โทโฮคุเป็นภูมิภาคหนึ่งของญี่ปุ่นที่อยู่ค่อนไปทางเหนือ(อยู่ใต้ฮอกไกโดลงมานิดเดียว) ประกอบด้วย 6 จังหวัดได้แก่ จังหวัดอะโอโมริ, จังหวัดอิวะเตะ, จังหวัดมิยะงิ, จังหวัดอะคิตะ, จังหวัดยะมะงะตะ และจังหวัดฟุคุชิมะ ภูมิภาคนี้อาจยังไม่คุ้นหูสำหรับหลายๆ คนมากนัก แต่ดินแดนแห่งนี้มีมุมธรรมชาติและสีสันของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่น่าค้นหาซ่อนอยู่ ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาภาพความประทับใจใหม่ๆ ในญี่ปุ่น เก็บกระเป๋าแล้วตาม ANNGLE กับน้องอะคิตะไกด์ประจำทริปนี้ไปเที่ยวโทโฮคุตอนเหนือ อะคิตะ-อาโอโมริกันเลยค่ะ!
แพลนเที่ยว อะคิตะ-อาโอโมริ 5 วัน ด้วยรถไฟ JR ถ่ายรูปสวย กินดี เที่ยวสบาย
สำหรับทริปนี้จะเป็นทริปเที่ยวโทโฮคุตอนเหนือในพื้นที่จังหวัดอะคิตะและอาโอโมริในช่วงกลางปีจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเหมาะกับการออกผจญภัยไปรอบๆ โทโฮคุ เพราะอากาศไม่ร้อนมาก อุณภูมิสูงสุดไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 18-19 องศาเซลเซียส สภาพอากาศเหมาะมากสำหรับคนขี้หนาวและคนที่ไม่ชอบร้อน นอกจากนี้ช่วงฤดูร้อนนี้ยังเป็นช่วงของเทศกาลเนบูตะ เทศกาลโคมไฟขนาดยักษ์ที่อลังการที่สุดในประเทศด้วย! สำหรับการเดินทางในทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะของญี่ปุ่นทั้งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น รถบัส และเดิน55 มีไฮไลท์เด็ดอยู่ที่รถไฟนั่งชมวิว Resort Shirakami ที่เพื่อนๆ จะได้พบกับวิวทะเล ภูเขาและธรรมชาติสองข้างทางที่อาจทำให้ประทับใจจนลืมเวลาไปเลยก็ได้ นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรม, ธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์และของอร่อยของโทโฮคุอีกด้วย!
เริ่มออกเดินทาง
Day 1
—START—
Tokyo Station → Kakunodate Station
SPOT 1 : เมืองเก่า “คาคุโนะดาเตะ” เมืองเกียวโตน้อยแห่งโทโฮคุ
เริ่มทริปกันที่คาคุโนะดาเตะ เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดอะคิตะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายเสน่ห์ของเมืองเก่าจนมีฉายาว่า “เมืองเกียวโตน้อยแห่งโทโฮคุ” ทันทีที่ก้าวลงจากรถไฟและเข้ามาในเมือง ทั้งเมืองคาคุโนะดาเตะจะกลายร่างเป็นไทมแมชชีนที่พาเพื่อนๆ ย้อนยุคกลับไปยังวันวานที่ของยุคสมัยแห่งซามูไรทีเดียว
นอกจากเสน่ห์ในฐานะเมืองเก่าแล้ว คาคุโนะดาเตะยังติดอันดับ 3 จุดชมซากุระที่สวยงามที่สุดในโทโฮคุอีกด้วย ซึ่งไฮไลท์ของซากุระแห่งคาคุโนะดาเตะมีทั้งวิวชิดาเระซากุระที่ขึ้นอยู่ตามคฤหาสน์ซามูไรในเมืองคาคุโนะดาเตะ และวิวของโซเมโยชิโนะซากุระที่เรียงสง่าตลอดฝั่งแม่น้ำฮิโนกิไนกาวา โดยทั้งสองวิวนี้เป็นวิวที่ห้ามพลาดสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังค้นหาเสน่ห์ฤดูใบไม้ผลิแห่งโทโฮคุ
“อินานิวะอุด้ง (稲庭うどん)” ของดีจังหวัดอะคิตะ เป็นอุด้งที่ติดอันดับ 3 อุด้งที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น มีเส้นบางกว่าอุด้งทั่วไป มีประวัติยาวนานมากกว่า 300 ปี อะคิตะคุงการันตีความอร่อย!
Kakunodate Station → Akita Station
คืนนี้ค้างแถวนี้: Akita Station
สถานี Akita เป็นสถานีรถไฟของ JR East ที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางเมืองอะคิตะ ครบครันด้วยห้างสรรพสินค้าอย่าง Topico สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ศูนย์สุนัขพันธุ์อะคิตะให้เราได้พบปะกับน้องสุนัขอะคิตะน่ารัก และโรงแรมที่พักมากมายให้เลือกพักได้ โดยที่พักหนึ่งที่แนะนำคือ Nakadori Onsen Komachi ที่พักใกล้สถานี Akita ในเครือ Dormy Inn ระดับ 3 ดาวราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้นที่คืนละ 5,000 เยนพร้อมอาหารเช้า ออนเซ็น และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย!
Day 2
—START—
เริ่มวันกันด้วยการนั่งรถไฟชมวิวกับ Resort Shirakami!
รถไฟที่พวกเราจะนั่งกันเช้าวันนี้ไม่ใช่รถไฟธรรมดา แต่เป็นรถไฟ Resort Shirakami รถไฟท่องเที่ยวขบวนเร็วพิเศษที่วิ่งบนทางรถไฟสายโกโน (Gono Line) และเป็นขบวนรถไฟสายท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว เพราะตลอดเส้นทางเราจะได้เห็นวิวทะเลญี่ปุ่น เทือกเขาชิราคามิที่เป็นมรดกโลก และอีกหลายวิวสวยงามที่แค่ได้นั่งรถไฟผ่านก็รู้สึกว่าได้เริ่มต้นการเดินทางดีๆ แล้ว!
Akita Station → WeSPa Tsubakiyama Station
WeSPa Tsubakiyama Station → Furoufushi Onsen
SPOT 2 : “Furoufushi Onsen” ออนเซ็นอายุวัฒนะของญี่ปุ่น
Furoufushi Onsen (不老不死温泉) ออนเซ็นธรรมชาติติดทะเลที่ชื่อสามารถแปลได้ตรงตัวว่า “ออนเซ็นที่แช่แล้วไม่แก่เฒ่าไม่ตาย” กล่าวคือเป็นออนเซ็นที่แช่แล้วสุขภาพดีอายุยืนนั่นเอง นอกจากจะแช่เพื่อสุขภาพได้แล้ว ที่นี่ครบครันเรื่องความสะดวกสบายด้วยที่พักเรียวกังและบริการอาหารทะเลสดใหม่ เป็นสถานที่ห้ามพลาดสำหรับคนรักออนเซ็นทีเดียว!
คืนนี้ค้างแถวนี้: Hirosaki Station
สถานี Hirosaki เป็นสถานีรถไฟที่มีร้านอาหารท้องถิ่นอยู่ใกล้ๆ และมีห้างสรรพสินค้า Ito-Yokado Hirosaki ให้เลือกช้อปสินค้าได้ในราคาถูก ใกล้ๆ สถานีมีโรงแรม Art Hotel Hirosaki City โรงแรมทำเลใกล้ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ พร้อมบริการสะดวกสบาย และวิวเมืองฮิโรซากิสวยงาม
Day 3
—START—
Hirosaki Station → Hirosaki Apple Park
SPOT 3 : เก็บแอปเปิ้ลที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่นที่ “Hirosaki Apple Park”
Hirosaki Apple Park เป็นสวนแอปเปิ้ลที่มีต้นแอปเปิ้ลกว่า 65 สายพันธุ์ รวมแล้วมากกว่า 1,300 ต้น ที่นี่นอกจากเพื่อนๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์การเก็บแอปเปิ้ลจากต้นเองกับมือแล้ว ยังจะได้มีส่วนร่วมในกระบวนการผลิต เช่น แยกแอปเปิ้ลใส่ถุง ริดใบออก ฯลฯ และยังสามารถเดินสำรวจไร่แอปเปิ้ลได้อย่างอิสระอีกด้วย
Hirosaki Apple Park → Hirosaki Station
Hirosaki Station → Hirosaki Park
SPOT 4 : เยือนปราสาทแห่งเดียวในโทโฮคุที่มีมาตั้งแต่เอโดะ ณ “สวนสาธารณะฮิโรซากิ”
สวนสาธารณะฮิโรซากิ (弘前公園) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ภายในมีหอคอยยากุระ สวนพฤกษชาติ สะพานขนาดใหญ่ และคูน้ำที่สามารถลงไปพายเรือชมสวนได้ นอกจากนี้ยังมีปราสาทฮิโรซากิ ปราสาทแห่งเดียวในโทโฮคุที่ยังคงหลงเหลือจากสมัยเอโดะมาจนถึงปัจจุบันและยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรซากิอีกด้วย
Hirosaki Park → Aomori Station
คืนนี้ค้างแถวนี้: Aomori Station
สถานี Aomori เป็นสถานีรถไฟใกล้ทะเล มีห้างสรรพสินค้า LOVINA ในอาคารของสถานีให้ซื้อของและหาของอร่อยเป็นมื้อเย็นได้ ถัดออกไปมีย่านโรงแรมและที่พักใกล้สถานีให้เลือกมากมาย เช่น Toyoko Inn Aomori Station Front โรงแรมที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟและเห็นวิวทะเลอ่าวอาโอโมริในงบเริ่มต้นคืนละ 7,500 เยน
Day4
—START—
Aomori Eki Mae Bus Stop → Oirase Gorge
SPOT 5 : ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยราวภาพวาดที่ “ลำธารโออิราเสะ”
ลำธารโออิราเสะ เป็นหนึ่งในจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น ในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเป็นเส้นทางเดินป่าที่ร่มรื่นชนิดแค่ได้ลงไปเดินซึมซับบรรยากาศของธรรมชาติก็มีความสุขแล้ว และในฤดูใบไม้ร่วง ป่าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงและทองของฤดูกาลจะทำให้ป่าตามลำธารดูสวยงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดทีเดียว
Oirase Gorge → Lake Towada
SPOT 6 : ชมวิวอลังการราวกับกระจกธรรมชาติขนาดยักษ์ ที่ “ทะเลสาบโทวาดะ”
ทะเลสาบโทวาดะเป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงเรื่องทิวทัศทัศน์ที่สวยงาม และยังเป็นทะเลสาบที่ลึกเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ด้วยภูเขาที่ล้อมรอบและผืนน้ำกว้างที่ดูเหมือนกระจกสะท้อนภาพท้องฟ้าขนาดยักษ์ ทำให้ทะเลสาบโทวาดะเป็นจุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวโทโฮคุ
Lake Towada → Aomori Station
คืนนี้กลับมาค้างแถว Aomori Station
Day 5
—START—
Aomori Station → A-FACTORY
SPOT 7 : ช้อปของดีจังหวัดอาโอโมริที่ “A-FACTORY”
A-FACTORY ห้าง Duty-Free ที่ถูกจัดให้ดูเหมือนตลาดแบบ Local ข้างในมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของจังหวัดอาโอโมริมากมายให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก รวมถึงผลิตภัณฑ์จากแอปเปิ้ลที่เป็นของดีประจำจังหวัดอาโอโมริอีกด้วย
A-FACTORY
ที่ตั้ง: 1-4-2 Yanagikawa Aomori-shi Aomori
การเดินทาง: เดิน 1 นาทีจากสถานี JR Aomori
เวลาทำการ
โซนร้านค้า: 9:00-20:00 น.
ร้านอาหารชั้น 1: 11.00-20.00 น.
ร้านอาหารชั้น 2: 11.00-21.00 น.
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): www.jre-abc.com
A-FACTORY → Nebuta Museum WARASSE
SPOT 8 : สัมผัสมนต์ขลังของเทศกาลโคมไฟยักษ์ที่ “Nebuta Museum WARASSE”
ทิ้งท้ายทริปกันด้วยพิพิธภัณฑ์ Nebuta Museum WARASSE พิพิธภัณฑ์สำหรับจัดแสดงโคมไฟในเทศกาลเนบูตะ (ねぶた祭) เทศกาลใหญ่ประจำฤดูร้อนของจังหวัดอาโอโมริและภูมิภาคโทโฮคุ ตัวอาคารถูกออกแบบให้ดูเหมือนม่านละครเวทีของญี่ปุ่น ภายในมีนิทรรศการเกี่ยวกับเทศกาลและโคมไฟที่ถูกใช้จริงจากงานเทศกาลปีก่อนๆ จัดแสดงอยู่
Nebuta Museum WARASSE → Aomori Station
Aomori Station → Shin-Aomori Station
บ๊ายบายโทโฮคุ!
Shin-Aomori Station → Tokyo Station
ขอบคุณที่มาเที่ยวโทโฮคุด้วยกันกับเรา!
ANNGLE เองก็ขอขอบคุณน้องอะคิตะคุงมากๆ นะคะที่มาเป็นไกด์นำเที่ยวครั้งนี้ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากลองตะลุยโทโฮคุดินแดนเหนือสุดของเกาะฮอนชูญี่ปุ่น สามารถมาเที่ยวตามรอย ANNGLE และน้องอะคิตะกันได้นะคะ!
ให้ทริปโทโฮคุง่ายขึ้น! ด้วย JR EAST PASS (Tohoku Area)
JR EAST PASS (Tohoku Area) เป็นตั๋วประเภท Pass จาก JR East ที่จะมาปลดล็อคให้การเดินทางในโทโฮคุง่ายขึ้น เพียงจองตั๋วออนไลน์แล้วมารับตั๋วที่ญี่ปุ่น เพื่อนๆ ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวสถานที่ไฮไลท์ต่างๆ ในโทโฮคุได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการซื้อตั๋วอื่นเพิ่ม และยังสามารถนั่งชินกันเซนและรถไฟ Joyful Train อย่าง Resort Shirakami เพื่อเพิ่มสีสันให้กับทริปได้อีกด้วย!
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง JR EAST PASS (Tohoku Area)
เกี่ยวกับ JR EAST PASS: jreast.com
จองตั๋ว JR EAST PASS: eki-net.com
Special Thanks
JR EAST
Facebook Fanpage “Outside The Room”
Facebook Fanpage “ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น”