ในประเทศญี่ปุ่นมีจุดชมวิวมากมายที่เต็มไปด้วยสีสันและมีทัศนียภาพอันงดงามเหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนในฤดูกาลต่างๆ ในวันนี้เราจะมาแนะนำจุดชมวิวที่เต็มไปด้วยสีสันหลักๆ คือสีแดง ส้ม เหลือง เขียว น้ำเงิน ม่วง ชมพู และขาวในประเทศญี่ปุ่น ที่เพื่อนๆ จะต้องประทับใจและอยากไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิตแน่นอน
จุดชมวิวสีแดง : ดอกอาซาเลียที่สวนสาธารณะคาซามะ ซึซึจิ
มาเริ่มกันที่จุดแรกเราจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักก็คือจุดชมวิวสีแดงที่ สวนคาซามะ ซึซึจิ (Kasama Tsutsuji Park, 笠間つつじ公園) สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดอิบารากิ โดยสวนสาธารณะคาซามะ ซึซึจิ เป็นจุดท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบสำหรับการชมทิวทัศน์อันตระการตาของสีแดง อีกทั้งยังมีเทศกาลดอกอาซาเลียที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยมีผู้คนมากมายมารวมตัวกันจากทั่วประเทศ เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขาจึงสามารถเห็นทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมของดอกอาซาเลียสีแดงที่แผ่ขยายออกไปด้านล่างได้
เสน่ห์ของสวนคาซามะ ซึซึจิ คือที่สวนแห่งนี้มีดอกอาซาเลียจำนวนมากถึง 8,500 ต้นจาก 25 สายพันธุ์ที่กำลังบานสะพรั่งกระจายไปทั่วพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปความสวยงามของดอกอาซาเลียในแต่ละเฉดสีได้ที่นี่ ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปชมคือช่วงออกดอกตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม
ที่ตั้ง : 616-7 Kazama, Kazama City, Ibaraki
เวลาทำการ : 8.00 น. ถึง 18.00 น.
จุดชมวิวสีส้ม : พระอาทิตย์ตกดินที่ทะเลสาบชินจิ
ที่ต่อไปที่จะแนะนำคือจุดชมวิวสีส้มอันสวยงามของพระอาทิตย์ตกดินที่ ทะเลสาบชินจิ (Shinji Lake, 宍道湖) โดยทะเลสาบชินจิตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดชิมาเนะ ทะเลสาบชินจิมีชื่อเสียงในฐานะจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 พระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อเพื่อนๆ เดินทางมาที่นี่จะสามารถชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งได้รอบด้าน หากมองจากทิศตะวันออกจะได้พบกับวิวทิวทัศน์อันแสนโรแมนติก
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ดีที่สุดของที่นี่เรียกว่าโทรุบะ (とるば) โดยจะมีระเบียงและทางเดินบนชายฝั่งของทะเลสาบ เมื่อถึงยามพลบค่ำจะได้เห็นภาพเงาที่สวยงามของเกาะโยเมะกะพร้อมกับพระอาทิตย์ตกดินจากที่ที่ดีที่สุด โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเมื่ออากาศแจ่มใสเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชมพระอาทิตย์ ทิวทัศน์อันตระการตาของสีส้มที่เกิดจากพระอาทิตย์ตกดินจะทำให้เหล่าผู้ที่ได้ชมประทับใจไม่รู้ลืมไปตลอดชีวิต อีกทั้งกล่าวกันว่าสีส้มนั้นมีผลในการช่วยบรรเทาความเครียดและทำให้รู้สึกคิดบวกได้มากขึ้น หากวันไหนรู้สึกเครียดลองไปเที่ยวชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ดูนะ มันจะทำให้เพื่อนๆ รู้สึกผ่อนคลายและได้รับพลังบวกมากขึ้นอย่างแน่นอน
ที่ตั้ง : 5 Sodeshicho, Matsue City, Shimane
เวลาทำการ : เปิดทำการ 24 ชั่วโมง
จุดชมวิวสีเหลือง : สวนอนุสรณ์โชวะ
มาต่อกันที่จุดชมวิวสีเหลืองที่ สวนอนุสรณ์โชวะ (Showa Commemorative National Government Park, 昭和記念公園) ในจังหวัดโตเกียว ที่นี่เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติชั้นนำของญี่ปุ่น ที่สวนแห่งนี้มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทิวทัศน์สีเหลืองอันตระการตาของต้นแปะก๊วยในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเพื่อนๆ เดินทางไปเยื่ยมชมก็จะได้พบกับถนนที่เรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยตลอดสองข้างทางที่เรียกว่า “อุโมงค์สีทอง” มีผู้คนมากมายเดินทางมาเยี่ยมชมทุกปีและนอกจากนี้ยังมีการประดับไฟในเวลากลางคืน นับเป็นภาพบรรยากาศที่มีความสวยงามและมีความโรแมนติกเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับคู่รักที่อยากจะเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง
ที่ตั้ง : 3173 Midoricho, Tachikawa City ,Tokyo
เวลาทำการ :
วันที่ 1 มีนาคม ถึง 31 ตุลาคม เวลา 09.30-17.00 น.
วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เวลา 9:30-16:30 น.
วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ช่วงวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน จะเปิดเวลา 9:30 น. ถึง 18:00 น.
จุดชมวิวสีเขียว : เทือกเขาชิราคามิซันจิ
ต่อไปจะเป็นจุดชมวิวสีเขียวที่ เทือกเขาชิราคามิซันจิ (Shirakami-Sanchi, 白神山地) โดยเป็นพื้นที่ภูเขาอันกว้างใหญ่แผ่กระจายไปทั่วส่วนตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดอาโอโมริและทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดอาคิตะ เป็นป่าดิบชื้นของต้นบีชที่แผ่กระจายไปทั่วประมาณ 13 เฮกตาร์ และเป็นหนึ่งในป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยในป่าแห่งนี้ยังมีสัตว์และพืชหลากหลายชนิดรวมไปถึงเลียงผาญี่ปุ่น ระบบนิเวศของป่าแห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้มีสภาพที่สวยงามเหมือนดั่งเช่นในสมัยโบราณ อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกของญี่ปุ่นในปีพ.ศ. 2536 อีกด้วย
นอกจากนี้ที่เทือกเขาชิราคามิซันจิยังมี trekking course ที่แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถเข้าร่วมได้เพื่อเพลิดเพลินกับการเดินป่าพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศกลางแจ้งที่ยอดเยี่ยมอย่างใกล้ชิด ดังนั้นหากเพื่อนๆ สนใจในความอุดมสมบูรณ์และความงดงามของธรรมชาติ ก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งที่จะมาเยี่ยมชมที่นี่
ที่ตั้ง : 61-1 Kanda, Tashiro, Nishimeya-mura, Nakatsugarukun, Aomori (Tourist Center)
จุดชมวิวสีฟ้า : ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค
มาต่อกันที่จุดชมวิวสีฟ้าใน ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park, 国営ひたち海浜公園) ตั้งอยู่ในจังหวัดจังหวัดอิบารากิ โดยจุดเด่นของที่นี่คือทิวทัศน์อันตระการตาของดอกเนโมฟีลาที่เปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมดบนเนินเขาให้กลายเป็นสีฟ้าสดใส ถือเป็นจุดชมวิวอันยอดเยี่ยมที่เพื่อนๆ สามารถชมความงดงามได้ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี
สวนดอกเนโมฟีลาตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ถูกเรียกว่า “มิฮาราชิ โนะ โอกะ” (みはらしの丘) ที่มีทิวทัศน์ของท้องฟ้าสีครามราวกับน้ำทะเลตัดกับเนินเขาดอกเนโมฟีลาผสมรวมกันเป็นทิวทัศน์ที่มีความสวยงามและมีให้ชมที่นี่ที่เดียวเท่านั้น สามารถเดินทางด้วยรถยนต์จากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมงแบบไปเช้าเย็นกลับ ดังนั้นถ้ามีโอกาสอย่าลืมไปเยี่ยมชมความสวยงามของดอกเนโมฟีลากันนะ
ที่ตั้ง : 605-4 Mawatari Onuma, Hitachinaka City, Ibaraki
เวลาทำการ :
วันที่ 1 มีนาคม ถึง 20 กรกฎาคม เวลา 09.30-17.00 น.
21 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม เวลา 9:30 – 18:00 น.
1 กันยายน – 31 ตุลาคม เวลา 9:30 – 17:00 น.
วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เวลา 9:30-16:30 น.
จุดชมวิวสีม่วง : คาวาจิ ฟูจิ วิสทีเรีย การ์เด้น
และต่อไปขอแนะนำจุดชมวิวสีม่วงที่ คาวาจิ ฟูจิ วิสทีเรีย การ์เด้น (Kawachi Wisteria Garden, 河内藤園) ตั้งอยู่ในเมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ ที่นี่มีอุโมงค์ดอกวิสทีเรียยาวกว่า 200 เมตร ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 9,000 ตารางเมตร นับเป็นอุโมงค์ดอกไม้ระดับท็อปคลาสที่น่าภาคภูมิใจแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น หลังจากที่นักท่องเที่ยวต่างชาติโพสต์ภาพลงบน SNS ก็เรียกเสียงฮือฮาจนกลายเป็นจุดชมวิวสีม่วงที่มีชื่อเสียง
ไฮไลท์สำคัญที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คืออุโมงค์ดอกวิสทีเรีย ที่มีความโดดเด่นอย่างมากจนทำให้รู้สึกราวกับถูกห่อหุ้มอยู่ในโลกแห่งสีม่วง หากเพื่อนๆ ต้องการต้องการหลีกเลี่ยงคนเยอะๆ ขอแนะนำให้มาเยี่ยมชมหลังจากสวนเปิดเพราะจะเดินชมได้ง่ายและถ่ายรูปได้สะดวกกว่า
ที่ตั้ง : 2-2-48 Kawachi, Yahata District, Higashi, Kitakyushu City ,Fukuoka
เวลาทำการ : เวลา 8.00 น. ถึง 18.00 น.
จุดชมวิวสีชมพู : สวนฮิงาชิโมโคโตะชิบะซากุระ
มาต่อกันที่ สวนฮิงาชิโมโคโตะชิบะซากุระ (Higashimokoto Shibazakura Park, ひがしもこと芝桜公園) ในเมืองอาบาชิริ จังหวัดฮอกไกโด นับเป็นหนึ่งในจุดที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นสำหรับการชมต้นชิบะซากุระ โดยเพื่อนๆสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของต้นชิบะซากุระสีชมพูบานสะพรั่งบนพื้นที่กว้างใหญ่ ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้ชมคือช่วงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดยภาพของต้นชิบะซากุระสีชมพูที่บานสะพรั่งทอดยาวไปทั่วเนินเล็กๆราวกับพรมสีชมพูนั้นนับเป็นทัศนียภาพที่งดงามสมชื่อจริงๆ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีพื้นที่สำหรับตั้งแคมป์พร้อมบังกะโลสำหรับพักค้างคืนและโกคาร์ท บ่อตกปลาและออนเซ็น จึงเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการมาเที่ยวกันพร้อมทั้งครอบครัว
ที่ตั้ง : 393 Higashimokoto Suehiro Ozo, Abashiri Ward, Hokkaido
เวลาทำการ : 8.00 น. ถึง 17.00 น.
จุดชมวิวสีขาว : snow monster ของเขาซาโอะ
และก็เดินทางมาถึงจุดชมวิวสุดท้าย นั่นก็คือจุดชมวิวสีขาว snow monster ของเขาซาโอะ (Zao, 蔵王の樹氷) โดยที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ที่งดงามของสีขาวที่สามารถมองเห็นได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น โดยหนึ่งในนั้นคือ snow monster ที่เป็นหิมะปกคลุมต้นสนดูคล้ายกับปีศาจ นับเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ เพราะต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างทั้งอุณหภูมิ อากาศ จุดเยือกแข็ง ฯลฯ โดยเพื่อนๆ จะได้เห็นต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ไกลสุดลูกหูลูกตาราวกับทิวทัศน์แห่งความฝัน
ข้อดีของการมาเยี่ยมชมที่นี่คือสามารถใช้กระเช้าลอยฟ้าได้ สำหรับใครที่ชื่นชอบชอบกีฬาฤดูหนาว สิ่งที่อยากแนะนำและไม่ควรพลาดเลยก็คือการเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดพร้อมชมต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการจัดเทศกาลฤดูหนาวที่สำคัญมีผู้คนจำนวนมากมาเยี่ยมชมทุกปี โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการประดับไฟในตอนกลางคืนและดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพสุดอัศจรรย์ที่ต่างไปจากกลางวัน
ที่ตั้ง : Zao Onsen, Yamagata City Yamagata
ในบทความนี้เราก็ได้แนะนำจุดชมวิวทั้ง 8 สีมีความสวยงามในประเทศญี่ปุ่นกันไปแล้ว แน่นอนว่านี่เป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้น ยังมีจุดชมวิวสวยๆ จุดอื่นในญี่ปุ่นอีกมากมายหลากหลายที่รอให้ทุกคนได้ออกไปสัมผัส ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมไปเยี่ยมชมจุดชมวิวเหล่านี้กันนะ แน่นอนว่าทุกคนจะได้ทั้งประสบการณ์ที่ดีและความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน
สรุปเนื้อหาจาก nta.co.jp
ผู้เขียน KANZEN