หากเป็นคนไทยลูกหลานมักจะห้ามไม่ให้ปู่ย่าตายายเดินทางไปไหนตามลำพัง แต่คนสูงอายุญี่ปุ่นจำนวนมากในโตเกียวนั้นเดินทางไปไหนมาไหนตามลำพังและโดยมากมักจะใช้บริการรถบัสประจำทาง เรามาดูเหตุผลกันค่ะว่าทำไมผู้สูงอายุในโตเกียวจึงเลือกใช้บริการรถบัสขนส่งมวลชน
มีความปลอดภัยที่สูง
รสบัสส่วนใหญ่ที่ให้บริการในโตเกียวเป็น Non-step bus หรือบัสที่ไม่มีขั้นบันได ทำให้มีความปลอดภัยต่อผู้สูงอายุที่ขาไม่ค่อยดีไม่ให้ก้าวพลาดตกขั้นบันได อีกทั้งยังสามารถปรับระดับทางขึ้นให้เทียบระดับฟุตบาทของป้ายรถบัสสำหรับคนสูงอายุหรือคนพิการที่ต้องเดินทางโดยรถเข็น ทั้งนี้ความเร็วของรถบัสก็ไม่สูงมากจนมั่นใจว่าถึงที่หมายโดยปลอดภัย นอกจากนี้พนักงานขับรถบัสมักจะมองดูจนมั่นใจว่าผู้โดยสารขึ้นลงโดยปลอดภัยก่อนออกรถ
มีที่นั่งสำหรับคนสูงอายุที่เพียงพอ
โดยทั่วไปด้านหน้าของรถบัสมักจะที่นั่งสำรองไว้สำหรับคนสูงอายุ และมีที่ว่างระหว่างเก้าอี้ที่กว้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุที่ต้องพกพาตัวช่วยในการเดิน
ตรงเวลา
รถบัสในญี่ปุ่นมักจะตรงเวลาทำให้ถึงที่หมายตรงตามเวลานัดหมาย แม้ว่ารถจะมาถึงป้ายก่อนเวลา พนักงานขับรถก็จะรอให้ถึงเวลาก่อนจึงจะขับรถออกไป
ผ่านสถานที่สำคัญต่าง ๆ
โดยทั่วไปโรงพยาบาลและสถานที่ติดต่อราชการสำคัญรวมถึงธนาคารมักอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ทำให้ผู้สูงอายุสามารถเดินทางไปถึงได้ง่ายโดยรถบัส ทั้งนี้ด้วยความที่มีสายรถบัสมากมายทำให้สามารถเปลี่ยนรสบัสเพื่อไปถึงที่หมายได้อย่างง่ายดาย
ค่าโดยสารรถบัสสำหรับผู้สูงอายุราคาถูกกว่าคนวัยทำงาน และถูกกว่าการเดินทางโดยรถไฟ
โดยทั่วไปค่าบริการรถบัสตลอดสายในโตเกียวจะอยู่ที่ราคา 210 เยนสำหรับคนทำงานปกติ สำหรับเด็กอยู่ที่ราคา 110 เยน ส่วนผู้สูงอายุที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปจะได้รับสิทธิในการซื้อบัตรโดยสารประจำปีที่ถูกกว่าคนวัยทำงาน โดยมีราคาแยกเป็น 2 แบบคือ (1) สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปและมีรายรับประจำปีของปีก่อนหน้าสูงกว่า 1,250,000 เยน จะสามารถซื้อบัตรโดยสารประจำปีได้ในราคา 20,510 เยน หรือประมาณ 5,800 บาท และ (2) สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป และมีรายรับประจำปีของปีก่อนหน้าต่ำกว่า 1,250,000 เยนะสามารถซื้อบัตรโดยสารประจำปีได้ในราคา 1,000 เยน หรือประมาณ 280 บาท โดยบัตรโดยสารประจำปีนี้ไม่จำกัดเที่ยวรถบัสและสามารถใช้เดินทางโดยรสบัสโดยสารประจำทางทุกสายในโตเกียว
ใช่ว่าผู้สูงอายุไทยจะไม่อยากไปไหนมาไหนตามลำพัง เพียงแต่ระบบขนส่งมวลชนของบ้านเราไม่ค่อยมีความปลอดภัยต่อผู้สูงอายุเท่าที่ควร หากมีระบบขนส่งมวลชนที่ปลอดภัย ผู้เขียนคิดว่าคงเห็นผู้สูงอายุมีความสุขกับการได้ไปไหนมาไหนตามลำพังมากขึ้น นอกจากผู้สูงอายุแล้ว การมีระบบขนส่งที่ปลอดภัยและตรงเวลายังจะช่วยให้คนวัยทำงานหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนกันมากขึ้น นำไปสู่การลดการใช้รถยนต์ซึ่งเป็นที่มาของภาวะมลพิษทางอากาศด้วยค่ะ