บนเกาะโอกินาวา (沖縄本島) ที่ล้อมด้วยทะเลสีฟ้าคือปราสาทชูริ (首里城) หัวใจของอาณาจักรริวกิว หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ทุกคนต้องเห็นในเว็บและโบชัวร์นำเที่ยวของจังหวัดโอกินาวา แต่ทำไมเราต้องไปเยี่ยมปราสาทชูริ? เราลองมาทำความรู้จักที่นี่กันค่ะ
ศูนย์กลางของอาณาจักรริวกิว
เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นอดีตพระราชวังแล้ว แน่นอนว่าที่นี่เป็นที่พระราชนิเวศน์ของกษัตริย์และราชวงศ์ของอาณาจักรริวกิว แต่นอกจากนี้ปราสาทชูริยังเป็นศูนย์กลางการปกครองและสถานที่ต้อนรับทูตจากต่างประเทศ รวมถึงเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับภาวนาให้เทพคุ้มครองอาณาจักรด้วย
ถึงจะยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าปราสาทชูริถูกสร้างขึ้นเมื่อไหร่ แต่คาดว่าจะน่ามีมาก่อนที่กษัตริย์โช ฮาชิ (尚巴志) จะรวมประเทศในปีค.ศ. 1429 แล้วค่ะ น่าเสียดายที่ตัวปราสาทถูกทำลายไปหมดในยุทธการโอกินาวา แต่ด้วยความพยายามของนักประวัติศาสตร์และหน่วยงานอื่น ๆ ของจังหวัดโอกินาวา ทำให้ปราสาทชูริถูกเรียกฟื้นกลับมาใหม่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
Check Point ของปราสาทชูริ
มาถึงปราสาทชูริทั้งที่มีที่ไหนที่ควรไปเก็บบ้าง? ในลิสต์ข้างล่างนี้เป็นเพียงตัวอย่างสถานที่สำคัญในปราสาทชูริค่ะ
ชูเรมอน (守礼門)
ซุ้มประตูที่ทุกคนต้องเดินผ่านเมื่อเข้ามาในสวนปราสาทชูริ ชื่อของซุ้มประตูนี้มีที่มาจากคำพูดที่จีนใช้บรรยายอาณาจักรริวกิวว่าเป็นอาณาจักรที่นอบน้อม (琉球は礼節を守る国である)
ในอดีตเป็นซุ้มประตูที่กษัตริย์จะเสด็จผ่านเมื่อออกนอกเขตปราสาท นอกจากนี้ ยังเป็นซุ้มประตูในประวัติศาสตร์ที่นายพลเปอร์รี่ (Matthew Calbraith Perry) เคยเดินผ่านเมื่อครั้งเข้าเฝ้ากษัตริย์ของริวกิว และเป็นซุ้มประตูเดียวกันกับที่กองทัพญี่ปุ่นเดินเข้ามาเพื่อประกาศยุบอาณาจักรริวกิวให้เหลือเพียงจังหวัดโอกินาวาด้วย อย่างไรก็ตามซุ้มประตูดั้งเดิมถูกเผาทำลายในไปสมัยสงครามค่ะ ที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้คือซุ้มประตูจำลองที่ถูกสร้างขึ้นแทนที่ค่ะ
ซุ้มประตูหินโซโนเฮียนอุตาคิ (園比屋武御嶽石門)
ถัดเข้าไปจากชูเรมอนไม่ไกลคือมรดกโลกที่อยู่ในปราสาทชูริ ใช่ค่ะ มรดกโลกในมรดกโลกอีกทีค่ะ โซโนเฮียนอุตาคิเป็นหนึ่งในอุตาคิ (御嶽) หรือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญต่อราชวงศ์แห่งอาณาจักรริวกิว เพื่อน ๆ ที่สนใจอ่านเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ
ซุยมุยอุตาคิ (首里森御嶽)
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าซุยมุยอุตาคิเป็นอุตาคิที่มีอยู่ก่อนแล้วและปราสาทชูริถูกสร้างขึ้นล้อมรอบอุตาคิแห่งนี้อีกที ทำให้ที่นี่ถูกเรียกได้อีกอย่างว่าเป็นใจกลางของปราสาทชูริ เช่นเดียวกันกับอาคารอื่นๆ ในพื้นที่ปราสาท อุตาคิที่มีอยู่นี้เคยถูกทำลายไปพร้อมกับต้นไม้ที่เคยโตในนี้ แต่มีการขุดพบเศษของรากไม้ที่เคยโตในนี้และนำไปเปรียบเทียบกับพันธุ์ไม้ที่มีอยู่บนเกาะโอกินาวาจนสามารถหาต้นไม้ชนิดเดียวกันมาปลูกในนี้ได้ค่ะ
อุนา (御庭)
อุนาคือพื้นที่ลานกว้างหน้าตัวปราสาท เดิมเป็นสถานที่สำหรับประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ และเป็นพื้นที่สำหรับเจราจาทางการค้ากับราชทูตจากจีนเป็นต้น จุดเด่นคือทางเดินสีแดงที่ตัดผ่านลานแห่งนี้ แต่ถ้าสังเกตนิดจะเห็นได้ว่าทางเดินนี้ไม่ได้ลากเป็นเส้นตรง แต่ทำองศาเอียงประมาณ 17-18 องศาได้ค่ะ อาจารย์ทาคาระ คุราโยชิ (高良倉吉) นักประวัติศาสตร์โอกินาวาได้สันนิษฐานว่าน่าจะมีเหตุผลจากการที่ซุ้มประตูนั้นถูกเคลื่อนย้ายที่ ทำให้ทางเดินต้องถูกปรับให้เอียงตามไปด้วยค่ะ
อาคารเซเด็น (正殿)
อาคารเซเด็นสีแดงชาดโดดเด่นตัดกับท้องฟ้าสีครามคือภาพของปราสาทชูริที่ทุกคนต้องถ่ายรูปกลับมาเชยชมให้ได้สักรูปค่ะ และถ้าจะมีที่ที่เราจะเห็นการผสมผสานของสถาปัตยกรรมจีนและญี่ปุ่นแล้ว ก็คงเป็นที่นี่เลยค่ะ ด้วยการก่อหินแบบอิชิทาตามิและรูปทรงหน้าจั่วของญี่ปุ่น ประกอบกับสีแดงแสดงถึงความมงคลและมังกรที่ประดับอยู่ตามเสาและหลังคาแบบจีน ทำให้เกิดเป็นสถาปัตยกรรมแบบริวกิวขึ้นมา
ปล. มังกรที่ประดับอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของปราสาทมีทั้งหมด 33 ตัวค่ะ เพื่อน ๆ จะหาได้ครบไหมนะ?
ปริศนาของปราสาทชูริ
แม้จะมีปราสาทชูริให้เราเดินชมได้อย่างเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เห็น แต่การบูรณะปราสาทยังไม่เสร็จสมบูรณ์ค่ะ โดยโครงการบูรณะปราสาทชูริเป็นโครงการที่ดำเนินมากว่า 30 ปีแล้วและปัจจุบันก็ยังคงมีบางส่วนของปราสาทที่ยังไม่สามารถหาข้อมูลมาใช้เพื่อบูรณะได้อยู่ ได้แก่ อูจิบาระ (御内原) พระราชฐานชั้นในที่เป็นพื้นที่ส่วนพระองค์ของกษัตริย์และราชวงศ์ และยูอินจิ (寄満) ห้องเครื่องสำหรับประกอบอาหาร ซึ่งน่าสนใจว่าที่เซฟาอุตาคิ (斎場御嶽) เองก็มีสถานที่ประกอบพิธีที่มีชื่อเดียวกันคือยูอินจิอยู่ ปัจจุบันนักวิชาการก็ยังคงตามหาชุดข้อมูลที่จะนำมาใช้อ้างอิงเพื่อบูรณะสองพื้นที่ดังกล่าวอยู่ค่ะ
อุทยานการเรียนรู้อาณาจักรริวกิว
หลังจากที่ปราสาทชูริดั้งเดิมถูกเผาทำลายจนเหลือพื้นที่ว่างเปล่า พื้นที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยริวกิว (琉球大学) อยู่ระยะหนึ่งก่อนที่มหาลัยจะย้ายออกไปเพื่อเปิดทางให้กับการบูรณะปราสาทชูริ โดยความตั้งใจในการบูรณะปราสาทชูรินั้นไม่ได้เป็นไปแค่เพื่อเรียกขวัญกำลังใจของผู้คนบนเกาะโอกินาวาที่ผ่านสงครามมาเท่านั้น แต่เพื่อเป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้มาเรียนรู้และได้เห็นเค้าลางของอาณาจักรริวกิวในอดีตค่ะ ทำให้ปราสาทชูริไม่ได้มีคุณค่าแค่ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นอุทยานการเรียนรู้วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอาณาจักรริวกิวและโอกินาวาที่นับวันจะหายไปตามกาลเวลาอีกด้วย ทำให้แม้แต่ในปัจจุบัน ปราสาทชูริก็ยังคงเป็นหัวใจของอาณาจักรริวกิวและจังหวัดโอกินาวาอยู่ค่ะ
เพื่อนๆ ที่สนใจไปเยี่ยมปราสาทชูริและสงสัยว่าที่นี่มีกิจกรรมอะไรบ้าง สามารถเข้าไปอ่านคอลัมน์แนะนำกิจกรรมที่ปราสาทชูริได้ที่นี่ และหวังว่าในอนาคตอันใกล้เราจะได้ไปเยี่ยมปราสาทชูริที่เสร็จสมบูรณ์กันนะคะ
ข้อมูลทั่วไป
เวลาทำการ:
เฉพาะบริเวณอาคารเซเด็น (正殿) ปราสาทชูริที่ต้องซื้อตั๋วเข้า
(เดือนเมษายน-มิถุนายน/ตุลาคม-พฤศจิกายน) 08.30 – 19.00 น.
(เดือนกรกฎาคม-กันยายน) 08.30 – 20.00 น.
(เดือนธันวาคม-มีนาคม) 08.30 – 18.00 น.
ส่วนบริเวณอื่นสามารถเข้าชมได้ตลอดค่ะ
วันหยุดทำการ: ไม่มีวันหยุด
โทรศัพท์: 098-886-2020
การเดินทาง:
(รถราง Yui Rail) ลงที่สถานีชูริ (首里駅) หรือสถานีกิโบะ (儀保駅) แล้วเดินมาได้ค่ะ
ค่าเข้า:
เฉพาะบริเวณปราสาทเท่านั้นที่ต้องเสียค่าเข้า 820 เยน
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้ค่ะ
JTBパブリッシング(2017)「首里城」『ニッポンを解剖する!沖縄図鑑』,pp.50-55
高良倉吉(2013)「首里城」『沖縄の世界遺産』,pp.24-47