อย่างที่ทราบกันดีว่ามรดกโลกในญี่ปุ่นนั้นมีจำนวนไม่น้อยเลย จะอยากไปก็เลือกไม่ถูกว่าจะไปที่ไหนดี ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 8 มรดกโลกในญี่ปุ่นที่ได้รับการโหวตจากพนักงานบริษัทนำเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่น! เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าสถานที่ที่ผู้เชี่ยวชาญคัดมาจะมีที่ไหนกันบ้าง!
1. ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก (Shrines and Temples of Nikkō)
View this post on Instagram
เป็นแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองนิกโก จ.โทจิงิ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีพ.ศ. 2542 เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่แสดงถึงความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ได้รับการรังสรรค์โดยช่างฝีมือและจิตรกรระดับปรมาจารย์ในสมัยเอโดะตอนต้น (ค.ศ.1603 – 1867) ภายในจะมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น ศาลเจ้านิกโกฟูตาราซัง (日光二荒山神社, Nikko Futarasan jinja) และวัดรินโน (日光山輪王寺, Nikkozan Rinnoji Temple) แต่ที่เป็นไฮไลต์ก็คือ ศาลเจ้านิกโกโทโช (日光東照宮, Nikko Toshogu) เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2160เพื่ออุทิศให้แด่โชกุนโทกุงาวะ อิเอยาซุ โชกุนคนแรกของตระกูลโทกุงาวะ ต่อมาในปีพ.ศ. 2179 โชกุนโทกุงาวะรุ่นที่สามบูรณะศาลเจ้าหลักขึ้นมาใหม่ให้มีความสวยงามตามที่เห็นในปัจจุบัน
Nikko Toshogu (日光東照宮)
ที่ตั้ง: 2301 Sannai, Nikko, Tochigi 321-1431, Japan
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR หรือ Tobu Railway จากสถานี Nikko ต่อด้วยรถบัส Tobu Bus Nikko ที่มุ่งไปทาง Nikkō Yumoto Onsen โดยสามารถลงที่ Shinkyo แล้วเดินต่ออีก 8 นาที หรือลงที่ Omotesando แล้วเดินต่ออีก 2 นาที
2. อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ (Historic Monuments of Ancient Kyoto)
View this post on Instagram
เป็นแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในจ.เกียวโตและจ.ชิกะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2537 อย่างที่ทราบกันว่าเกียวโตเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นมากว่าพันปีตั้งแต่สมัยเฮอันจนถึงสมัยเอโดะ (ค.ศ. 794 – 1868) ภายในอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งนี้รวมสถานที่ท่องเที่ยวไว้กว่า 17 แห่ง เช่น ศาลเจ้า วัด และปราสาทซึ่งล้วนแล้วแต่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ความเป็นมาของญี่ปุ่นและเสน่ห์ของเมืองหลวงได้เป็นอย่างดี สถานที่ไฮไลต์เช่น ศาลเจ้าชิโมกาโมะ (Shimogamo Shrine, 下鴨神社) วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera Temple, 清水寺) ปราสาทนิโจ (Nijo Castle, 二条城) วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji, 金閣寺) และวัดเรียวอันจิ (Ryoanji Temple, 龍安寺)
Kinkaku-ji (金閣寺)
ที่ตั้ง: 1 Kinkakujicho, Kita Ward, Kyoto, 603-8361, Japan
การเดินทาง: นั่งรถบัส Kyoto City Bus ไปลงป้าย Kinkakuji-michi ผ่านสาย 12, 59, 205, M1
3. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิรากาวาโงและโกกายามะ (Historic Villages of Shirakawa-go and Gokayama)
View this post on Instagram
เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ประกอบด้วย 3 หมู่บ้านเก่าแก่กลางหุบเขาที่ตั้งอยู่ในจ.กิฟุและจ.โทยามะ จุดเด่นของหมู่บ้านนี้คือ บ้านสไตล์กัสโชซูคุริ (Gassho-zukuri house) มีจุดเด่นที่หลังคารูปทรงสามเหลี่ยมและมุงจากหนาๆ ดูคล้ายการพนมมือซึ่งเป็นที่มาของชื่อบ้านสไตล์ดังกล่าว การสร้างบ้านพักในรูปแบบนี้เป็นภูมิปัญญาของคนในชุมชนที่มีมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเย็นและการทับถมของหิมะ ความปังยังไม่หมดแค่นี้นะคะ เพราะชาวบ้านที่นี่เขาสามารถสร้างบ้านแบบนี้ได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เชื่อมใดๆ แม้แต่ตะปูยังไม่ต้องตอกสักตัวเลยค่ะ ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมมากๆ
Shirakawa-go (白川郷)
ที่ตั้ง: Ogimachi, Shirakawa, Ono District, Gifu 501-5627, Japan
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานี Kanazawa แล้วนั่งรถบัส Nouhi Bus ไปลง Shirakawa-go
4. ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain)
View this post on Instagram
เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นประมาณ 3,776 เมตรตั้งอยู่ในจ.ชิสุโอกะและจ.ยามานาชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของโตเกียว ภูเขาไฟฟูจิได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปีพ.ศ. 2556 เพราะมีให้เห็นได้ในงานเขียนหรือภาพวาดต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตรงเชิงเขาเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าฟุจิซังเซนเงน (Fujisan Sengen Shrine) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเคารพมาช้านาน ถูกสร้างในสมัยเฮอันหรือช่วงศตวรรษที่ 9 ว่ากันว่าสร้างขึ้นเพื่อยับยั้งการปะทุของภูเขาไฟฟูจิ
Mount Fuji (富士山)
ที่ตั้ง : Kitayama, Fujinomiya, Shizuoka 418-0112, Japan
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Fujikyuko Line จากสถานี Kawaguchiko ขึ้นรถบัส Tozan Bus ที่มุ่งไปทาง Mt. Fuji 5th Station
5. ศาลเจ้าอิตสึกุชิมะ (Itsukushima Shrine)
View this post on Instagram
เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโตตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิมะในจ.ฮิโรชิมะ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปีพ.ศ.2539 เป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้มีอาคารทั้งหมด 17 หลัง เช่น อาคารภาวนา อาคารหลัก โถงสักการะ โถงบูชาและโรงละครโน นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่ได้รับเลือกให้เป็นสมบัติประจำชาติอีก 6 อย่าง เช่น ประตูโทริอิยักษ์ และเจดีย์ห้าชั้น
ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เพราะศาลเจ้าหันหน้าเข้าทะเล ส่วนด้านหลังก็เป็นป่าทึบ ให้ความรู้สึกถึงสงบเยือกเย็นสมเป็นสถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์ นอกจากความสวยงามแล้วไอเดียในการออกแบบก็ลํ้าไม่แพ้กัน เพราะศาลเจ้าได้รับการออกแบบให้ใช้ประโยชน์จากการขึ้นลงของกระแสน้ำด้วย
Itsukushima Shrine (嚴島神社)
ที่ตั้ง: 1-1 Miyajimacho, Hatsukaichi, Hiroshima 739-0588, Japan
การเดินทาง: นั่งรถไฟจาก JR Hiroshima Station ไป JR Miyajimaguchi Station จากนั้นนั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือ Miyajimaguchi ไปที่เกาะ Miyajima
6. คาบสมุทรชิเรโทโกะ (Shiretoko Peninsula)
View this post on Instagram
ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะฮอกไกโดโดยยื่นออกไปในทะเลโอค็อตสค์ มีช่องแคบเนมูโระกั้นระหว่างคาบสมุทรกับเกาะคูนาชีร์ของรัสเซีย คำว่า “ชิเรโตโกะ” เป็นภาษาไอนุซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น หมายถึง “จุดสุดขอบแผ่นดิน” หรือ “จุดที่แผ่นดินยื่นออกไป” ได้รับเลือกในเป็นมกรดโลกในปีพ.ศ. 2548 เป็นมรดกทางธรรมชาติแห่งที่สามในญี่ปุ่นและเป็นมรดกทางธรรมชาติแห่งแรกรวมพื้นที่ของมหาสมุทรอยู่ด้วย ที่คาบสมุทรแห่งนี้เป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่าหลายชนิดที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น หมีสีน้ำตาลและกวางเอโซ เพราะเป็นภูมิภาคสุดท้ายในญี่ปุ่นที่พึ่งได้รับการค้นพบ ทำให้ธรรมชาติยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่
Shiretoko Peninsula (知床半島)
ที่ตั้ง: Onnebetsumura, Shari, Shari District, Hokkaido 099-4356, Japan
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย JR Senmo line ไปสถานี Shiretokoshari แล้วขึ้นรถบัส Expressway Bus ไป Utoro town ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
7. เกาะอามามิโอชิมะ เกาะโทคุโนะชิมะ พื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะโอกินาวา และเกาะอิริโอโมเตะ (Amami-Oshima Island, Tokunoshima Island, Northern part of Okinawa Island, and Iriomote Island)
View this post on Instagram
บริเวณเกาะอามามิ-โอชิมะ เกาะโทคุโนะชิมะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะโอกินาวาและเกาะอิริโอโมเตะ ในจ.โอกินาวะ มีระบบนิเวศที่สวยงามและโดดเด่น เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น กระต่ายอามามิ นกหัวขวานโนกุจิ และพืชพันธุ์ทางธรรมชาติ ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกในปีพ.ศ. 2564 เนื่องลักษณะทางธรณีวิทยาและรูปแบบภูมิอากาศที่แตกต่าง เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์และสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ว่ากันว่าเป็นมรดกที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในญี่ปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ เช่น แหลมอายามารุ (あやまる岬, Ayamaru Cape) ในเกาะอามามิ อุทยานแห่งชาติยัมบารุไดเซกิรินซัน (Yambaru National Park, やんばる国立公園 大石林山) ทางตอนเหนือของเกาะโอกินาวะ หรือน้ำตกพิไนซะระ (ピナイサーラの滝, Pinaisara Falls) ในเกาะอิริโอโมเตะ
Amami Ōshima (奄美大島)
ที่ตั้ง: 467-1 Ishihara, Sumiyo Town, Amami City, Kagoshima Prefecture
การเดินทาง: สามารถเดินทางไปที่เกาะได้ด้วยเครื่องบินหรือเรือเฟอร์รี่
[เครื่องบิน] นั่งเครื่องบินจากสนามบินที่ Tokyo (Narita Airport/Haneda Airport), Osaka (Itami Airport/Kansai Airport), Fukuoka (Fukuoka Airport), Kagoshima (Kagoshima Airport), Okinawa (Naha Airport)
[เรือ] สามารถนั่งเรือ A-Line Ferry จาก Port of Kobe / Port of Osaka / Kagoshima New Port / Naha Port หรือนั่งเรือ Marix Line จาก Kagoshima New Port / Motobu Port / Naha Port ไปได้
8. เกาะยาคุชิมะ (Yakushima Island)
View this post on Instagram
เป็นเกาะรูปวงกลมตั้งอยู่ในจ.คาโงชิมะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2536 มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์มาก จุดเด่นของเกาะคือต้นซูงิหรือต้นสนไซเปรสญี่ปุ่นขนาดใหญ่จำนวนมากซึ่งมีอายุนับได้กว่าพันปี นอกจากนี้สภาพอากาศบนเกาะยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากมีตั้งแต่สภาพอากาศแบบเขตกึ่งร้อนชื้นจนถึงสภาพอากาศแบบหนาวเย็น นอกจากนี้เกาะแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ต้นแบบของภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง “เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร” (Mononoke-Hime) ของค่าย Studio Ghibli อีกด้วย ถ้าใครชอบเดินป่าอยากฮีลใจแนะนำให้ไปเลยค่ะ ฟินมากๆ
Yakushima Island (屋久島)
ที่ตั้ง: Yakushima, Kumage District, Kagoshima, Japan
การเดินทาง: นั่งเครื่องบินจากสนามบิน Haneda Airport ไปลงที่ Kagoshima Airort / Itami Airport / Fukuoka Airport แล้วต่อเครื่องไปลงที่ Yakushima Airport หรือนั่งเรือ jetfoil (high speed ferry terminal of Kagoshima Port) ไปลงที่ Yakushima (Miyanoura / Anbo Port)
ตามเก็บกันครบหมดแล้วหรือยังคะ? ที่เอามาฝากกันในบทความนี้เป็นแค่นํ้าจิ้มนะคะ เพราะจริงๆ แล้วที่ญี่ปุ่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รับเลือกให้เป็นมรดกโลกอีกเยอะมากๆ รอให้ทุกคนได้ไปสัมผัสอยู่ บทความหน้าจะเป็นที่ไหน อย่าลืมติดตามนะคะ
สรุปเนื้อหาจาก his-j
