เดินทางด้วยรถไฟจากนาโกย่า 1 ชั่วโมงก็จะมาถึงเมืองเซโตะ จังหวัดไอจิ แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผา และเครื่องกระเบื้องชื่อดังแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น แต่บอกเลยว่าเมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่เครื่องปั้น เครื่องกระเบื้องเท่านั้น แต่ยังมีแมวกวักด้วย!
ในอดีตเมืองเซโตะแห่งนี้เป็นเมืองที่ผลิตของตั้งโชว์เครื่องกระเบื้องตุ๊กตาและสัตว์ต่าง ๆ ที่มีความปราณีต คุณภาพดีถึงขนาดมีการผลิตเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ต่อมาก็ได้มีการผลิตแมวกวักด้วย จนในปัจจุบันเมืองเซโตะกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ผลิตแมวกวักเป็นจำนวนมากของญี่ปุ่น ณ เมืองเซโตะ จังหวัดไอจิ นอกจากจะดังเรื่องเครื่องปั้นดินเผาแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์แมวกวักที่ใหญ่ในที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ
พิพิธภัณฑ์แมวกวักที่ใหญ่ในที่สุดในญี่ปุ่น ณ เมืองเซโตะ จังหวัดไอจิ
View this post on Instagram
พิพิธภัณฑ์แมวกวักแห่งเมืองเซโตะตั้งขึ้นในปี 2005 ภายนอกพิพิธภัณฑ์มีลักษณะผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตก เมื่อเข้าไปด้านในเราก็จะได้พบกับแมวกวักกว่า 5,000 ตัว! เยอะอะไรขนาดนี้
View this post on Instagram
สาเหตุที่ที่นี่มีแมวกวักถึง 5,000 ตัวขนาดนี้ก็เพราะมาจากที่คุณบันโด คันจิ นักถ่ายภาพแมวและภรรยาสะสมไว้ค่ะ โดยแต่ก่อนจัดเป็นพิพิธภัณฑ์อยู่ที่จังหวัดกุนมะ แต่พอเข้าหน้าหนาว ด้วยความที่เป็นเขตที่หิมะตกเยอะ ทำให้คนเดินทางมาลำบาก ตอนนั้นเองที่มีการชักชวนให้ย้ายมาที่เมืองต้นกำเนิดการทำแมวกวักแห่งนี้
แมวกวักที่ผลิตจากหลากหลายแห่งก็จะมีหน้าตา ลักษณะที่แตกต่างกันไป เมื่อเข้ามาเที่ยวชมในพิพิธภัณฑ์เราก็จะได้เห็นแมวกวักที่หลากหลายเลยค่ะ
แหล่งผลิตแมวกวักใหญ่ 3 แห่ง
・แมวกวักเมืองเซโตะ จังหวัดไอจิ
View this post on Instagram
ลักษณะเด่นของแมวกวักเมืองเซโตะจะมีลักษณะผอมบาง มีหน้าตาค่อนข้างคล้ายกับแมวจริง และจะสังเกตเห็นว่าขาที่ยกขึ้นจะยกต่ำหน่อย
・แมวกวักเมืองโทโคนาเมะ จังหวัดไอจิ
View this post on Instagram
ส่วนแมวกวักจากเมืองโทโคนาเมะ จังหวัดไอจิ มีลักษณะเด่นคือ มีการเปลี่ยนกระดิ่งที่คอเป็นเงินโบราณของญี่ปุ่น ซึ่งแมวกวักของเมืองโทโคนาเมะนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยม เห็นได้ทั่วไป เป็นอีกแหล่งผลิตใหญ่อีกแหล่งหนึ่งในจังหวัดไอจิ
・แมวกวักเมืองคุทานิ จังหวัดอิชิคาวะ
View this post on Instagram
แมวกวักของที่นี่จะมีหน้าตาที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากที่อื่น มีลวดลายตั้งแต่ตัวยันหน้า รวมถึงท่านั่งก็ยังไม่เหมือนแบบอื่นด้วย ส่วนใหญ่จะผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศ
นอกจากนี้ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีแมวกวักแบบแปลก ๆ อื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปีด้วย
View this post on Instagram
ชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์จะเป็นที่รวบรวมแมวกวักใน “ปัจจุบัน” และ “อนาคต” ส่วนชั้น 2 เป็นการรวบรวมแมวกวักใน “อดีต” นอกจากจะตั้งโชว์ให้เราได้ชมแล้วยังมีขาย รวมถึงมีให้ลองทาสีแมวกวักเป็นผลงานแมวกวักของเราเองอีกด้วย
ยกเท้าซ้าย เท้าขวา ต่างกันอย่างไรนะ?
View this post on Instagram
แมวกวักเป็นสิ่งนำโชคที่เริ่มมีขึ้นในสมัยเอโดะ เห็นได้จากการที่มีภาพอุกิโยะเปิดร้านขายแมวกวัก เป็นไอเท็มนำโชคที่ช่วยเรื่องการค้าขายต่าง ๆ แพร่หลายในญี่ปุ่นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เชื่อกันว่าแมวยกเท้าขวาแปลว่า เรียกโชคลาภ ส่วนถ้ายกเท้าซ้าย แปลว่า เรียกแขก ที่มาไม่เป็นที่แน่ชัดมาก แต่มีทฤษฎีที่บอกว่า ยกเท้าขวาแปลว่า เรียกโชคลาภ ก็เพราะคนส่วนใหญ่ใช้มือขวา ซึ่งเป็นข้างที่คนส่วนใหญ่ถนัดในการจับเงินนั่นเองค่ะ
View this post on Instagram
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับสีของแมวกวักด้วยค่ะ อย่างสีขาวหมายถึง การเปิดรับโชค ส่วนสีดำหมายถึงการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ส่วนสีทองที่มักจะเห็นในบ้านเราบ่อย ๆ ก็แน่นอนว่าต้องหมายถึงช่วยเรื่องโชคลาภ ส่วนจะวางไว้ที่ไหนนั้นจะวางบนทีวีก็ได้ หรือทางเข้าบ้านก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือให้วางไว้ในจุดที่สะดุดตา ที่ที่คนผ่านเยอะ ๆ หันออกไปทางด้านนอก และควรสูงกว่าสายตาคนค่ะ
ใครที่อยากไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์แมวกวัก ก็สามารถหาดูข้อมูลเพิ่มเติมตามนี้ได้เลย
พิพิธภัณฑ์แมวกวัก 招き猫ミュージアム
0561-21-0345
Maneki Neko Museum
สรุปเนื้อหาจาก sunchi, tenpo, we-love.okayama