พิพิธภัณฑ์สำหรับคนญี่ปุ่นนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่จัดแสดงงานศิลป์เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะวันฝนตก รวมถึงเป็นสถานที่เดทแบบติสท์ๆ อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ก็ได้รับความนิยมจากวัยรุ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักพิพิธภัณฑ์สุดเก๋ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นกันค่ะ!
1. AOMORI MUSEUM OF ART / อาโอโมริ
View this post on Instagram
พิพิธภัณฑ์แรกที่อยากแนะนำให้รู้จักคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ (Aomori Museum of Art)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2006 ด้วยจุดประสงค์เพื่อโปรโมทศิลปินที่มากความสามารถของจังหวัดอาโอโมริไปสู่สากล ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ที่ออกแบบให้มีรูปทรงเรขาคณิตสีขาวล้วนนั้นมีเสน่ห์อย่างมาก ในฤดูร้อนตัวอาคารที่มีสีขาวสว่างราวกับหิมะจะตัดกับฉากสนามหญ้าสีเขียวอย่างสวยงาม และในฤดูหนาวป้ายไฟนีออนสีฟ้ารูปต้นไม้* ที่ประดับผนังภายนอกอาคาร ซึ่งคอยส่องสว่างเป็นจุดสังเกตอาคารไม่ให้กลืนไปกับสีขาวของหิมะก็ช่างน่าดึงดูดเหลือเกิน สรุปได้สั้นๆว่าคนที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมไม่ควรพลาดมาชมทุกฤดูเลย
*สัญลักษณ์ไฟนีออน ใช้สีฟ้าเพราะ 青 (ao) = สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน/เป็นรูปต้นไม้ เพราะคันจิ 森 (mori) = ป่า เขียนด้วยคันจิต้นไม้ (木) 3 ตัวเรียงกัน กลายเป็นชื่อจังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
View this post on Instagram
สัญลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างของพิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริคือ สุนัขอาโอโมริ (Aomori-ken) รูปปั้นคอนกรีตขนาดยักษ์สูง 8.5 เมตร ผลงานของ Nara Yoshitomo ศิลปินจากเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ ซึ่งสามารถเข้าชมฟรีได้จากภายนอกอาคารได้ตลอดยกเว้นในหน้าหนาวที่ทางเดินจะถูกปิดลงเพราะหิมะ นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ยังมีจัดแสดงผลงานสากลชื่อดังของ Picasso และ Marc Chagall ในห้องโถงใหญ่ด้านในอาคารอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ (Aomori Museum of Art)
2. THE NATIONAL ART CENTER / โตเกียว
View this post on Instagram
พิพิธภัณฑ์ถัดไปที่อยากให้รู้จักคือ ศูนย์จัดแสดงงานศิลปะแห่งชาติโตเกียว (The National Art Center)
พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ที่รปปงหงิ ย่านแสงสีกลางกรุงโตเกียวแห่งนี้ เป็นตัวแทนของศิลปะสมัยใหม่ในญี่ปุ่นที่มีพื้นที่จัดแสดงงานกว้างขวางที่สุดในประเทศ ทำให้สามารถจัดงานนิทรรศการศิลป์ได้อย่างจุใจและอัดแน่นไปด้วยผลงานคุณภาพของศิลปินชั้นนำที่จะให้ทำให้รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่มาเยี่ยมชม
View this post on Instagram
นอกจากนี้ภายในอาคารยังมีพื้นที่กว้างขวางเหมาะสำหรับพักผ่อนในวันหยุดอีกด้วย (คนที่ชอบอนิเมชั่นอาจจะคุ้นกับสถานที่นี้ เพราะที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ที่ทากิคุง พระเอกเรื่อง Your name มาเดทกับรุ่นพี่โอกุเดระค่ะ^^)
ศูนย์จัดแสดงงานศิลปะแห่งชาติโตเกียว (The National Art Center)
3. 21_21 DESIGN SIGHT / โตเกียว
View this post on Instagram
พิพิธภัณฑ์ต่อไปยังคงอยู่ในโตเกียว กับพิพิธภัณฑ์ที่สุดแห่งความทันสมัย 21_21 DESIGN SIGHT ออกแบบอาคารโดย Ando Tadao สถาปนิกชื่อดังที่ชื่นชอบอาคารแบบปูนเปลือย โดยอาคารมีลักษณะเหมือนกระดาษพับของญี่ปุ่นแต่ให้บรรยากาศแบบโมเดิร์น ตั้งอยู่กลางสวนของห้าง Tokyo Midtown ในเขตรปปงหงิ ซึ่งนอกจากจะสามารถเพลิดเพลินไปกับงานศิลป์แล้วยังเหมาะเป็นสถานที่เดทด้วยเช่นกัน
View this post on Instagram
งานนิทรรศการศิลป์ที่พิพิพิธภัณฑ์แห่งนี้โฟกัสไปที่ชีวิตประจำวันของมนุษย์ คนที่มาเยี่ยมชมจะได้รับทั้งความสนุกสนานจากการดีไซน์รวมถึงทั้งประสบการณ์อันแปลกใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้เราสังเกตเห็นถึงความน่าสนใจของดีไซน์สิ่งต่างๆ รอบตัวในชีวิตประจำวันก็เป็นได้
4. THE HAKONE OPEN-AIR MUSEUM / คานากาวะ
View this post on Instagram
พิพิธภัณฑ์ถัดไปคือ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเนะ (The Hakone Open-Air Museum) ที่เขตฮาโกเนะ จังหวัดคานากาวะ ซึ่งครบรอบ 50 ปีไปเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์นี้มีพื้นที่กว้างถึง 70,000 ตารางเมตรโดยมีผลงานประติมากรรมจัดแสดงอยู่มากกว่า 120 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีหอกระจกสีที่ครอบคลุมรอบ 360 องศา อัดแน่นไปด้วยความงดงามแบบยิ่งใหญ่ตระการตา
View this post on Instagram
ที่นี่มีทั้งห้องศิลป์แบบ Indoor รวมถึงสถานที่แสดงงานแบบ Outdoor ทำให้เราสามารถลิ้มรสการชมพิพิธภัณฑ์ได้หลายแบบ อย่างเช่น วันที่ฝนตกก็ตั้งใจดูผลงานที่อยู่ในห้องแสดงงานศิลป์ ส่วนวันที่อากาศดีก็ออกไปชมงานและเพลิดเพลินเล่นสนุกอย่างเต็มที่กลางแจ้ง หากใครที่ชอบทั้งงานศิลป์แบบน่าพิศวงรวมถึงชอบธรรมชาติด้วยนั้นไม่ควรพลาดพิพิธภัณฑ์นี้เด็ดขาด
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเนะ (The Hakone Open-Air Museum)
5. TOYOTA MUNICIPAL MUSEUM OF ART / ไอจิ
View this post on Instagram
สถานที่ถัดไป ข้ามไปที่จังหวัดไอจิกับพิพิธภัณฑ์ชื่อ พิพิธภัณฑ์เขตโตโยต้า (Toyota Municipal Museum of Art) ที่นี่สร้างขึ้นด้วยคอนเซปต์การขั้นกลางระหว่างวัฒนธรรมของอดีตและปัจจุบัน โดยตัวอาคารพิพิธภัณฑ์นั้นสร้างทับซากปราสาทบนเนินสูงที่สามารถมองเห็นวิวเมืองโตโยต้าได้อย่างทั่วถึง
View this post on Instagram
เอกลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ที่จุดโชว์ผลงานที่ประกอบด้วยเหล็กกับกระจกแบบเรียบๆ แต่โมเดิร์น โดยผู้สร้างสรรค์ชิ้นงานนี้ตั้งใจอยากให้เป็นพื้นที่ที่ผู้เยี่ยมชมสามารถเผชิญหน้าและพูดคุยกับงานศิลป์ได้ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยผลงานจากศตวรรษที่ 20 และงานศิลป์สมัยใหม่อื่นๆ ที่ทำให้ผู้ชมเข้าถึงงานศิลป์ได้ง่ายอีกมากมาย
พิพิธภัณฑ์เขตโตโยต้า (Toyota Municipal Museum of Art)
6. 21st CENTURY MUSEUM OF CONTEMPORARY ART / อิชิกาวะ
View this post on Instagram
มาต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ถัดไปที่จังหวัดอิชิกาวะกับพิพิธภัณฑ์ชื่อดัง พิพิธภัณฑ์ศิลปะศตวรรษที่ 21 คานาซาวะ (21st Century Museum of Contemporary Art )
ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์นั้นหากมองจากบนฟ้าจะเป็นวงกลมสวยงามซึ่งสร้างด้วยกระจกที่สร้างบรรยากาศแบบโมเดิร์น ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีกับผลงานชิ้นเอก “Swimming Pool” ที่ทุกคนน่าจะเคยเห็นรูปถ่ายกันมาก่อนบ้างแล้ว โดยผลงานชิ้นนี้เมื่อมองจากด้านบนจะเหมือนกับเป็นสระว่ายน้ำ แต่ที่จริงแล้วมันคือห้องโล่งๆ ที่ทาสีฟ้าและด้านบนเป็นกระจก เมื่อลงไปอยู่ชั้นล่างแล้วให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในสระว่ายน้ำ เป็นประสบการณ์ที่น่าพิศวงมาก
View this post on Instagram
รอบๆ ตัวพิพิธภัณฑ์ยังมีผลงานศิลปะน่ารักแบบแปลกๆ อีกมากมาย ทั้งเหมาะกับถ่ายรูปลงโซเชียลและผลงานที่ทำให้หัวใจพองโต ทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมในกลุ่มสาวๆ และเด็กๆ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้หลังจากเดินชมงานศิลปะเสร็จแล้วก็ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ Fusion21 น่ารักๆ ให้แวะพักเหนื่อยอีกด้วย หากได้ไปเที่ยวที่เมืองคานาซาวะแล้วอย่าพลาดมาเยี่ยมชมที่นี่ด้วย!
พิพิธภัณฑ์ศิลปะศตวรรษที่ 21 คานาซาวะ (21st Century Museum of Contemporary Art )
7. CHICHU ART MUSEUM / คางาวะ
View this post on Instagram
สุดท้ายที่จะแนะนำนั้นเด็ดไม่แพ้ที่อื่นเลย นั่นคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิชู (Chichu Art Museum) ที่เกาะนาโอชิมะกลางทะเลเซโตะไน ของจังหวัดคางาวะ ซึ่งแปลตรงตัวว่าพิพิธภัณฑ์ใต้ดิน เพราะผลงานส่วนใหญ่จัดแสดงอยู่ที่ใต้ดิน หากมองจากบนฟ้าแล้วจะเห็นตัวอาคารรูปทรงเลขาคณิตฝังตัวอยู่บนเนินเขาดูน่าพิศวง ตัวอาคารนั้นออกแบบโดย Ando Tadao (คนเดียวกับ21_21 Desigh sight) ที่ชื่นชอบปูนเปลือยและการใช้แสงแดดจากธรรมชาติในการดึงเสน่ห์ของผลงานศิลปะและสถาปัตยกรรมไปพร้อมๆ กัน
ภายในอาคารมีจัดแสดงงานศิลปะของ Claude Monet, Walter De Maria และมีห้องชื่อ Open Sky ของ James Turrell ที่ใช้แสงจากธรรมชาติมาทำเป็นงานศิลป์ ซึ่งเป็นงานศิลปะสมัยใหม่ที่ไม่ซ้ำใครจริงๆ โดยห้อง Open Sky ยังมี Night Program ให้เข้าร่วมชมได้เมื่อพระอาทิตย์ตกหลังพิพิธภัณฑ์ปิด ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง!
นอกจากที่จัดแสดงงานศิลป์แล้ว ยังมีร้านกาแฟเล็กๆ เปิดให้บริการนั่งพักผ่อนพร้อมชมวิวทะเลเซโตะไนผ่านกระจกบานใหญ่อีกด้วย
View this post on Instagram
แสงจากธรรมชาติที่ส่องลงมาที่สถาปัตยกรรมที่ใต้ดินนั้น มีความสวยงามเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลารวมถึงฤดูกาลด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถรับรู้ถึงศิลปะได้ด้วยสัมผัสทั้งห้า ผลงานแต่ละชิ้นนั้นทั้งสวยงามทั้งน่าตื่นตะลึงแบบที่หาสัมผัสไม่ได้ในชีวิตประจำวัน และไม่สามารถหาได้ที่พิพิธภัณฑ์อื่นที่ญี่ปุ่นอีกแล้ว (คนเขียนคอนเฟิร์ม!) ผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะสมัยใหม่ หากมีโอกาสสมควรมาเก็บเป็นประสบการณ์ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง!
พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิชู (Chichu Art Museum)
เป็นอย่างไรบ้างคะกับพิพิธภัณฑ์ที่แนะนำไปข้างต้น หากเพื่อนๆ มีโอกาสได้มาเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมลองแวะเวียนไปชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ กันนะคะ รับรองว่าจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศเพิ่มความติสท์ให้กับทริป รวมถึงเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างนึงแน่นอนค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก RETRIP
ภาพโดย Yu Kato on Unsplash
ผู้เขียน: mimi.minir