อิชิกาวะเป็นจังหวัดในภาคกลางของญี่ปุ่นที่มีทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ไม่ค่อยรู้จักกันเป็นวงกว้าง เราจึงขอแนะนำ 10 สถานที่ซึ่งไม่ควรพลาดเมื่อได้ไปเยือน แล้วคุณจะรู้ว่าอิชิกาวะก็มีดีไม่แพ้ที่อื่น
1. นาขั้นบันไดเซ็นไมดะ (白米の千枚田)
นาขั้นบันไดนี้อยู่ที่ริมทะเลเมืองเมืองวาชิมะ มีทุ่งนาเล็กๆ ขนาดประมาณ 0.2 เมตรนับแปลงเรียงรายกันอยู่บนภูเขา เป็นอีกจุดหนึ่งในการชมความงามทางธรรมชาติและภูมิปัญญาชาวบ้านของญี่ปุ่น
นอกจากทิวทัศน์ที่งดงามทุ่งนาสีเขียวขจีตัดกับสีครามของท้องฟ้าและทะเลแล้ว เรายังสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของเกษตรกรที่นี่ได้อีกด้วย
View this post on Instagram
2. เกาะมิซึเคะ (見附島)
เกาะมิซึเคะอยู่บนคาบสมุทรโตโนะ แลนด์มาร์กของเกาะคือโขดหินหน้าตาประหลาดคล้ายเรือจนได้รับการขนาดว่าเป็น “โขดหินเรือประจัญบาน” มีความสูง 28 เมตร และผู้คนเชื่อว่าเกาะแห่งนี้มีพลังในการสานความสัมพันธ์อีกด้วย ว่ากันว่าคู่รักที่มาลั่นระฆังนี้ด้วยกันจะมีความรักที่ยืนยาวนิจนิรันดร์
View this post on Instagram
3. ชายหาดจิริฮามะ (千里浜なぎさ)
หาดทรายเพียงหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นและ 1 ใน 3 แห่งของโลกเท่านั้นที่รถสามารถวิ่งได้ ชายหาดจิริฮามะมีความยาว 8 กิโลเมตร กว้าง 50 เมตร เราสามารถขับรถชมคลื่นซัดฝั่งได้อย่างใกล้ชิดทีเดียว
เนื่องจากว่าทรายบนหาดนี้มีเนื้อละเอียดและอัดแน่นกว่าเม็ดทรายของชายหาดทั่วไป ทำให้น้ำทะเลซึมผ่านเม็ดทรายได้ดีและเกาะตัวแน่นเป็นพื้นทรายที่รองรับน้ำหนักรถได้อย่างสบายๆ นอกจากได้ชมท้องทะเลสีครามแล้ว ยังมีศิลปะบนผืนทรายแบบนี้ให้ชมกันด้วย
View this post on Instagram
5. ย่านโรงน้ำชาฮิงาชิ (ひがし茶屋)
ย่านเก่าแก่ที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่ง Little Kyoto แต่เดิมย่านนี้เป็นแหล่งให้ความบันเทิงแก่ผู้คนในสมัยเอโดะ ปัจจุบันยังมีร้านน้ำชาอายุกว่า 200 ปีเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ เราสามารถเพลิดเพลินกับการจิบชาพร้อมกับชมมนต์ขลังของบ้านเรือนเก่าแก่ในย่านนี้ได้ อีกหนึ่งความสนุกของที่นี่คือการปั่นจักรยาน จะมีจักรยานให้นักท่องเที่ยวไว้เช่าปั่นชมบ้านเรือนภายในย่านได้อย่างทั่วถึง
View this post on Instagram
6. อารามเมียวริวจิ (妙立寺)
อารามเมียวริวจิในเมืองคานาซาวะ หรือในอีกชื่อหนึ่งคือวัดนินจา「忍者寺」เพราะในอารามเต็มไปด้วยกลไกมากมากอย่างเช่น ประตูกล เขาวงกต อุโมงค์ลับ แต่แท้จริงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับนินจาเพราะถูกสร้างโดยไดเมียวตระกูลมาเอดะเพื่อเป็นป้อมปราการสำหรับรับมือข้าศึก ในการเข้าชมนักท่องเที่ยวจะต้องจองล่วงหน้าก่อนเนื่องจากมีผู้ชมแน่นขนัดทุกวัน
View this post on Instagram
7. ปราสาทคานาซาวะ (金沢城)
ปราสาทคานาซาวะตั้งอยู่ที่เมืองคานาซาวะ สร้างขึ้นในปีค.ศ.1583 โดยขุนนางตระกูลคางะซึ่งถือเป็นตระกูลที่มีบทบาททางการเมืองรองจากตระกูลโตกุงาวะ เคยถูกเผาทำลายไปหลายครั้ง ตัวปราสาทที่เห็นในปัจจุบันนี้ถูกสร้างขึ้นตามต้นแบบในอดีตทุกประการ และที่นี่ถือเป็นจุดชมซากุระที่สำคัญของเมืองนี้ด้วย
View this post on Instagram
8.สวนเก็งโรขุ (兼六園)
สวนเก็งโรขุได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 3 สวนสำคัญของญี่ปุ่น ชื่อสวนหมายถึงสวนที่มีองค์ประกอบอันดีทั้ง 6 คือ กว้างขวาง, เงียบสงบ, แรงมานะของผู้สร้าง, เก่าแก่, มีแหล่งน้ำ, ตระการตา ความงามของสวนเก็งโรขุจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อย่างในรูปนี้เป็นใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง สวนเก็งโรขุอยู่ถัดจากปราสาทคานาซาวะเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น จึงสามารถชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิโดยมีปราสาทเป็นฉากหลังได้ และสวนที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนในฤดูหนาว ก็เป็นภาพที่โรแมนติกไปอีกแบบหนึ่ง
View this post on Instagram
9. น้ำตกอุบางะ (姥ヶ滝)
น้ำตกอุบางะในเมืองฮากุซังได้รับรับเลือกเป็น 1 ใน 1oo สุดยอดน้ำตกของญี่ปุ่น ด้วยความงามราวกับภาพวาดและทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในจังหวัดอิชิกาววะ น้ำตกที่มีความสูง 111 เมตรแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้แดงที่งดงามในฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย
View this post on Instagram
10. แหลมซึซึ (珠洲岬)
แหลมซึซึมิอยู่ที่เมืองซึซึ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญของจังหวัดอิชิกาวะ ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 3 สถานท่องเที่ยวที่เพิ่มพลังชีวิต (Power Spot) แก่ผู้มาเยือนได้อย่างดีที่สุด
กาลเวลานับล้านปีได้กัดเซาะหินจนเกิดรูปร่างคล้ายสระน้ำส่วนตัวแบบนี้ จุดนี้ถือแลนด์มาร์กสำคัญของแหลมซึซึซึ่งทุกคนต้องมานอนแช่น้ำหรือถ่ายรูปกันสักครั้ง
นอกจากนั้นยังมีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ทอดสายตามองภาพรวมของแหลมที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลสีครามกว้างใหญ่อีกด้วย
View this post on Instagram