แลนด์มาร์กแห่งเมืองเกียวโต “เกียวโตทาวเวอร์” หอคอยสีขาวที่สูงที่สุดในเมือง ตั้งตระหง่านอยู่หน้าสถานีรถไฟเจอาร์เกียวโต มาพร้อมรูปแบบสถาปัตยกรรมเส้นโค้งมนที่ดูเรียบง่ายและงดงาม ทั้งยังเป็น ‘สถาปัตยกรรมที่ไม่ใช้โครงเหล็ก’ ที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย
เกียวโตทาวเวอร์สร้างเสร็จเมื่อปี 1964 พร้อมกับการจัดงานเกียวโตโอลิมปิก มีความสูงถึง 131 เมตร ซึ่งสูงกว่าเจดีย์ห้าชั้นของวัดโทจิเป็น 2 เท่า ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะเมื่อมาเยือนเมืองเกียวโต
และวันนี้ เราจะมาแจก Checklist 4 ข้อ ที่เพื่อน ๆ ไม่ควรพลาดเมื่อได้ไปเที่ยวเกียวโตทาวเวอร์ หากทำ Checklist ครบทั้ง 4 ข้อได้ รับรองเลยว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวเมืองเกียวโตที่สนุกและคุ้มค่าอย่างแน่นอน!
1. ไปชมวิวเมืองเกียวโตแบบ 360 องศา
Checklist ข้อแรกที่เพื่อน ๆ ไม่ต้องเสียเวลาลังเลนานเลยก็คือ การขึ้นไปชมวิวเมืองเกียวโตแบบเต็มตา 360 องศาของหอคอยที่สูงที่สุดในเมือง ซึ่งนี่ถือเป็นไฮไลต์เด็ดของเกียวโตทาวเวอร์เลยก็ว่าได้! ในวันที่สภาพอากาศปลอดโปร่ง เราสามารถมองเห็นสิ่งก่อสร้างสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น วัดน้ำใส คิโยมิสึ, วัดโทจิ ฯลฯ โดยมีวิวจากธรรมชาติของภูเขา เช่น ภูเขาฮิเอ รายล้อมเมืองเอาไว้ด้วย
2. ชมวิวยามค่ำคืนจากจุดชมวิวที่สูงที่สุดในเมืองเกียวโต
เปลี่ยนบรรยากาศมาชมวิวยามค่ำคืนที่งดงามไม่แพ้วิวตอนกลางวันกันบ้าง! กับภาพของเมืองเกียวโตและแสงไฟจากตึก อาคาร ที่ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา ให้บรรยากาศโรแมนติกและชวนฝันไปอีกแบบ
3. แวะ Kyoto Tower Sando แหล่งรวมของดีเมืองเกียวโต
View this post on Instagram
Kyoto Tower Sando เป็นแหล่งรวมร้านค้าของฝาก ของดีประจำเมืองเกียวโตเอาไว้มากมาย ซึ่งอยู่ระหว่างชั้นใต้ดินชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 2 ของตึกเกียวโตทาวเวอร์ ประกอบไปด้วย
ใต้ดินชั้น 1 FOOD HALL
ฟู้ดฮอลล์ที่มาในคอนเซ็ปต์ ‘เพลิดเพลินไปกับการเดินกินเมนูอาหารอร่อยของเกียวโต’ ซึ่งจะรวบรวมร้านอาหารมื้อกลางวัน มื้อดินเนอร์ และร้านคาเฟ่เก๋ ๆ เจ้าดังของเมืองเกียวโตเอาไว้ในที่เดียว
ชั้น 1 MARKET
แหล่งรวมร้านของฝากต่าง ๆ ที่มาในคอนเซ็ปต์ ‘ตลาดรวมของชั้นยอดสไตล์เกียวโต’ มีให้เลือกซื้อตั้งแต่ขนมญี่ปุ่นดั้งเดิม สินค้าที่ระลึก ไปจนถึงเครื่องสำอางเลยทีเดียว
ชั้น 2 WORKSHOP
สัมผัสวัฒนธรรมเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น ‘เรียนรู้และเล่นสนุก’ ไปกับกิจกรรมมากมายที่รอคุณอยู่ที่ชั้น 2 นี้ อาทิ การทำขนมญี่ปุ่นดั้งเดิม, ออกแบบลายเครื่องปั้นดินเผาคิโยมิสึ, คอร์สเรียนวิธีการปั้นซูชิ ไปจนถึงการเช่าชุดกิโมโน
แม้ชั้น WORKSHOP จะสามารถ Walk-in เข้าไปใช้บริการได้เลยโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า แต่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ จองคิวร้านที่ต้องการใช้บริการล่วงหน้าก่อน เพื่อประหยัดเวลาได้ยิ่งขึ้น
4. ชมประดับไฟไลท์อัพสีสันคัลเลอร์ฟูล
เมื่อตะวันลับขอบฟ้า หอคอยสีขาวบริสุทธิ์ที่เราได้เห็นเมื่อตอนกลางวัน จะถูกประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟ LED สีสันสดใส ซึ่งจะมีการเปลี่ยนสีไปตามตารางและช่วงเทศกาลต่าง ๆ อีกทั้ง เรายังสามารถใช้บริการเปลี่ยนสีประดับไฟไลท์อัพสำหรับวันพิเศษให้กับคนพิเศษ เช่น การฉลองวันเกิด หรือเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน เป็นต้น
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทาง
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 721-1 Higashishiokoji-cho, Karasuma-dori Shichijo-sagaru, Shimogyo-ku, Kyoto 600-8216 Japan
เบอร์โทรศัพท์ : 075-361-3215 (ภาษาญี่ปุ่น)
เว็บไซต์ : kyoto-tower (ภาษาอังกฤษ)การให้บริการ
เวลาเปิดให้บริการ : สามารถตรวจสอบได้ผ่านเว็บไซต์ kyoto-tower (ภาษาอังกฤษ)
ค่าบริการจุดชมวิว :
ผู้ใหญ่ 900 เยน
นักเรียนมัธยมปลาย 700 เยน
นักเรียนประถมและมัธยมต้น 600 เยน
เด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 6 ขวบ 200 เยน.การเดินทาง
รถไฟ : เดินราว 2 นาทีจากสถานีรถไฟเกียวโต โดยรถไฟ JR หรือรถไฟใต้ดิน
รถประจำทาง : เดินราว 2 นาที จากป้ายหน้าสถานีรถไฟเกียวโต ‘เกียวโต เอคิ มาเอะ’
รถยนต์ส่วนตัว : สามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวได้ที่ลานจอดรถหยอดเหรียญ ที่เปิดให้บริการรอบ ๆ เกียวโตทาวน์เวอร์
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่เคยไปเที่ยวเกียวโตทาวเวอร์มาก่อน หวังว่า Checklist 4 ข้อ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์และช่วยให้เพื่อน ๆ วางแผนเที่ยวเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นแห่งนี้ได้อย่างสนุกสนานและเต็มไปด้วยความประทับใจนะคะ!
สรุปเนื้อหาจาก keihanhotels-resorts, kyoto-tower