Oito ซึ่งขนานไปกับแนวเทือกเขาเหล่านี้ จากหน้าต่างบานกว้างของรถไฟ เราสามารถมองวิวยอดเขาสูงเสียดฟ้าได้ โดยยอดเขาหลายแห่งในเทือกเขานี้สูงเกือบถึง 3,000 เมตรทีเดียว
ไฮไลท์ของการนั่งรถไฟขบวนนี้คือกิจกรรมสนุกๆ มากมายที่รออยู่ตามสถานีต่างๆ ของรถไฟขบวนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวมุมสูงของที่ราบ Zenkoji ที่สถานี Obasute (姨捨駅) การเยือนศาลเจ้า Hotaka กับมิโกะประจำศาลเจ้าที่สถานี Hotaka (穂高駅) การชิมขนมและเครื่องดื่มท้องถิ่นที่สถานี Shinano-Omachi (信濃大町駅) และอีกมากมาย
Oykot: รถไฟสายชนบทที่นั่งสบายในบรรยากาศอบอุ่น

รถไฟ Oykot ที่ได้ชื่อมาจากการนำตัวอักษรในคำว่า “Tokyo” มาเขียนกลับหน้าหลังนี้ เป็นรถไฟที่นำเสนอสิ่งที่ตรงข้ามกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของเมืองหลวง ด้วยการมอบการเดินทางที่สบายๆ และชวนนึกถึงอดีต พร้อมการตกแต่งภายในขบวนรถที่พยายามจำลองบรรยากาศอบอุ่นของบ้านคุณย่าคุณยายในชทบท
ที่สถานี Iiyama (飯山駅) เราสามารถชมนาฬิกา Karakuri Clock ที่มีตุ๊กตาไขลานในชุดญี่ปุ่นดั้งเดิมออกมาเต้นรำตามท่วงทำนองเพลง “Furusato” ที่เป็นเพลงพื้นบ้านชื่อดัง หรือที่สถานี Morimiyanohara (森宮野原駅) เราสามารถถ่ายรูปที่ระลึกโดยสวม Sugeboshi (すげぼうし) ร่มฟางแบบหนึ่งของญี่ปุ่นที่เคยถูกใช้กันในอดีต
3.รถจักรไอน้ำ (SL: Steam Locomotive)
รถจักรไอน้ำที่เป็นรถไฟยอดนิยมในกลุ่มคนรักรถไฟเหล่านี้ เป็นขบวนรถไฟที่ให้เราได้เห็นภาพบรรยากาศในอดีตได้ และยังเปิดโอกาสให้คุณได้ทำตามความฝันในวัยเด็กที่อยากนั่งรถไฟปู๊นปู๊นสักครั้ง ด้วยความที่รถไฟเหล่านี้บำรุงรักษายากเนื่องจากต้องใช้น้ำและถ่านหินปริมาณมาก รถจักรไอน้ำเหล่านี้จึงมีรอบวิ่งน้อยกว่ารถไฟ Joyful Train อื่นๆ แต่ในทางกลับกันก็สามารถรองรับผู้โดยสารต่อเที่ยวได้มากกว่าเช่นกัน ถ้าคุณเป็นคนรักรถไฟ ห้ามพลาดโอกาสที่จะลองนั่งนะคะ!
SL Banetsu Monogatari: สนุกไปกับทางรถไฟสาย Ban’etsu West

รถจักรไอน้ำ C57 180 SL ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1946 และมีชื่อเล่นว่า Kifujin (貴婦人, คุณผู้หญิง) โดยชื่อเล่นนี้มีที่มาจากรูปลักษ์ที่ดูสง่าของขบวนรถ หลังเกษียณ รถไฟขบวนนี้ก็ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในปี 1999 ตามเสียงเรียกร้องอย่างล้นหลามจากผู้คน และถูกชุบชีวิตใหม่เป็น SL Banetsu Monogatari และปี 2019 ก็เป็นปีที่ฉลองครบรอบ 20 ปีของรถไฟที่เป็นที่รักของผู้คนขบวนนี้ และฉันหวังว่ารถไฟขบวนนี้จะยังคงวิ่งให้เราได้เห็นกันต่อไปอีกหลายปี!
รถไฟ SL Banetsu Monogatari นั้นวิ่งบนทางรถไฟ Ban’etsu West ที่มีชื่อเรื่องวิวธรรมชาติ วิวแม่น้ำ และจุดถ่ายรูปต่างๆ และสำหรับบรรดาแฟนคลับที่ชอบถ่ายรูปรถจักรไอน้ำแล้ว ทางรถไฟสาย Ban’etsu West ก็เป็นทำเลถ่ายรูปรถไฟที่ดีที่สุดทำเลหนึ่งทีเดียว
SL Ginga: ทางรถไฟสู่ดวงดาว

รถไฟ SL Ginga ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังนี้เป็นรถไฟที่นำวรรณกรรมคลาสสิก “ทางรถไฟสายทางช้างเผือก” (銀河鉄道の夜, Ginga Tetsudо no Yoru) ของมิยาซาวะ เค็นจิ (宮澤賢治) กลับมาให้มีชีวิตขึ้นมา รถไฟขบวนนี้เป็นการนำรถจักรไอน้ำ C58 239 SL มาซ่อมบำรุงขึ้นใหม่เพื่อช่วยจังหวัดอิวาเตะให้ฟื้นขึ้นใหม่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นตะวันออกเมื่อปี 2011
ทันทีที่ก้าวขึ้นรถไฟ ทั้งหน้าต่างกระจกสี ตะเกียงไฟ และที่นั่งสไตล์วินเทจจะทำให้คุณรู้สึกราวกับย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ทีเดียว คุณสามารถสนุกไปกับการเดินทางพร้อมกับชมแกลเลอรี่ต่างๆ ที่อุทิศให้กับมิยาซาวะ เค็นจิ รวมถึงชมท้องฟ้าจำลองที่นับเป็นแห่งแรกๆ ที่มีการจัดท้องฟ้าจำลองบนรถไฟได้
SL Gunma: สัมผัสพลังที่แท้จริงของรถจักรไอน้ำ

เป็นที่รู้กันในกลุ่มแฟนคลับรถจักรไอน้ำตัวยงว่ารถจักรไอน้ำที่ทรงพลังที่สุดคือบรรดารถจักรไอน้ำรุ่น D-series ที่ในอดีตเคยถูกใช้เพื่อลากรถสินค้ามาก่อน และโอกาสที่จะได้ลองนั่งรถไฟแบบนี้นั้นหายากมากๆ แต่รู้หรือไม่? ว่ารถไฟ D51 498 ที่เป็นหนึ่งในรถไฟเหล่านี้ได้ถูกนำมาปรับใช้ใหม่ในฐานะรถไฟ SL Gunma!
ถ้าคุณเริ่มต้นทริปจากสถานี Takasaki ขอแนะนำให้ลองชิม SL Gunma Ekiben (ข้าวกล่องบนรถไฟ) และสำหรับเที่ยวขาเข้า น้องๆ เด็กเล็กที่ขึ้นรถมาด้วยจะสามารถใส่ชุดพนักงานขับรถไฟเพื่อถ่ายรูปที่ระลึกได้ หรือจะลองทำหน้าที่เป็นพนักงานตรวจตั๋ว หรือลองประกาศบนรถไฟก็ยังได้!
4.รถไฟที่เป็นภัตตาคารในตัว
สำหรับคนรักอาหารที่กำลังมองหาประสบการณ์นั่งรถไฟที่เหนือไปอีกขั้น ลองนั่งหนึ่งในรถไฟภัตตาคารทั้งสามขบวนดังต่อไปนี้ดูไหมคะ? รถไฟ Joyful Train ประเภทนี้เป็นรถไฟที่เสิร์ฟมื้ออาหารน่าทานที่ปรุงจากวัตถุดิบที่ผลิตได้ในท้องถิ่น ดังนั้น คุณจึงสามารถอร่อยไปกับมื้ออาหารดีๆ ได้พร้อมกับช่วยสนับสนุนเกษตรกรไปด้วย
TOHOKU EMOTION: รถไฟภัตตาคารชั้นเลิศ

TOHOKU EMOTION เป็นขบวนรถไฟที่เปรียบเหมือนเรือธงของรถไฟภัตตาคารในเครือ JR East และเป็นรถไฟภัตตาคารชั้นเลิศที่ผสมผสานความเป็นท้องถิ่นกับความหรูหราไว้ในมื้ออาหารบนขบวนรถ รถไฟขบวนนี้เริ่มให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2013 เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในแถบชายฝั่งซันริคุที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ที่ภูมิภาคตะวันออกของญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 ตลอดการเดินทางบนรถไฟขบวนนี้ เราจะได้เห็นคนท้องถิ่นออกมายืนโบกมือส่งให้อย่างอบอุ่นขณะที่รถไฟวิ่งผ่าน
FruiTea Fukushima: รถไฟคาเฟ่

คุณเป็นคนหนึ่งที่รักขนมหวาน หรือเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานขนมหวานในคาเฟ่หรือไม่? ถ้าคำตอบของคุณคือ “ใช่” ถ้างั้นรถไฟ FruiTea Fukushima ก็คือรถไฟที่เหมาะกับคุณ! เพราะรถไฟขบวนนี้จะขนทาร์ตผลไม้ตามฤดูกาลและขนมที่ทำจากผลไม้ตามฤดูกาลมาเสิร์ฟให้อร่อยกันถึงบนขบวนรถ
เมนูขนมหวานนั้นจะเปลี่ยนไปในทุกๆ เดือน ดังนั้นแม้คุณจะเดินทางในช่วงฤดูกาลเดียวกัน คุณก็ยังสามารถสนุกกับรสชาติขนมที่หลากหลายได้ และสำหรับคนที่เดินทางมาคนเดียวแล้ว ที่พิเศษคือ FruiTea Fukushima เป็นรถไฟภัตตาคารเดียวในนี้ที่เปิดให้ผู้ที่เดินทางมาคนเดียวสามารถจองที่นั่งบนรถได้
KAIRI: ทริปรถไฟชิมอาหารจากนีงาตะสู่โชไน

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด KAIRI เป็นรถไฟ Joyful Train ที่ใหม่ที่สุดในนี้ และได้ชื่อมาจากวิวทะเล (海, kai) สวยงามและภาพหมู่บ้านชนบท (里, ri) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไปในพื้นที่ที่รถไฟวิ่งผ่าน รถไฟขบวนนี้มีไฮไลท์หลักอยู่ที่อาหารท้องถิ่นของแถบนีงาตะและโชไน รวมถึงวิวทะเลญี่ปุ่นที่สวยสะกดตาที่เราจะเห็นได้เมื่อผ่านไปตามทางรถไฟสาย Uetsu Main
แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ที่ขึ้นรถไฟ KAIRI นี้ต่างมาเพื่อประสบการณ์ชิมอาหารเลิศรส โดยเมนูอาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถันนี้จะกระตุ้นความอยากอาหารของคุณแน่นอน และแม้ว่าคุณจะไม่ได้นั่งตู้รถคันที่ 4 ซึ่งเป็นตู้รถสำหรับเสิร์ฟอาหาร แต่ผู้โดยสารทุกคนก็ยังสามารถพรีออเดอร์เบ็นโตะที่เปิดให้สั่งได้สำหรับผู้โดยสารคนไหนก็ตามที่อยากลองชิมรสชาติอาหารพิเศษเฉพาะ KAIRI!
ซีรี่ย์รถไฟ Joyful Train ยังมีเสน่ห์ให้ค้นพบอีกมาก!
อ่านบทความแนะนำซีรี่ย์รถไฟ Joyful Train ตัวเต็มจากคุณ Carissa Loh “ให้การนั่งรถไฟสนุกกว่าเดิม: แนะนำรถไฟ Joyful Train ของ JR East ทั้ง 13 ขบวนแบบที่เดียวจบ!” เพื่อรู้จักซีรี่ย์รถไฟสุดพิเศษจาก JR East แบบจัดเต็มครบจบในที่เดียว หรือถ้าเพื่อนๆ มีรถไฟ Joyful Train ในใจแล้ว คลิ๊กที่ลิ้งก์รถไฟแต่ละขบวนเพื่อเข้าไปอ่านรีวิวกันได้เลยค่ะ!
และที่สำคัญคือ เพียงซื้อบัตร JR EAST PASS ไว้ เพื่อนๆ ก็สามารถขึ้นรถไฟ Joyful Train เหล่านี้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม! (ยกเว้นรถไฟที่ต้องซื้อแพ๊คเกจเพิ่มอย่าง TOHOKU EMOTION) อ่านเพิ่มเติมเรื่องสิทธิพิเศษและข้อควรรู้เกี่ยวกับ JR EAST PASS ได้ที่นี่!