ช่องว่างระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นกับวัฒนธรรมต่างประเทศนั้นได้รับความสนใจมาอย่างยาวนาน จนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามซึ่งดึงดูดให้ผู้คนมักไปเยือนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกที่อยู่อันดับต้น ๆ ของโลก นอกจากนี้ ประเทศญี่ปุ่นเองก็ยังมีความมหัศจรรย์อีกมากมายให้เราได้ค้นหาไม่จบสิ้น ในครั้งนี้เราจะมาดูกันว่าแดนอาทิตย์อุทัยนั้น มีเมืองที่มีหิมะมากที่สุดติดอันดับ TOP 3 ของโลกถึงสามแห่งจริงหรือไม่!?
เมื่อกล่าวถึงเมืองโทยามะ เมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองหิมะ TOP 3 ในเมืองโทยามะมีแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า “แม่น้ำอิทาจิ” ไหลผ่าน นักเขียนนวนิยาย คุณเทระ มิยาโมโตะ ได้ใช้แม่น้ำสายนี้เขียนลงในผลงานที่ชื่อว่า “โฮตารุคาวะ (แปลเป็นไทยว่า แม่น้ำหิ่งห้อย)” ซึ่งอาจจะมีหลายคนที่เคยได้อ่านแล้ว ในเนื้อหาของนวนิยายได้กล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับกลางฤดูร้อนที่มีกลิ่นไอของหิมะซุ้มซ่อนอยู่ในแสงแดดและอากาศรอบของเมืองโทยามะ
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองหิมะ แม้ว่าจะมีแสงแดดของฤดูร้อนสาดส่อง แต่ก็ยังรู้สึกได้ของกลิ่นไอหิมะท่ามกลางความร้อนของฤดู แล้วทุกคนทราบหรือไม่ว่าเมืองหิมะ อย่างเช่น ฮอนชูที่อยู่ฝั่งทะเลญี่ปุ่นโทโฮคุหรือฮอกไกโด รวมไปถึงโทยามะที่เป็นแบบเดียวกันนี้ ถูกกล่าวขานว่าเป็นพื้นที่ที่มีหิมะมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากลองนึกภาพตามว่ามีผู้คนมากมายอาศัยอยู่ในเมืองหิมะมากขนาดนี้จนเป็นอันดับ 3 ของโลก ก็รู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน
เมืองอาโอโมริ เมืองซับโปโร และเมืองโทยามะ เป็นเมือง TOP 3 ที่มีหิมะมากเป็นอันดับต้น ๆ !?
จากข้อมูลของ AccuWeather สื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ที่ออกอากาศข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศทั่วโลก ได้ทำการเปรียบเทียบปริมาณหิมะตลอดทั้งปีของเมืองที่มีประชากรอาศัยตั้งแต่ 1 แสนคนขึ้นไป และญี่ปุ่นก็มีเมืองที่ติดอันดับ TOP 10 อยู่ถึง 4 เมืองด้วยกัน นั่นคือเมืองอาคิตะในอันดับที่ 7 เมืองโทยามะที่กล่าวถึงข้างต้นอยู่อันดับ 3 เมืองซัปโปโรสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเป็นอันดับ 2 และเมืองอาโอโมริก็ได้ครองอันดับ 1 ไป
และจากข้อมูลจากหนังสือ “THE VISUAL ENCYCLOPEDIN OF “IT CAN’T BE TRUE” (TOKYO BOOK) ได้เขียนไว้ว่า ความสูงของปริมาณหิมะที่ตกเฉลี่ยต่อปีในนิวยอร์กซิตี้ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ 68 ซม. ส่วนการสำรวจของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น เมืองอาโอโมริที่ครองเป็นอันดับ 1 นั้น ถูกระบุไว้ว่า มีปริมาณหิมะที่ตกเฉลี่ยต่อปีระหว่างปีค.ศ. 1981-2010 อยู่ที่ 669 ซม. (6.69 ม.) และนั่นทำให้เราได้เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
บางพื้นที่ในญี่ปุ่น ใน 1 ฤดูกาล มีหิมะตกเกือบ 17 เมตร !!
แม้แต่ NATIONAL GEOGRAPHIC ฉบับญี่ปุ่นเองก็ยังมีการนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่ามันน่าแปลกมากที่มีผู้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีหิมะตกหนักขนาดนี้ และได้มีการแสดงความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญว่า “พื้นที่ที่มีประชากรเยอะเช่นนี้ แถมยังมีปริมาณหิมะตกมากขนาดนี้ บนโลกใบนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก” (อ้างอิงจาก NATIONAL GEOGRAPHIC ฉบับญี่ปุ่น)
เมื่อลองมองในพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่น้อย จะพบว่าหิมะจะยิ่งทับถมสูงขึ้นมาก และหากนำข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นมาดูจะเห็นว่าเมืองที่มีค่าเฉลี่ยความลึกของกองหิมะที่ค่อนข้างสูง ได้แก่ สุกะยุ จังหวัดอาโอโมริ สูง 17.28 เมตร ฮิจิโอริ จังหวัดยามากาตะ สูง 16.17 เมตร โออิซาวะ จังหวัดยามากาตะ สูง 13.99 เมตร สุมง จังหวัดนีงาตะ สูง 13.62 เมตร และทซึนัน จังหวัดนีงาตะ สูง 13.58 เมตร
จะเห็นได้ว่าแต่ละพื้นที่มีความลึกของหิมะค่อนข้างมากเกือบทั้งหมดนั้นอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ ส่วนสุกะยุ จังหวัดอาโอโมริ ที่เป็นอันดับ 1 นั้นตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติโทวะดะ ฮาจิเมนไท ซึ่งเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อน นอกจากนี้ โดยค่าเฉลี่ยของหิมะที่ตกลงมานี้ได้ระบุว่าไม่ใช่ค่าเฉลี่ยทั้งปี แต่เป็นเพียงแค่หนึ่งฤดูในฤดูหนาวเท่านั้น
ในโลกนี้มีพื้นที่ที่หิมะทับถมลึกถึง 30 เมตรด้วย!!
ถ้าหากจะกล่าวถึงความลึกของหิมะแล้ว ก็ต้องพูดถึง ภูเขาเบเกอร์ (Mount Baker) ที่อยู่ในรัฐวอชิงตัน ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นที่รู้จักกันในนามว่าเป็นสถานที่ที่มีหิมะมากที่สุดในโลก โดยบันทึกความลึกของหิมะได้ถึง 29.86 เมตร ระหว่างปีค.ศ. 1998-1999
ภูเขาเบเกอร์ ตั้งอยู่ในรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ใกล้กับซีเอทเทิล และเป็นพื้นที่ที่มีความสูงระดับน้ำทะเล 3,285 เมตร เหนือพรมแดนประเทศแคนาดา เว็บไซต์ areavibes ระบุว่าที่นั่นมีประชากรอาศัยอยู่เพียง 7,866 คน สภาพแวดล้อมโดยรอบแตกต่างจากเมืองต่าง ๆ เช่น เมืองอาโอโมริ เมืองซัปโปโร และเมืองโทยามะ และยังเป็นพื้นที่ที่มีหิมะมากจนน่าตกใจ
ได้ฟังเรื่องราวของเมืองหิมะของญี่ปุ่นที่เป็น TOP 3 ของโลกแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง ?
โดยปกติแล้ว ผู้คนมักจะย้ายไปอยู่เมืองที่มีหิมะตกน้อย ๆ หรือในที่อบอุ่น แต่ในทางกลับกันก็มีคนญี่ปุ่นไม่น้อยที่พยายามจะใช้ชีวิตท่ามกลางความหนาวเหน็บของหิมะเพื่อสร้างการใช้ชีวิตให้คุ้นชิน ทั้งนี้คนที่อาศัยอยู่นั่นก็เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมที่จะต่อสู้กับความยากลำบากของหิมะไปพร้อม ๆ กันด้วย ไม่แปลกเลยที่คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของธรรมชาตินั้นจะค่อนข้างมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าคนที่อาศัยในที่พื้นที่ที่ไม่ค่อยได้ประสบกับภัยธรรมชาติสักเท่าไหร่ เพราะพวกเขาต้องฝ่าฝันอุปสรรคในการชีวิตท่ามกลางธรรมชาติที่ไม่ยอมปราณีให้พวกเขาอยู่เสมอนั่นเอง!
อ้างอิงเนื้อหาจาก tabizine
ผู้เขียน: KOKATETA
