ในหนึ่งวันอาหารเช้าเป็นอาหารมื้อสำคัญที่สุดเพื่อสุขภาพ มารู้กันนะคะว่าทำไมอาหารเช้าจึงเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดในชีวิตประจำวัน และมีอาหารอะไรบ้างที่คนญี่ปุ่นแนะนำให้รับประทานในตอนเช้า
ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า
เติมเต็มพลังงานและเพิ่มอุณหภูมิของร่างกาย
อาหารเช้าจะช่วยเติมเต็มพลังงานที่ถูกใช้ไปในช่วงกลางคืนและช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้แก่ร่างกาย ช่วยส่งเสริมการทำงานที่ดีของภูมิคุ้มกันของร่างกาย คนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำจะไม่ค่อยป่วยเป็นไข้หวัด
เสริมสร้างพลังงานสมองและการมีสมาธิ
การตื่นแต่เช้าเพื่อรับแสงแดดและรับประทานอาหารเช้าเป็นสุขลักษณะนิสัยที่ดีในการปรับและตั้งนาฬิกาทางชีววิทยาของสมอง และส่งผลในการกระตุ้นจังหวะที่ถูกต้องของชีวิต การรับประทานอาหารเช้านอกจากจะช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่สมองแล้วก็ยังทำให้ความคิดแล่นไวและมีสมาธิในการเรียนหรือทำงาน ในทางตรงข้าม การไม่รับประทานอาหารเช้าจะทำให้ไม่มีสมาธิและหงุดหงิดง่าย
อาหาร 9 อย่างที่คนญี่ปุ่นแนะนำให้รับประทานเป็นอาหารเช้า
1. ไข่
ไข่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดีที่ย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี อีกทั้งไข่ยังอุดมไปด้วยไขมันที่ช่วยในการสร้างเซลล์เมมเบรนและเยื่อประสาท นอกจากนี้ไข่ยังจัดเป็นอาหารที่ดีต่อความงามด้วย
2. ถั่วต่าง ๆ
ถั่วต่าง ๆ อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งเป็นไขมันที่ดีสำหรับการลดน้ำหนัก ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและช่วยเพิ่มการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี ทั้งนี้ถั่วต่าง ๆ ยังมีประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันในร่างกายและป้องกันความดันโลหิตสูงได้ด้วย
3. โฮลวีท ข้าวกล้อง และข้าวโอ๊ต
โฮลวีทและข้าวกล้องอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ซึ่งจะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารมีสุขภาพดีและช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้ด้วย นอกจากโฮลวีทและข้าวกล้องแล้ว ข้าวโอ๊ตก็จัดเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพด้วย
4. ผักโขมญี่ปุ่น
ผักโขมญี่ปุ่นอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินซี และวิตามินบี 1 ซึ่งธาตุเหล็กจะช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางในผู้หญิงและวิตามินบี 1 นั้นเป็นสารอาหารสำคัญเพื่อบำรุงสมอง
5. กล้วย
กล้วยเป็นอาหารเช้าที่ดีเนื่องจากไม่เพิ่มปริมาณน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำตาล อีกทั้งกล้วยยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและโพแทสเซียมซึ่งช่วยลดอาการบวมน้ำของร่างกาย นอกจากนี้กล้วยยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาทเซโรโทนิน ช่วยไม่ให้รู้สึกหงุดหงิดและเครียดง่าย
6. อะโวคาโด้
อะโวคาโด้อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินอี กรดโฟลิก และโพแทสเซียม ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดการบวมน้ำของร่างกายและช่วยในการเผาผลาญไขมัน อย่างไรก็ตามอะโวคาโด้ 1 ผลนั้นมีพลังงานสูงถึง 250 กิโลแคลอรี่ ดังนั้นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับรับประทานใน 1 วันเพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพจึงไม่ควรเกินครึ่งลูก
7. แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ช่วยให้ลำไส้มีสุขภาพดี จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหารและผู้ที่กำลังลดน้ำหนักเนื่องจากแอปเปิ้ล 1 ผลให้พลังงานเพียง 140 กิโลแคลอรี ทั้งนี้น้ำตาลฟรุกโตสและกลูโคสในแอปเปิ้ลจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แอปเปิ้ลจึงเป็นอาหารเช้าที่ดีที่สุดในกรณีที่ต้องใช้สมองในการทำงานหรือการสอบ
8. โยเกิร์ต
โยเกิร์ตจะช่วยปรับสภาพแวดล้อมที่ดีในลำไส้ ช่วยลดอาการท้องผูก และดีต่อความงาม
9. ปลา
ปลาต่าง ๆ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาซาบะ และปลาทูน่า เป็นต้น เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีในการสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ปลายังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนทริปโตเฟนซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดความเครียด เป็นต้น
ผู้เขียนเชื่อในความสำคัญของอาหารเช้าและมักจะจัดอาหารที่แตกต่างและหลากหลายให้สมาชิกในครอบครัวรับประทาน ในวันที่ยุ่งมาก ข้าวกล้องและเมนูไข่ก็เพียงพอที่จะให้สมาชิกในบ้านอิ่มท้องและมีสมาธิในการเรียนหนังสือและทำงานค่ะ
อ้างอิงข้อมูลจาก gourmet-note.jp