นั่งรถไฟเที่ยว “นากาโนะ-นีงาตะ” ให้สนุกสุดเหวี่ยงตามสไตล์ที่ใช่คุณ!

นากาโนะและนีงาตะ เป็นสองจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ ติดกับทะเลญี่ปุ่น ด้วยความที่จังหวัดตั้งอยู่ติดกัน ทำให้สามารถเดินทางไปเที่ยวได้สะดวกในทริปเดียว แต่หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนและเดินทางไปอย่างไรดี วันนี้เราเลยจะมาแนะนำการเดินทางท่องเที่ยวนากาโนะและนีงาตะในสไตล์ต่างๆ ให้เพื่อนๆ ได้เลือกเที่ยวตามธีมที่ตัวเองชอบ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟ JR East ค่ะ

Theme 1: กินลมชมดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้ายามค่ำคืน

ธีมแรกเป็นธีมดูดาวสำหรับผู้ที่หลงใหลในความสวยงามและลึกลับของท้องฟ้ายามค่ำคืน เราจะพาเพื่อนๆ ขึ้นเขาไปดูดาวแบบใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบสุดๆ ณ จุดดูดาวที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น!

Minamimaki Village (南牧村; หมู่บ้านมินามิมากิ) จ.นากาโนะ

หมู่บ้านมินามิมากิ ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโนเบยามะ บริเวณเชิงเขายัตสึงาทาเกะ ในจังหวัดนากาโนะ ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 สถานที่ดูดาวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ทั้งยังเป็นที่ตั้งของหอดูดาววิทยุโนเบยามะ ที่มีกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดใหญ่ที่สุดติดอันดับโลกอีกด้วย

Nobeyama Radio Observatory (หอดูดาววิทยุโนเบยามะ; 国立天文台 野辺山宇宙電波観測所)

หอดูดาววิทยุโนเบยามะ (NRO) เป็นส่วนหนึ่งของหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์แห่งชาติของญี่ปุ่น (NAOJ) ที่นี่ใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุในการรับคลื่นวิทยุจากนอกโลก เพราะในอวกาศมีก๊าซและฝุ่นต่างๆ ที่ไม่เปล่งแสงอย่างดวงดาวแต่ปล่อยคลื่นวิทยุที่แตกต่างกันออกมา การใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุจึงทำให้สามารถบันทึกและวัดสัญญาณคลื่นวิทยุจากวัตถุต่างๆ บนท้องฟ้าได้

กล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ใหญ่ที่สุดของหอดูดาววิทยุโนเบยามะมีขนาด 45 เมตร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกล้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อนๆ ที่สนใจอยากชมความยิ่งใหญ่ของกล้องโทรทรรศน์วิทยุนี้ก็สามารถแวะไปชมกันได้ค่ะ

รายละเอียด
เวลาทำการ: 8:30-17:00
เว็บไซต์ (ENG): Nobeyama Radio Observatory

การเดินทาง
จากสถานี JR Nobeyama (Koumi Line) เดินต่อประมาณ 40 นาที

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากไปดูดาวที่หมู่บ้านมินามิมากิแล้วไม่รู้จะพักที่ไหนดี เราก็มีโรงแรม Yatsugatake Grace Hotel มาแนะนำ ที่นี่จะจัดปาร์ตี้ดูดาวกลางแจ้งเอาใจคนรักดวงดาวทุกคืนเลย วันไหนที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจก็ยังสามารถส่องกล้องโทรทรรศน์ดูดาวจากในห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่โรงแรมจัดไว้ให้ได้ คนรักการดูดาวห้ามพลาดเลยจริงๆ

 

View this post on Instagram

 

A post shared by 八ヶ岳グレイスホテル (@yatsugatakegracehotel)

รายละเอียด
เว็บไซต์ (JP): Yatsugatake Grace Hotel

สถานีรถไฟ Nobeyama (野辺山駅; โนเบยามะ)

สถานีรถไฟ Nobeyama (野辺山駅) ของ JR สาย Koumi (小海線) เป็นสถานีที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในบรรดาสถานีรถไฟของ JR ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,345.67 เมตร ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สถานีรถไฟที่อยู่ใกล้กับอวกาศมากที่สุด”

สำหรับผู้ที่โดยสารรถไฟ Joyful Train: HIGH RAIL 1375 เมื่อเดินทางมาถึงในช่วงกลางคืนจะสามารถเข้าร่วมทัวร์ดูดาวได้โดยมีไกด์บนรถไฟเป็นผู้พาเดินทัวร์ ซึ่งทัวร์นี้มีสำหรับผู้โดยสารรถไฟ HIGH RAIL 1375 เท่านั้น โดยในระหว่างที่เดินทัวร์นั้น ก็ไม่ต้องกลัวว่าไฟถนนจะเป็นอุปสรรค เพราะระหว่างเดินทัวร์ทางเมืองจะดับไฟถนนและไฟที่จอดรถในบริเวณนั้นเพื่อให้เห็นดาวได้ชัดขึ้น

รายละเอียด
ช่วงเวลาที่แนะนำ: ฤดูหนาว เพราะท้องฟ้าตอนกลางคืนจะใสเคลียร์มากที่สุด
เว็บไซต์ (ENG): สถานีรถไฟ Nobeyama

การเดินทาง
นั่งรถไฟ JR Koumi Line ลงที่สถานี JR Nobeyama

รถไฟ Joyful Train ที่พาเดินทางไปถึงได้: HIGH RAIL 1375

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากร่วมทัวร์ดูดาวที่สถานี Nobeyama โดยเฉพาะ ขอแนะนำให้ขึ้นรถไฟ Joyful Train ที่ชื่อว่า HIGH RAIL 1375 เพราะนี่คือรถไฟ “ดูดาว” ที่อัดแน่นด้วยกิจกรรมสำหรับคนรักดาวและท้องฟ้ายามกลางคืนมากมาย ซึ่งรวมถึงท้องฟ้าจำลองภายในขบวนรถไฟด้วย! หากเพื่อนๆ ขึ้นรถไฟขบวน HIGH RAIL Hoshizora (1 ใน 3 ขบวนรถไฟของ HIGH RAIL 1375) รถไฟจะไปจอดที่สถานี Nobeyama เป็นเวลา 50 นาทีเพื่อให้เพื่อนๆ ได้ลงไปดูดาวกับ Star gazing tour ด้วย รับรองว่าทริปดูดาวของเพื่อนๆ จะคอมพลีทอย่างแน่นอน

Theme 2: ชิม & ช้อปชิวๆ สไตล์สโลว์ไลฟ์

สายช้อปสายกินมาทางนี้ เราจะพาไปชิมไปช้อปของดีจากทั้งนากาโนะและนีงาตะในแบบที่ไม่ต้องไปเสียเวลาเสาะหาจากที่ไหนเพิ่มอีกเลย ถ้าพร้อมแล้วรีบตามมาเร็ว!

Teradomari Street Market (Sakana no Ameyoko) (寺泊魚の市場通り（魚のアメ横）ตลาดปลาเทราโดมาริ (ซากานะ โนะ อาเมโยโกะ)) จ. นีงาตะ

ตลาดปลาท้องถิ่นของจังหวัดนีงาตะที่ตั้งอยู่ริมถนนสาย 402 ซึ่งหันหน้าออกสู่ทะเลญี่ปุ่น ที่นี่เต็มไปด้วยของอร่อยส่งตรงจากทะเล ไม่เฉพาะในแถบจังหวัดนีงาตะเท่านั้น แต่มาจากแหล่งต่างๆ ทั่วญี่ปุ่นเลยทีเดียว เราขอเชิญชวนให้ทุกคนลองไปเดินหาซื้อของกินอร่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นหมึกย่างเสียบไม้ หอยต่างๆ ปลาตามฤดูกาล และอื่นๆ อีกมากมายเท่าที่ทะเลญี่ปุ่นอันอุดมสมบูรณ์จะมอบให้ได้ ถ้าอยากสัมผัสกับการชิมและช้อปแบบคนท้องถิ่น ต้องไม่พลาดตลาดปลาแห่งนี้

 

View this post on Instagram

 

A post shared by ami 🧏🏻‍♀️ (@niigata_nagano_gourmet21)

รายละเอียด
เวลาทำการ 8:30-17:00
วันหยุด: ไม่มี
เว็บไซต์(ENG): Teradomari Street Market (Sakana no Ameyoko)

การเดินทาง
จากสถานี JR Nagaoka (Joetsu Shinkansen, Joetsu Line, Shinetsu Main Line) ต่อรถบัส Echigo Kotsu ใช้เวลาประมาณ 60 นาที

รถไฟ Joyful Train ที่พาเดินทางไปถึงได้: Koshino Shu*Kura

เพิ่มสีสันให้การเดินทางไปตลาดปลาด้วยการขึ้นรถไฟ Koshino Shu*Kura รถไฟ Joyful Train ที่เพื่อนๆ จะได้ดื่มด่ำไปกับวิวระหว่างทางในขณะที่จิบสาเกของดีของจังหวัดนีงาตะไปด้วย

Kyu-karuizawa (旧軽井沢; คิวคารุอิซาวะ) จ.นากาโนะ

 

View this post on Instagram

 

A post shared by シュンチャン (@syuzugulliver)

เมืองคารุอิซาวะ เป็นเมืองเก่าเปี่ยมเสน่ห์ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้าเก๋ๆ มากมาย ถนนสายหลักของเมืองเคยถูกใช้เป็นเส้นทางสัญจรของพ่อค้าระหว่างเกียวโตและเอโดะ (โตเกียว) ในอดีต ปัจจุบันเป็นเมืองพักตากอากาศน่ารักที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ท่ามกลางธรรมชาติและภูเขาที่อุดมสมบูรณ์

เพื่อนๆ สามารถเดินเล่นและจับจ่ายซื้อของในย่านคิวคารุอิซาวะ หรือจะเช่าจักรยานไปปั่นเที่ยวชมเมืองให้ได้บรรยากาศและความสนุกในอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ แหล่งช้อปปิ้งหลักๆ ของที่นี่ได้แก่ คิวคารุอิซาวะกินซ่า (Karuizawa Ginza) ย่านช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยร้านรวงมากมายทั้งของกินและของใช้ตลอดเส้นทางยาว 800 เมตร

ของกินแนะนำในย่านนี้ก็เช่น ซอฟต์ครีมกาแฟของร้าน Mikado Coffee, โคร็อกเกะ และคาราเมลครีมปัง เป็นต้น ของกินหลายๆ อย่างสามารถซื้อจากร้านข้างทางมากินระหว่างเดินเที่ยวเมืองได้เลย

 

View this post on Instagram

 

A post shared by プロソフトクリーマー森川 (@softcream_world)

 

View this post on Instagram

 

A post shared by きよ (@kiyo9766)

อีกที่หนึ่งที่เพื่อนๆ สามารถไปช้อปปิ้งได้ก็คือ Karuizawa Prince Shopping Plaza (คารุอิซาว่าปรินซ์ช้อปปิ้งพลาซ่า) เอ้าท์เล็ตแห่งใหม่ของเมืองที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ และมีร้านอาหารด้วย 2-3 ร้าน ถ้าไม่อยากเสียงเวลาเดินวกวนไปมา เพียงแค่มาที่นี่ก็ได้ทั้งช้อปและกินของอร่อยครบจบในที่เดียว

รายละเอียด
เวลาทำการ:
Karuizawa: 10:00-18:00 (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน โดยร้านอาหารมักจะเปิดช้ากว่าร้านค้า)
Karuizawa Prince Shopping Plaza: 10:00-19:00

การเดินทาง
จากสถานี JR Karuizawa (Hokuriku Shinkansen) เดินไปทางเหนือประมาณ 20 นาทีจะถึงย่านคิวคารุอิซาวะ หรือจะนั่งรถบัส ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
ในการเที่ยวเมือง สามารถเช่าจักรยานได้ที่ร้านเช่าใกล้ๆ กับสถานี Karuizawa และ Karuizawa Ginza ในราคาประมาณ 1,000 เยนต่อวัน

Theme 3: ดื่มด่ำกับงานศิลปะ ค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ เป็นรางวัลให้กับตัวเอง

ใครรู้ตัวว่าชอบเสพงานศิลป์ ทั้งวันไม่อยากไปไหนมากมาย ขอแค่มีที่ดีๆ ให้ได้เพลิดเพลินกับศิลปะเป็นโอเค มาค่ะ เราไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะกันดีกว่า

Chihiro Art Museum Azumino (ちひろ美術館 安曇野; พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิฮิโระ อาซูมิโนะ) จ. นากาโนะ

 

View this post on Instagram

 

A post shared by 安曇野ちひろ美術館 ChihiroArtMuseum (@chihiroartmuseum_azumino)

พิพิธภัณฑ์บรรยากาศดีแห่งนี้จัดแสดงงานของชิฮิโระ อิวาซากิ นักวาดภาพประกอบชาวญี่ปุ่น ผลงานของเธอมักจะเป็นภาพสีน้ำรูปเด็กและดอกไม้ เพื่อนๆ นักอ่านน่าจะคุ้นเคยกับโต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง วรรณกรรมญี่ปุ่นชื่อดังที่เขียนจากเรื่องจริงของเท็ตซึโกะ คุโรยานางิ ภาพของเด็กหญิงบนหน้าปกหนังสือก็คือผลงานของคุณชิฮิโระนั่นเอง ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบมาให้ดูผ่อนคลายและเงียบสงบ พื้นที่โดยรอบเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างและบ่อน้ำ โดยมีเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้ผู้มาเยือนรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้าน

 

View this post on Instagram

 

A post shared by nakagawa (@___a.nkgw_a)

งานศิลปะของที่นี่จะถูกจัดหมุนเวียนเปลี่ยนไปในทุกๆ สองเดือน นอกจากผลงานของคุณชิฮิโระแล้ว ที่นี่ก็ยังจัดแสดงของสะสมนานาชาติ นิทรรศการความเป็นมาเกี่ยวกับหนังสือภาพ รวมไปถึงห้องสมุด ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึกด้วย อีกทั้ง ในบริเวณสวนด้านนอกก็มีผลงานศิลปะต่างๆ จัดแสดงอยู่เช่นกัน หากเพื่อนๆ อยากหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ไปดื่มด่ำกับศิลปะและธรรมชาติอันร่มรื่นและเงียบสงบ ก็ขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ดูสักครั้ง

รายละเอียด
เวลาทำการ: 10:00-17:00
เว็บไซต์ (ENG): Chihiro Art Museum Azumino

การเดินทาง
จากสถานี JR Shinano Matsukawa (Oito Line) นั่งแท็กซี่ 5 นาที, ปั่นจักรยาน 15 นาที หรือเดินใช้เวลา 30 นาที

รถไฟ Joyful Train ที่พาเดินทางไปถึงได้: Resort View Furusato

Furusato (ฟุรุซาโตะ) แปลว่า บ้านเกิด ในภาษาญี่ปุ่น รถไฟ Resort View Furusato เป็นรถไฟที่ปลุกความรู้สึกโหยหาอดีตและความรู้สึกของการกลับบ้านที่ชนบทเพื่อไปพักผ่อนและดึงความทรงจำดีๆ ในอดีตกลับมา หลังจากที่เหนื่อยกับการทำงานในเมืองใหญ่มาแสนนาน

Hiroshi Senju Museum Karuizawa (軽井沢千住博美術館; พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮิโรชิ เซนจู คารุอิซาวะ) จ.นากาโนะ

 

View this post on Instagram

 

A post shared by べりー (@tori_evarch)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่รวบรวมผลงานของศิลปินชาวญี่ปุ่น ฮิโรชิ เซ็นจู จุดเด่นของที่นี่คือการรวบรวมศิลปะ ธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัวและน่าค้นหา และสีสันของพรรณไม้กว่า 60,000 ต้นทั่วพิพิธภัณฑ์ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลก็ถือเป็นคุณค่าทางศิลปะส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน ดังนั้นนอกจากเพื่อนๆ ที่สนใจงานศิลปะทั่วไปแล้ว ใครที่ชื่นชอบภูมิสถาปัตยกรรมหรือกำลังมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปชมเป็นอย่างยิ่ง

ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์มีลักษณะโค้งมนและพื้นบางส่วนลาดเอียง ทำให้แม้พิพิธภัณฑ์จะดูเรียบๆ ออกแนวมินิมอลแต่ก็ไม่แข็งกระด้างและดูเป็นธรรมชาติ โทนสีโดยรวมขาวโปร่งสบายตา กำแพงหลายส่วนเป็นกระจกใสมองเห็นต้นไม้และในขณะเดียวกันก็รับแสงธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามา ผู้มาเยือนจะได้ชมทั้งผลงานศิลปะและพืชพรรณต่างๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร

รายละเอียด
เวลาทำการ: 9:30-17:00
วันหยุด: วันอังคาร (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ปิดทำการในฤดูหนาว: 26 ธันวาคม – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์
เว็บไซต์ (ENG): Hiroshi Senju Museum Karuizawa

การเดินทาง
จากสถานี JR Karuizawa (Hokuriku Shinkansen) นั่งแท็กซี่ประมาณ 10 นาที หรือ จากสถานี Naka Karuizawa นั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที

Theme 4: ออกสำรวจและค้นหาความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ

สำหรับใครที่อยากหลีกหนีออกจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่มากเป็นพิเศษ หรือว่าอยากจะไปสัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติมากกว่าเดิม ขอแนะนำธีมท่องเที่ยวธรรมชาติเลยค่ะ ไปรับพลังจากต้นไม้ใบหญ้าท่ามกลางหุบเขาลำเนาไพรกันสักหน่อย

Kiyotsu Gorge (清津峡; ช่องเขาคิยตสึ) จ.นีงาตะ

ช่องเขาคิยตสึ (Kiyotsu Gorge) ในจังหวัดนีงาตะ ดูโดดเด่นด้วยทัศนียภาพที่ดูแปลกตาของช่องเขาหินทรงเหลี่ยมๆ ที่เกิดจากการปะทุของลาวาเมื่อหลายล้านปีก่อน ซึ่งต่อมากลายเป็นทางตัดผ่านของแม่น้ำคิยตสึที่อยู่เบื้องล่าง

แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นก็เห็นจะเป็นส่วนของอุโมงค์ ซึ่งไม่แน่ว่าหลายคนอาจจะเคยเห็นภาพถ่ายในโซเชียลมาบ้างแล้ว ภาพของอุโมงค์ทรงโค้งสวยและเงาสะท้อนของช่องเขาที่เห็นได้บนผืนน้ำทำให้ภาพที่ได้ออกมาดูมหัศจรรย์ราวกับงานศิลปะเลยทีเดียว

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Kana🌙Etarnal (@kanamy_moon)

รายละเอียด
เวลาทำการ: 8:00-16:00
เว็บไซต์ (ENG): Kiyotsu Gorge

การเดินทาง
จากสถานี JR Echigo Yuzawa (Joetsu Shinkansen, Joetsu Line) ขึ้นบัสไปลงที่ป้าย Morimiyanohara ใช้เวลา 25 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 30 นาที

รถไฟ Joyful Train ที่พาเดินทางไปถึงได้: Koshino Shu*Kura สาย Yuzawa Shukura

บนรถไฟ Joyful Train ที่ชื่อว่า Koshino Shu*Kura ขบวนนี้ เพื่อนๆ จะได้ดื่มด่ำไปกับวิวระหว่างทางในขณะที่จิบสาเกของดีของจังหวัดนีงาตะไปด้วย ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่านี้แล้ว~

Shin-Etsu Trail Hike (信越トレイル; เส้นทางเดินเขาชินเอ็ทสึ) จ.นากาโนะ

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Shin_etsu Trail (@shin_etsutrail)

เส้นทางเดินป่า Shin-Etsu Trail Hike อยู่ที่บริเวณชายแดนจังหวัดนากาโนะและนีงาตะ เส้นทางทั้งหมดระยะทางยาว 80 กิโลเมตร เป็นทางคดเคี้ยวไปตามสันเขาเซกิดะที่ระดับความสูงประมาณ 1,000 เมตร นี่คือศูนย์รวมเส้นทางประวัติศาสตร์ถึง 16 สายที่พ่อค้าในอดีตเคยใช้สัญจรมานานหลายศตวรรษ และปัจจุบันก็ดึงดูดนักปีนเขาที่อยากเพลิดเพลินกับเส้นทางที่สงบและไม่พลุกพล่าน

ช่วงเวลาแนะนำสำหรับการเดินเขาที่นี่คือในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ในฤดูใบไม้ผลิเราจะได้เห็นหิมะที่หลงเหลืออยู่เป็นหย่อมๆ ท่ามกลางพืชสีเขียวขจีและดอกไม้ที่กำลังเริ่มผลิบาน ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงก็จะสามารถเพลิดเพลินกับสีสันอันสดใสของใบไม้เปลี่ยนดีได้

เส้นทางเดินเขาส่วนหนึ่งจะเปิดตั้งแต่ช่วงต้นถึงกลางเดือนพฤษภาคม ส่วนเส้นทางที่เหลือจะเปิดช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม เพื่อนๆ สามารถเลือกเดินเพียงบางส่วนของเส้นทาง สำหรับใครที่อยากจะลุยเดินเป็นระยะทางยาว ที่นี่ก็มีที่พักค้างคืนมากมายให้เลือกตามความชอบ

รายละเอียด
เว็บไซต์ (ENG): Shin-Etsu Trail Hike

การเดินทาง
จากสถานี JR Iiyama (Hokuriku Shinkansen, Iiyama Line) นั่งแท็กซี่ประมาณ 30 นาที

รถไฟ Joyful Train ที่พาเดินทางไปถึงได้: Oykot

รถไฟ Joyful Train สายชนบทนี้จะทำให้เพื่อนๆ รู้สึกอบอุ่นหัวใจเหมือนได้กลับบ้านต่างจังหวัด พร้อมกับชวนให้หวนคิดถึงอดีตพร้อมกับเยียวยาจิตใจไปในตัว รับรองว่าบรรยากาศเงียบสงบและความน่ารักคลาสสิกของรถไฟขบวนนี้จะช่วยเยียวยาหัวใจที่เหนื่อยล้าได้อย่างแน่นอน

Theme 5: ย้อนเวลาหาอดีตอันน่าจดจำ

ธีมนี้มาแปลกกว่าเพื่อนหน่อย เราจะพาทุกคนไปเที่ยวแนวย้อนยุค บรรยากาศเรโทร ย้อนเวลาไปสำรวจดูสิ่งรอบตัวที่หาไม่ได้ในยุคปัจจุบัน !

Niitsu Dagashi no Eki + Showa no Natsukashi Ya (にいつ駄菓子の駅プラス昭和のなつかし屋; นีงาตะ ดางาชิ โนะ เอกิ + โชวะ โนะ นัทสึกาชิยะ) จ.นีงาตะ

 

View this post on Instagram

 

A post shared by はるか (@harka_1122)

ยุคโชวะ หรือระหว่างปี ค.ศ. 1926 – 1989 เป็นยุคของผู้ใหญ่ไปจนถึงคนสูงวัยชาวญี่ปุ่นในปัจจุบัน ทั้งขนม ของเล่น ของใช้ต่างๆ มีหลายอย่างที่หายไปตามกาลเวลาและกลายเป็นเพียงความทรงจำให้นึกถึง แต่ Niitsu Dagashi no Eki + Showa no Natsukashi Ya แห่งนี้จะทำให้ทุกคนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง! เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในร้าน เพื่อนๆ จะรู้สึกราวกับทะลุมิติย้อนกลับไปในยุคโชวะเลยทีเดียว

แม้ว่าเราจะไม่ใช่คนญี่ปุ่น แต่พอได้เห็นข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ ในบรรยากาศที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในยุคนี้ก็อดทำให้รู้สึกนึกถึงชีวิตในวัยเด็กไม่ได้เลยจริงๆ ค่ะ ภายในร้านไม่ได้ขายของยุคโชวะอย่างเดียว แต่ยังจัดแต่งห้องต่างๆ โดยจำลองให้เหมือนกับบ้านเมืองในยุคนั้นอีกด้วย มีรายละเอียดตรงนั้นตรงนี้ให้ดูเต็มไปหมด เป็นร้านลับๆ ที่น่าแวะไปมากที่สุด

รายละเอียด
เวลาทำการ: 11:00-18:30
วันหยุด: วันที่ลงท้ายด้วยเลข 7 (กรณีตรงกับวันเสาร์อาทิตย์จะเปิดทำการ)
เว็บไซต์ (JP): Niitsu Dagashi no Eki
Facebook: Niitsu Dagashi no Eki Facebook Fanpage

การเดินทาง
จากสถานี JR Niitsu (Uetsu Main Line, Banetsu West Line, Shinetsu Main Line) เดินประมาณ 8 นาที

รถไฟ Joyful Train ที่พาเดินทางไปถึงได้: SL Banetsu Monogatari

เที่ยวแนวย้อนยุคทั้งที จะมีอะไรดีไปกว่าการนั่งรถไฟหัวรถจักรไอน้ำให้เข้ากับธีมของเรายิ่งขึ้นไปอีกว่าไหมคะ SL Banetsu Monogatari เป็นรถไฟสุดคลาสสิกที่มีชื่อเล่นว่า ‘คุณผู้หญิง’ จากรูปลักษณ์ของขบวนรถที่ดูสง่ามีระดับ ทุกวันนี้เหลือรถจักรไอน้ำที่ยังวิ่งให้บริการอยู่ไม่มากแล้ว ถ้ามีโอกาสต้องไปลองนั่งดูให้ได้สักครั้งนะคะ!

Matsumoto City (松本市; เมืองมัตสึโมโตะ) จ. นากาโนะ

มัตสึโมโตะเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการเมืองมาช้านาน ในสมัยเอโดะ พื้นที่นี้ถูกปกครองโดยคนของตระกูลโทคุงาวะ หลังการปฏิรูปเมจิในปี ค.ศ. 1868 ปราสาทมัตสึโมโตะก็ยังถูกใช้เป็นที่ทำการของทางราชการจนกระทั่งเกิดเพลิงไหม้ในปี ค.ศ. 1879 ก่อนจะได้รับการบูรณะและกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน แม้ว่าเมืองนากาโนะเป็นเมืองหลวงของจังหวัด แต่เมืองมัตสึโมโตะก็ยังคงเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาจนถึงทุกวันนี้ และเรายังมองเห็นความเป็นเมืองเก่าที่หลงเหลืออยู่ในเมืองมัตสึโมโตะได้

ปราสาทมัตสึโมโตะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวย้อนยุคที่เราจะไม่เอ่ยถึงไม่ได้เมื่อไปเยือนเมืองมัตสึโมโตะ สร้างขึ้นเมื่อราวศตวรรษที่ 16-18 ด้วยความที่มีสีดำทะมึนเกือบทั้งหลัง ทำให้ปราสาทนี้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “ปราสาทอีกา” ตัวป้อมปราการ 5 ชั้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ ซึ่งจากด้านบนปราสาทสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นได้ด้วย

นอกจากปราสาทมัตสึโมโตะแล้ว รอบๆ ก็ยังมีตรอกซอกซอยที่ชวนให้ความรู้สึกย้อนยุคมากมาย อย่างเช่น ถนนนาวาเตะ (Nawate Street) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าที่จำลองบรรยากาศสมัยเอโดะ ถนนสายนี้เป็นเส้นทางไปยังศาลเจ้าโยฮาชิระ ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1879 มีร้านขายขนมญี่ปุ่น ของเล่น เครื่องเซรามิก และของเก่าหลายร้าน

ถนนอีกสายหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ถนนนากามาจิ (Nakamachi Street) ที่โดดเด่นด้วยอาคารสีขาวแถบดำและกำแพงลายกากบาทอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นถนนสายช้อปปิ้งที่มีทั้งร้านขายสินค้างานคราฟต์สวยเก๋ไปจนถึงคาเฟ่และร้านอาหารมากมาย เพียงแค่เดินเข้าไปในถนนเส้นนี้ก็รู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่อีกยุค เป็นถนนสวยที่น่าไปเดินเล่นถ่ายรูปมากๆ เลยค่ะ

รายละเอียด
ปราสาทมัตสึโมโตะ
เวลาทำการ: 8:30-17:00 (8:00-18:00 ในช่วงเทศกาลโอบ้งและ Golden Week)
วันหยุด: 29-31 ธ.ค.
ค่าเข้า: 700 เยน
เว็บไซต์ (ENG): Matsumoto City

ถนนนาวาเตะ
วันหยุด: ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดวันพุธ
เว็บไซต์ (JP): Nawate Street

ถนนนากามาจิ
วันหยุด: ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดวันพุธ
เว็บไซต์ (ENG): Nakamachi Street

การเดินทาง
จากสถานี JR Matsumoto (Oito Line, Shinonoi Line, Chuo Main Line) เดินต่อประมาณ 15-20 นาที

รถไฟ Joyful Train ที่พาเดินทางไปถึงได้: Resort View Furusato

Furusato (ฟุรุซาโตะ) แปลว่า บ้านเกิด ในภาษาญี่ปุ่น รถไฟ Resort View Furusato เป็นรถไฟที่ปลุกความรู้สึกโหยหาอดีตและความรู้สึกของการกลับบ้านที่ชนบทเพื่อไปพักผ่อนและดึงความทรงจำดีๆ ในอดีตกลับมา หลังจากที่เหนื่อยกับการทำงานในเมืองใหญ่มาแสนนาน

Narai-juku (奈良井宿; นาราอิ จูกุ) จ. นากาโนะ

จากเมืองมัตสึโมโตะ เพื่อนๆ ยังสามารถเดินทางต่อไปยังนาราอิ จูกุ เมืองเล็กๆ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในจังหวัดนากาโนะแห่งนี้ได้

นาราอิ จูกุ เป็นเมืองโบราณที่ยังคงมีกลิ่นอายและบรรยากาศของสมัยเอโดะอย่างเข้มข้น ตัวอาคารบ้านเรือนยังเป็นแบบสมัยก่อน ประกอบกับตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาคิโซะ ทำให้ที่นี่ดูเหมือนกับหลุดออกมาจากอดีตจริงๆ ในอดีตเมืองแห่งนี้เคยเป็นเมืองทางผ่านที่พ่อค้าใช้เดินทางไปมาระหว่างเกียวโตและโตเกียว ทำให้เป็นเมืองที่คึกคักเพราะมีผู้คนผ่านไปมาค้าขายอยู่เสมอ

ปัจจุบันที่นี่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และเรียวกังอยู่มากมาย สำหรับที่เที่ยวเด่นๆ ของที่นี่ก็ได้แก่ บ้านพักนากามูระ บ้านโบราณที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเอโดะเอาไว้ได้อย่างครบครัน และสะพานคิโซะโอฮาชิ สะพานไม้ข้ามแม่น้ำนาราอิที่โดดเด่นด้วยความสวยงามที่หาตัวจับได้ยาก

รายละเอียด
เวลาทำการ: ประมาณ 9:00-17:00
เว็บไซต์ (JP): Narai-juku

การเดินทาง
จากสถานี JR Narai (Chuo Main Line) เดินเพียงไม่ไกลก็จะถึงที่หมาย

*นาราอิ จูกุ อยู่นอกเส้นทางรถไฟของ JR East แต่เพื่อนๆ ที่มีตั๋ว JR East Pass สามารถเดินทางไปได้โดยเสียค่ารถไฟเพิ่มจากสถานี JR Shiojiri (Chuo Main Line) เพียง 420 เยน ใช้เวลาเดินทาง 23 นาที

หวังว่าเพื่อนๆ จะค้นพบที่เที่ยวในดวงใจตามธีมที่ใช่ในสไตล์ของตัวเองนะคะ ไว้ไปญี่ปุ่นได้เมื่อไหร่ อย่าลืมลิสต์สองจังหวัดสุดน่ารัก นากาโนะและนีงาตะเอาไว้ในแพลนด้วยน้า

แนะนำตัวช่วย! JR EAST PASS (Nagano-Niigata Area)

สำหรับใครที่อยากลองไปเที่ยวตามธีมในบทความนี้แต่กำลังเป็นห่วงเรื่องงบการเดินทาง เรามีตัวช่วยมาเสนอ! นั่นคือ JR East Pass (Nagano-Niigata Area) ตั๋ว Pass ราคาประหยัดจาก JR East ที่ให้คุณขึ้นรถไฟในเครือ JR East ได้อย่างไม่จำกัดรอบภายในระยะเวลา 5 วันติดกัน โดยสามารถใช้ขึ้นได้ทั้งรถไฟ รถชินกันเซ็น และรถไฟ Joyful Train อย่าง HIGH RAIL 1375, Koshino Shu*Kura, Oykot หรือ Resort View Furusato อีกทั้งยังได้สิทธิพิเศษในการจองที่นั่งบนรถไฟล่วงหน้าได้นานถึง 1 เดือนด้วย! ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 18,000 เยน (ผู้ใหญ่) เท่านั้น

รายละเอียดเพิ่มเติม: JR EAST NAGANO-NIIGATA AREA
อ่านบทความ ANNGLE เกี่ยวกับ JR East Pass โฉมใหม่: ข่าวดี! ตั๋ว Pass ของ JR East ปรับใหม่ใช้ง่าย คนพำนักญี่ปุ่นก็ใช้ได้!