สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่น JR Times by JR East ก็เป็นเว็บหนึ่งที่เหมาะกับการทำการบ้านเพื่อเตรียมทริปลุยญี่ปุ่นค่ะ โดย JR Times by JR East เป็นเว็บไซต์ที่รวมทุกบทความเกี่ยวกับรถไฟที่นักท่องเที่ยวต้องรู้ ซึ่งรวมถึงบทความรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ ห้ามพลาดที่สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟ JR East อีกมากมาย!
ในบทความนี้ เราจะพาเพื่อนๆ ไปสนุกกับสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิไปพร้อมๆ กับคุณ Carissa Loh นักเขียนชาวสิงคโปร์ผู้หลงรักญี่ปุ่นและมีประสบการณ์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้วทั่วประเทศ! ซึ่งในบทความนี้คุณ Carissa จะมาแชร์ลิสต์ 12 ดอกไม้ที่น่าชมในฤดูใบไม้ผลิซึ่งสามารถเดินทางไปชมกันได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟของ JR East ! ถ้าพร้อมแล้วสะพายกล้องให้พร้อมแล้วตามไปดูกันเลย!
ท่องโลกแฟนตาซีแห่งดอกไม้: รวม 12 ดอกไม้หลากสีสันที่ชมได้ในฤดูใบไม้ผลิ

ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น คุณอาจจะนึกถึงดอกซากุระ (桜) ดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่นที่บานในฤดูใบไม้ผลิเป็นอย่างแรก แต่นอกจากดอกซากุระสีชมพูระเรื่อแล้ว ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นยังมีดอกไม้อีกมากมายที่เป็นสัญญาณบอกถึงการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ
คุณอาจจะนึกสงสัยว่าดอกไม้อื่นที่ว่านี้มีอะไรบ้าง หรือบางทีคุณอาจจะไม่ได้จัดทริปตรงกับช่วงซากุระบาน ไม่ว่าเหตุผลของคุณจะเป็นอะไร ข่าวดีคือที่ญี่ปุ่นยังมีดอกไม้อีกมากมายหลายชนิดให้คุณได้ชม ตั้งแต่ทุ่งดอกนาโนะฮานะ (Rapeseed) สีเหลืองสดใส ไปจนถึงดอกฮานะโมโมะ (Peach Blossom, ดอกท้อ) สีชมพูเข้ม และดอกนีโมฟีเลีย (Nemophilia) สีฟ้าอ่อน ดอกอาซาเลีย (Azalea) ที่มีสีโทนร้อนสดใส ดอกป๊อบปี้ (Poppy) สีแดงเข้ม และดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) สีฟ้าสวยสะกดตา เป็นต้น ซึ่งฉันจะพาคุณไปรู้จักดอกไม้ทั้ง 12 สายพันธุ์ในพื้นที่ตะวันออกของญี่ปุ่นที่ฉันแนะนำให้ไปชมเป็นอย่างยิ่ง (โดยเรียงตามลำดับช่วงที่บานของดอกไม้แต่ละชนิด)
1) ดอกบ๊วย (梅)

ดอกบ๊วยเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่บานเร็วที่สุด (โดยทั่วไปในภูมิภาคคันโตรอบโตเกียวนั้นมักจะบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงมีนาคม) ดอกบ๊วย (梅, Ume) เป็นดอกไม้ที่มีบทบาทในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาช้านาน โดยในประเทศญี่ปุ่น การที่ดอกบ๊วยเริ่มบานถือเป็นสัญญาณการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต่างเฝ้ารอมาตลอดฤดูหนาว
2) ดอกแอปริคอต (あんず)

ดอกไม้ชนิดต่อไปก็เป็น “ดอกไม้ผล” เช่นกัน นั่นคือดอกแอปริคอตนั่นเอง เมืองจิคุมะ (Chikuma City) ในจังหวัดนากาโนะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำจิคุมะซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ เมืองจิคุมะยังมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตแอปริคอต (あんず, anzu) ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับดอกแอปริคอตสีชมพูสวยงามเหล่านี้ได้
3) ทิวลิป (チューリップ)

ดอกทิวลิป (チューリップ, chūrippu) เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดนีงาตะซึ่งเป็นจังหวัดแรกในญี่ปุ่นที่สามารถผลิตหัวดอกทิวลิปได้ ด้วยดินที่อุดมสมบูรณ์และภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้นีงาตะเป็นผู้ผลิตทิวลิปอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น ในทุกฤดูใบไม้ผลิคุณสามารถสนุกไปกับเทศกาลดอกทิวลิปมากมายที่จัดขึ้นทั่วพื้นที่จังหวัด โดยงานเทศกาลดอกทิวลิปที่ห้ามพลาดคือ Gosen City Tulip Festival
4) ดอกท้อฮานะโมโมะ (花桃)

ขณะที่ “ดอกไม้ผล” อย่างดอกบ๊วยและดอกแอปริคอตเป็นดอกไม้ที่จะโตไปเป็นผลไม้ที่กินได้ต่อไป ต้นไม้ที่ออกลูกท้อ (桃, momo) ที่เรากินกันกับต้นไม้ที่ออกดอกท้อฮานะโมโมะ (花桃, hanamomo) นั้นเป็นต้นไม้คนละสายพันธุ์กัน โดยต้นดอกท้อที่เราสามารถชมดอกท้อฮานะโมโมะได้นั้นเป็นไม้ประดับที่ไม่ออกผล สำหรับจุดชมดอกท้อฮานาโมโมะที่หลายคนยกให้เป็นจุดที่ดีที่จุดก็คือฮิรุกามิออนเซ็น (昼神温泉, Hirugami Onsen)
5) ดอกนีโมฟีลา (ネモフィラ, Nemophila)

ถ้าคุณเป็นคนที่คุ้นเคยกับดอกไม้ดี คุณคงรู้ว่าดอกไม้สีฟ้านับเป็นดอกไม้ที่หายากเมื่อเทียบกับดอกไม้ที่มีโทนสีอุ่นเช่นชมพู แดง ส้ม และเหลือง อย่างไรก็ตาม ข่าวดีคือคุณสามารถชมดอกไม้สีฟ้า Baby Blue ชื่อนีโมฟีลา (ネモフィラ, Nemophila) ได้ที่ญี่ปุ่น! เจ้าดอกนีโมฟีลานี้มีกลีบดอกไม้เล็กๆ สีฟ้าโปร่งและเป็นที่รู้จักในนามดอก “Baby Blue Eyes”
6) ชิบาซากุระ (芝桜)

ถึงจะชื่อว่าชิบาซากุระ (芝桜, shibazakura) แต่เจ้าดอกไม้นี้ไม่ใช่ซากุระชนิดหนึ่งแต่อย่างใด ชื่อชิบาซากุระมีที่มาจากหน้าตาของดอกไม้ที่ดูเหมือนซากุระและธรรมชาติของมันที่งอกจากพื้นดิน (ชิบะหมายถึงพื้นสนาม) นอกจากนี้ชิบาซากุระยังมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า ”Pink Moss Phlox” โดยชิบาซากุระเป็นพืชคลุมดินชนิดหนึ่งที่มีดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่บานปกคลุมพื้นดินเมื่อถึงฤดู สำหรับสถานที่ในญี่ปุ่นตะวันออกที่คุณสามารถชมชิบาซากุระได้นั้นมีสองที่ และทั้งหมดนี้อยู่ในพื้นที่ใกล้โตเกียว ได้แก่ที่งาน Fuji Shibazakura Festival และ Hitsujiyama Park Shibazakura Hill
7) นาโนะฮานะ (菜の花)

สีเหลืองเป็นสีที่มักถูกเชื่อมโยงกับความสุข เพราะฉะนั้น มาเดินเล่นท่ามกลางสีเหลืองชวนสุขใจของดอกนาโนะฮานะ (菜の花, rapeseed blossoms) กันไหม? ถ้าคุณสนใจ ฉันมีสองสถานที่น่าเที่ยวมาแนะนำ ได้แก่เมืองโยโกฮามะในจังหวัดอาโอโมริที่มีเทศกาล Nanohana Festival in Yokohama และ Nanohana Park ในจังหวัดนากาโนะซึ่งต่างมีกิจกรรมสุดพิเศษในช่วงงานเทศกาลให้เราได้สนุกอีกด้วย
8) ดอกวิสเทอเรีย (藤)

ที่ผ่านมาเราได้ดูดอกไม้ที่บานบนต้นไม้และดอกไม้ที่บานบนดินกันมาเยอะแล้ว ครั้งนี้เราจะมาดูดอกไม้ที่โตบนเถาวัลย์กันบ้าง นั่นคือดอกวิสเทอเรีย (藤, fuji) โดยดอกวิสเทอเรียมีลำต้นเป็นเถาวัลย์ ซึ่งต้นวิสเทอเรียที่มีอายุมากนั้นจะต้องมีอุปกรณ์ค้ำยันไว้ให้เถาวัลย์ยังสามารถห้อยลงมาได้ จนเป็นม่านดอกวิสเทอเรียสวยงาม
9) ดอกแอปเปิ้ล (りんご)

“ดอกไม้ผล” ชนิดสุดท้ายในลิสต์ของเราคือดอกแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ฉันชอบที่สุด และฉันประทับใจมากเมื่อได้มาลองชิมแอปเปิ้ลหลากหลายสายพันธุ์ในจังหวัดอาโอโมริ แต่นอกจากการเก็บแอปเปิ้ลแล้ว รู้หรือไม่ว่าในช่วงต้นจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมเราสามารถชมดอกแอปเปิ้ลสีขาวเล็กๆ สวยงามได้ด้วย? ถ้าคุณอยากชมดอกแอปเปิ้ล ไปที่อาโอโมริและนากาโนะ สองแหล่งผลิตแอปเปิ้ลระดับท็อปของญี่ปุ่นกันเลย
10) ดอกอาซาเลีย (つつじ)

คุณกำลังมองหาดอกไม้สีสดใสอยู่ใช่ไหม? มาชมดอกอาซาเลีย (つつじ, tsutsuji) ดอกไม้พุ่มที่มีดอกไม้สีสดใสที่ผู้คนชื่นชอบกัน
สวน Tsurumine Park (鶴峰公園, Tsurumine Kо̄en) ในจังหวัดนากาโนะเป็นสวนที่มีดอกอาซาเลียกว่า 30 สายพันธุ์จำนวนทั้งหมดมากกว่า 30,000 ต้น ทำให้ในช่วงต้นจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมสวนแห่งนี้จึงถูกแต้มไปด้วยดอกไม้สวยงามหลากเฉดสีทั้งแดง ส้ม ชมพู และม่วง แต่นอกจากนี้ สวนแห่งนี้ยังมีความเป็นมาที่น่าสนใจด้วยนะ
11) ป๊อบปี้ (ポピー)

ถ้าพูดถึงดอกป๊อบปี้ (ポピー, popī) คุณอาจจะนึกถึงดอกฝิ่น (Oriental Poppy) แต่ดอกป๊อบปี้ที่ถูกปลูกทั่วไปในญี่ปุ่นคือดอกเชอร์ลี่ย์ป๊อบปี (シャーレーポピー, Shirley Poppy) และคุณไม่ต้องมองหาที่ไหนไกล เพราะในพื้นที่ใกล้โตเกียวมีหนึ่งในจุดชมดอกป๊อบปี้ที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดให้คุณไปเที่ยวชมกันได้ นั่นคือเทศกาลดอกป๊อบปี้ Poppies in the Sky (天空のポピー Tenkū no Popī) ในจังหวัดไซตามะนั่นเอง
12) ไฮเดรนเยีย (あじさい)

ปิดท้ายลิสต์ดอกไม้ที่แนะนำทั้ง 12 ชนิดของฉันกันด้วยดอกไฮเดรนเยีย (あじさい, ajisai) ซึ่งถ้าดอกบ๊วยเป็นสัญญาณถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ ดอกไฮเดรนเยียก็เป็นสัญญาณช่วงสิ้นสุดของฤดูใบไม้ผลิและการเริ่มต้นฤดูร้อนนั่นเอง
แม้จะมีแหล่งชมดอกไฮเดรนเยียมากมายในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในวัดต่างๆ แถวคามาคุระ แต่จุดชมไฮเดรนเยียที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น (อ้างอิงจากสมาคม Nippon Hydrangea Association) ก็คือที่ Michinoku Hydrangea Garden (みちのくあじさい公園, Michinoku Ajisai Kо̄en) ในจังหวัดอิวาเตะ ซึ่งที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสวนไฮเดรนเยียที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีความกว้างเป็นสามเท่าของโตเกียวโดม
ไปสัมผัสสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิด้วยตัวเองกัน!
เนื้อหาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของรีวิวเท่านั้น อ่านรีวิวแบบจัดเต็มจากคุณ Carissa Loh พร้อมพิกัดจุดชมดอกไม้และวิธีเดินทางแบบละเอียดยิบ รวมถึงทุกอย่างที่คุณต้องรู้เพื่อจัดทริปฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นที่ลืมไม่ลง! คลิกอ่าน “ท่องโลกแฟนตาซีแห่งดอกไม้: รวม 12 ดอกไม้หลากสีสันที่ชมได้ในฤดูใบไม้ผลิ” จากเว็บ JR TIMES by JR-EAST รีวิวโดยคุณ Carissa Loh หรือคลิกที่ภาพด้านล่างแล้วไปสนุกกันต่อได้เลย