ใครที่เคยไปหมู่บ้านชิราคาวะที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกคงเคยเห็น “ซารุโบโบะ” ตุ๊กตาไร้หน้ากันมาบ้าง เจ้าตุ๊กตาซารุโบโบะเป็นเครื่องรางชื่อดังของจังหวัดกิฟุ เป็นของที่ระลึกยอดนิยมที่ใครมาต้องซื้อกลับไป แต่เดิมซารุโบโบะมีสีแดง แต่ปัจจุบันมีสีสันมากขึ้นสื่อถึงความหมายที่แตกต่างกัน เช่น สีเหลืองที่เกี่ยวกับเงินทอง ความร่ำรวย หรือสีชมพูที่เกี่ยวกับความรัก เป็นต้น ในบทความนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าซารุโบโบะมีต้นกำหนดมาจากอะไรและทำไมถึงไร้หน้า!?
มาจากเครื่องรางสำหรับการคลอดบุตรของชนชั้นสูง
View this post on Instagram
ต้นแบบของซารุโบโบะมาจากตุ๊กตา “โฮโกะ” และ “อามะกาทสึ” ซึ่งได้รับอิทธิพลมากจากจีนในสมัยนารา (ค.ศ.710 – 794) โดยกลุ่มชนชั้นสูงได้นำตุ๊กตาไปประดับไว้ในห้องคลอด เสมือนเป็นเครื่องรางเพื่อให้คลอดบุตรง่ายและปลอดภัย เมื่อเข้าสู่สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 – 1868) ความเชื่อก็แพร่ไปยังสามัญชน และเริ่มนำโฮโกะมาเป็นเครื่องปัดรังควานสำหรับเด็ก พอเข้าช่วงกลางสมัยเอโดะก็เริ่มมอบตุ๊กตาให้ลูกสาวที่ต้องออกเรือนไว้เป็นเครื่องรางคุ้มครองให้มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขและคลอดบุตรอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมอบให้เด็กเอาไว้เป็นของเล่นเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย ในสมัยเอโดะเกิดไข้ทรพิษระบาด คนในสมัยนั้นมีความเชื่อว่าเทพแห่งความเจ็บป่วยนั้นเกลียดสีแดงจึงใช้ผ้าสีแดงในการทำตุ๊กตา
ในภาษาถิ่นฮิดะ “ซารุโบโบะ” หมายถึง ลูกลิง
View this post on Instagram
เมื่อเวลาผ่านไปความนิยมก็เริ่มน้อยลงและกลายเป็นขนบธรรมเนียมที่มีเฉพาะในภูมิภาคฮิดะซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของ.กิฟุเท่านั้น โดยย่ายายหรือแม่จะทำตุ๊กตาซารุโบโบะมาให้ลูกสาวที่จะออกเรือนให้เป็นเพื่อนข้างกายเมื่อต้องไกลห่าง โดยแฝงความรู้สึกและคำอธิฐานให้ลูกสาวมีชีวิตครอบครัวที่แสนสุข เมื่อท้องก็ขอให้คลอดง่ายและขอให้หลานเหลนที่เกิดมาเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง เนื่องจากมีลักษณะคล้ายลูกลิง คนท้องถิ่นจึงเรียกว่า “ซารุโบโบะ” ภาษาถิ่นฮิดะ “ซารุ” แปลว่า ลิง ส่วน”โบโบะ” แปลว่า เด็กทารก รวมกันหมายถึง “ลูกลิง” นั้นเอง นอกจากนี้คำว่า “ซารุ” อ่านอีกแบบได้ว่า “เอ็น” ซึ่งหมายถึง ความโชคดีและครอบครัวที่แสนสุขพร้อมหน้า ส่วนคำว่า “ซารุ” หมายถึง การขับไล่สิ่งชั่วร้ายและความเจ็บป่วย
ซารุโบโบะคือกระจกสะท้อนตัวเรานั่นเอง!
View this post on Instagram
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมซารุโบโบะถึงไม่มีหน้า จริงๆ แล้วไม่มีการวาดใบหน้าให้ซารุโบโบะตั้งแต่สมัยโบราณแล้วค่ะ เพราะให้จินตนาการว่าไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไหนก็ยังมีซารุโบโบะอยู่เขียงข้าง เวลาทุกข์ซารุโบโบะก็ทุกข์ด้วย เวลาสุขซารุโบโบะก็สุขด้วย เป็นเหมือนกระจกสะท้อนตัวนั่นเอง
ปัจจุบันตุ๊กตาซารุโบโบะเป็นเครื่องรางและของฝากที่จากจังหวัดกิฟุที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน นอกจากความน่ารักแล้วยังช่วยเรียกสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตอีกด้วย ไปกิฟุคราวหน้าอย่าลืมหาซื้อกันนะคะ ถ้ามีเวลาสามารถแวะไปสักการะที่ศาลเจ้าซารุโบโบะชิจิฟุคุ (Sarubobo Shichifuku Shrine) ที่เมืองเกโระจ.กิฟุเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย
สรุปเนื้อหาจาก: Hidanosarubobo