เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง รีเทล เมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ดำเนินกิจการศูนย์การค้าชื่อดังอย่าง MITSUI OUTLET PARK และ Mitsui Shopping Park จัดงานแถลงข่าวเพื่อเป็นการขอบคุณและประชาสัมพันธ์ศูนย์การค้า เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยหลังการระบาดของโควิด-19 โดยได้แนะนำสาขายอดนิยม จุดเด่นของแต่ละที่ รวมถึงศูนย์การค้าสาขาใหม่ที่กำลังจะเปิดในเร็ว ๆ นี้ งานนี้เหล่าสายช็อปจะต้องถูกใจแน่นอน จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันค่ะ
บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง รีเทล แมเนจเมนท์ จำกัด เป็นบริษัทผู้ดำเนินกิจการศูนย์การค้าชั้นนำของญี่ปุ่นทั้งห้างสรรพสินค้าและเอาท์เล็ตมากกว่า 70 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงอีก 10 แห่งในต่างประเทศ สำหรับศูนย์การค้าที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว แน่นอนว่าต้องเป็น MITSUI OUTLET PARK ที่สามารถซื้อสินค้าแบรนด์เนมจากทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ในราคาย่อมเยา และค่อนข้างขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพ มีทั้งหมด 12 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น และ Mitsui Shopping Park ช็อปปิ้งมอลล์ที่รวบรวมร้านค้าหลากหลาย ทั้งสินค้าแฟชั่น อาหาร ทั้งยังเป็นศูนย์รวมความบันเทิงและประสบการณ์ใหม่ ๆ สามารถสัมผัสวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นจากการแวะช็อปซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าในท้องถิ่นได้ด้วย
สำหรับบริการของศูนย์การค้าเพื่ออำนวนความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว มีดังนี้
- การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในบางร้านค้า
- คอลเซ็นเตอร์ที่ให้บริการภาษาอังกฤษได้ กรณีเกิดปัญหาใด ๆ โอเปอเรเตอร์จะช่วยแนะนำทางโทรศัพท์
- ฟรี Wi-Fi
- ตู้แลกเงินอัตโนมัติ
- ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ
- สามารถใช้บัตรเครดิต และ True Money ได้
*ช่วงสงกรานต์มีจัดแคมเปญรับแคชแบ็คเงินคืน 100 เยน สำหรับผู้ที่มียอดใช้จ่ายสินค้า 1,000 เยนขึ้นไป*
ต่อไปเราจะมาแนะนำ OUTLET PARK และ Shopping Park สาขายอดนิยมว่ามีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยยย
MITSUI OUTLET PARK SAPPORO KITAHIROSHIMA
มีประมาณ 180 ร้านค้า มีร้านปลอดภาษีประมาณ 100 ร้านค้า ที่นี่เป็นเอาท์เล็ตสาขายอดนิยมของคนไทยตั้งแต่ก่อนสถานการณ์โควิด ถือเป็นเอาท์เล็ตมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด แม้จะไปท่องเที่ยวในฤดูหนาวก็สามารถช็อปปิ้งแบบอุ่นกายอุ่นใจภายในห้างได้ สามารถทานอาหารท้องถิ่นของฮอกไกโด เช่น เทชิคาเกะราเมง ซุปแกงกะหรี่ มีร้าน Hokkaido Loco Farm Village ที่สามารถซื้อของฝากสุดฮิตจากฮอกไกโด อย่างขนมชิโร่ยโคยบิโตะ ซอสปรุงรสอูนิ หรือจะซื้ออาหารทะเลและผักสดก็ได้เช่นกัน และยังมีร้านแบรนด์กีฬาชื่อดังทั้ง new balance, Nike, adidas, Timberland, Onitsuka Tiger
การเดินทาง
– นั่งรถรับส่งสนามบินจากสนามบินนิวจิโตเสะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
– นั่งรถบัสสายตรงจากสถานีซัปโปโร ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
MITSUI OUTLET PARK JAZZ DREAM NAGASHIMA
มีประมาณ 300 ร้านค้า มีร้านปลอดภาษีประมาณ 80 ร้านค้า ที่นี่เป็นเอาท์เล็ตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูบุ มีสินค้าแบรนด์หรูให้เลือกมากมาย มีร้านอาหารที่สามารถทานอาหารท้องถิ่นของนาโกย่า เช่น มิโซะคัตซึ (หมูชุบเกล็ดขนมปังทอดราดซอสมิโซะ) บะหมี่คิชิเมน ปีกไก่ทอดเทบะซากิ และข้าวหน้าปลาไหลฮิทสึมาบุชิ ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงทั้ง Nagashima Spa Land สวนสนุกที่มีรถไฟเหาะขนาดใหญ่มากมาย และ Nabana no Sato สถานที่ประดับไฟอิลลูมิเนชั่นชื่อดังของญี่ปุ่น
การเดินทาง
– นั่งรถบัสด่วนจากสนามบินนานาชาติชูบุ เซนแทร์ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
– นั่งรถบัสสายตรงจากนาโกย่า ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
DiverCity Tokyo Plaza
โดดเด่นด้วยหุ่นยูนิคอร์นกันดั้มสเกลเท่าตัวจริงยืนต้อนรับอยู่หน้าห้าง มีประมาณ 150 ร้านค้า มีร้านปลอดภาษีประมาณ 50 ร้านค้า ปัจจุบันยังไม่มีตู้แลกเงินอัตโนมัติแต่มีกำหนดติดตั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ ห้างนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในฐานะทางผ่านของเส้นทางสายทองคำ
ในปัจจุบันเองก็ยังคงมีลูกค้าชาวไทยจำนวนมากแวะเวียนมาใช้บริการ มีศูนย์อาหารที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ซึ่งรวบรวมร้านอาหารชื่อดังในโตเกียวหลากหลายร้าน เน้นความบันเทิงโดยมีร้านคาแรคเตอร์การ์ตูนมากมายทั้ง The Gundam Base Tokyo, Hello Kitty Japan, Ghibli Donguri Republic, Doraemon Future Department Store ร้านค้าโดราเอมอนอย่างเป็นทางการแห่งแรกของโลก และยังมี Kirakira Donki ร้าน Don Quijote รูปแบบใหม่สำหรับเหล่าวัยรุ่น เน้นสินค้าที่เป็นกระแสในโลกอินเตอร์เน็ต เครื่องสำอาง ขนม และตอนนี้ที่ Odaiba Big Top ยังมีการจัดอีเว้นท์ Daihatsu Alegria -In A New Light- การแสดงแสงสีเสียงตระการตาจาก Cirque du Soleil คณะละครสัตว์อันดับ 1 ของโลก ระยะเวลาการจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2023 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ alegria-jp
การเดินทาง
– นั่งรถไฟจากสถานีโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 18 นาที
– จากสนามบินฮาเนดะขับรถยนต์มาประมาณ 17 นาที หรือนั่งรถไฟมาประมาณ 50 นาที
– นั่งรถไฟจากสถานีกินซ่า ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
– นั่งรถไฟจากสนามบินนาริตะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA
มีประมาณ 220 ร้านค้า มีร้านปลอดภาษีประมาณ 60 ร้านค้า สาขานี้เพิ่งเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2022 และได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ มีจุดเด่นคือหุ่นกันดั้ม the Life-Sized V Gundam statue สเกลเท่าตัวจริงยืนต้อนรับอยู่หน้าห้าง อัดแน่นไปด้วยร้านค้าที่ให้ความบันเทิงทั้ง GUNDAM SIDE-F, JUMP SHOP ร้านขายสินค้าจากนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump, KidZania Fukuoka สาขาแรกในภูมิภาคคิวชู, FUKUOKA TOY MUSEUM พิพิธภัณฑ์ของเล่นไม้ที่ใหญ่ที่สุด สามารถทานอาหารท้องถิ่นของฮากาตะอย่างอุด้งเทมปุระโกโบ อุด้งจากร้าน Nikuniku Udon และร้าน Udon Daigaku มีร้านขนม OKASHIBAKO ที่จำหน่ายคุกกี้แสนอร่อยจาก Tokyo Milk Cheese Factory นอกจากนี้ เนื่องจากที่ LaLaport Fukuoka แห่งนี้สร้างบนพื้นที่ของ Vegefru Stadium ซึ่งป็นตลาดผักและผลไม้ของเมืองฟุกุโอกะ ทางห้างจึงมี Food Marche ที่ยังคงให้กลิ่นอายความเป็นตลาดผักและผลไม้ นำเสนอเสน่ห์ของอาหารในพื้นที่คิวชูและฟุกุโอกะ
การเดินทาง
– นั่งรถบัสสายตรงจากสนามบินฟุกุโอกะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
– ขับรถยนต์จากสถานีฮากาตะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
RAYARD MIYASHITA PARK
มีประมาณ 90 ร้านค้า มีร้านปลอดภาษีประมาณ 25 ร้านค้า ไม่มีตู้แลกเงินอัตโนมัติกับล็อคเกอร์หยอดเหรียญ เป็นห้างสาขาใหม่ที่เปิดตัวเมื่อปี 2020 เป็นที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ห้างนี้จะหันหน้าไปทางถนนเมจิซึ่งสามารถเดินไปมาระหว่างชิบุย่ากับฮาราจูกุซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมได้ด้วย มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมายทั้งสวนสาธารณะ ร้านค้า โรงแรม สวนบนดาดฟ้าที่มีสนามหญ้าเปิดโล่ง ลานกิจกรรมต่าง ๆ เช่น หน้าผาจำลองแบบ Bouldering ลานสเก็ต และสถานที่ออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีร้านค้าตั้งแต่แบรนด์หรู ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านแผ่นเสียง และอีกมากมาย จุดเด่นคือลูกค้าจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรม Yokocho ซึ่งเป็นชื่อเรียกทางเดินถนนที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าเล็ก ๆ แบบร้านกินดื่ม และยังสามารถสนุกไปกับการกินแบบ Hashigozake หรือการเปลี่ยนร้านไปเรื่อย ๆ โดยไม่หยุดนั่งร้านไหนเป็นเวลานานนั่นเอง
การเดินทาง
– เดินประมาณ 3 นาทีจากสถานีชิบุย่า
– เดินประมาณ 8 นาทีจากสถานีเมจิ จิงกูมาเอะ (ฮาราจูกุ)
Mitsui Shopping Park LaLaport KADOMA & MITSUI OUTLET PARK OSAKA KADOMA
มีประมาณ 250 ร้านค้า มีร้านปลอดภาษีประมาณ 79 ร้านค้า มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 17 เมษายน 2023 นี้ เป็นสาขาใหม่ล่าสุดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและจัดเป็นห้างระดับแถวหน้าในญี่ปุ่น เป็นการรวมกันครั้งแรกระหว่างศูนย์การค้ากับเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ไว้ด้วยกัน โดยจะมีตลาดคุโรมง ตลาดเก่าแก่ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวโอซาก้ามาช้านาน ลูกค้าจะได้สัมผัสความเป็น “ครัวของโอซาก้า” อย่างแท้จริงที่ตลาดแห่งนี้ ที่สาขานี้จึงสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการช็อปปิ้งจากเอาท์เล็ตในราคาสุดคุ้ม หาซื้อของฝากที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือลิ้มรสอาหารท้องถิ่นที่ตลาดคุโรมง
การเดินทาง
– นั่งรถไฟจากสถานีโอซาก้า ใช้เวลาประมาณ 17 นาที ลงที่สถานีคาโดมาชิ จากนั้นเดินต่ออีก 8 นาที
– นั่งรถไฟโอซาก้าโมโนเรลจากสนามบินคันไซ ประมาณ 37 นาที ลงที่สถานีคาโดมาชิ จากนั้นเดินต่ออีก 8 นาที
นี่ก็เป็นสาขาบางส่วนที่น่าสนใจในเครือของมิตซุยนะคะ แต่ละสาขาก็มีจุดเด่นต่างกันไปพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ นอกจากนี้เรายังมีคูปองส่วนลดมาให้ทุกคนได้ไปใช้ช็อปปิ้งที่ศูนย์การค้าในเครือมิตซุย โดยกดเข้าไปที่ลิงก์ และนำคิวอาร์โค้ดไปแสดงที่ Information Center ณ ศูนย์การค้าที่ร่วมรายการเพื่อนำมาแลกเป็นคูปองส่วนลดตัวจริงเมื่อซื้อของ สามารถแลกคูปองได้ถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้
mitsui shopping park coupon
สำหรับใครที่ยังกังวลเรื่องสถานการณ์โควิดในประเทศญี่ปุ่นตอนนี้ ก็ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ สถานการณ์ตอนนี้เทียบเท่ากับในยุโรปและสหรัฐอเมริกา แม้จะยังมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้ระบาดรุนแรงและไม่ค่อยมีความน่าวิตกกังวลแต่อย่างใด คนทั่วไปยังคงสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งสถานที่สาธารณะยังมีมาตรการป้องกันการติดเชื้อผ่านละออง โดยเน้นให้ความสำคัญในตอนรับประทานอาหาร ดังนั้น สบายใจหายห่วงได้ค่ะ
หลังการระบาดของโควิด-19 และมีการผ่อนปรนในเรื่องมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 กระแสการเดินทางท่องเที่ยวก็กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่เราทุกคนต่างก็คิดถึง ยิ่งในช่วงเดือนเมษายนที่เป็นวันหยุดยาวแถมยังตรงกับช่วงซากุระบาน หลาย ๆ คนก็คงจะวางแผนไปพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกคนเดินทางท่องเที่ยวกันให้สนุกนะคะ ^^
