น้ำยาล้างจานเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งคนญี่ปุ่นจำนวนมากกังวลเกี่ยวกับสารเคมีในน้ำยาล้างจานที่อาจตกค้างอยู่บนจาน ทำให้มีการคิดผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานจากสารลดแรงตึงผิวที่ได้จากธรรมชาติขึ้นมา หนึ่งในวัตถุดิบที่ให้สารลดแรงตึงผิวสำหรับใช้ในน้ำยาล้างจานคือน้ำมันมะพร้าว มารู้จักวิธีการนำน้ำมันมะพร้าวมาใช้เป็นน้ำยาล้างจานและผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกันนะคะ
การใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นวัตถุตั้งต้นในการผลิตสารลดแรงตึงผิว
การผลิตสารลดแรงตึงผิวจากน้ำมันมะพร้าวนั้นทำได้โดยการนำน้ำมันมะพร้าวมาแยกส่วนแล้วผ่านกระบวนการต่าง ๆ ทางเคมีให้ได้สารลดแรงตึงผิวคือ sodium alkyl ether sulfate ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของน้ำยาล้างจาน
เกณฑ์การผสมสูตรเพื่อให้ได้น้ำยาล้างจานที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
แม้ว่าจะเป็นสารลดแรงตึงผิวที่ได้จากน้ำมันมะพร้าวแต่ใช่ว่าสารลดแรงตึงผิวจะไม่มีปัญหาการระคายเคืองต่อผิวหนังหรืออาการแพ้ต่าง ๆ เลย การผสมสูตรของน้ำยาล้างจานโดยใช้ความเข้มข้นของสารลดแรงตึงผิวที่ต่ำกว่าน้ำยาล้างจานให้ฟองมากทั่วไป (37 เปอร์เซ็นต์) มาอยู่ที่ความเข้มข้น 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นความเข้มข้นของสารลดแรงตึงผิวที่ให้ฟองในปริมาณที่พอดีต่อการล้างจานและถนอมมือ อีกทั้งการไม่เติมแต่งสีและกลิ่นลงในน้ำยาล้างจานก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำทิ้งจากการล้างจานถูกย่อยสลายตามธรรมชาติและไม่สร้างปัญหาให้สิ่งแวดล้อม
ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจากที่ใช้วัตถุดิบตั้งต้นจากน้ำมันมะพร้าวและการล้างจานแบบถูกวิธี
ในญี่ปุ่นมีผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานที่ใช้สารลดแรงตึงผิวจากน้ำมันมะพร้าวเพื่อสุขภาพอยู่หลายยี่ห้อที่สามารถนำมาใช้ล้างผักได้ด้วย แม้ว่าจะเป็นสารลดแรงตึงผิวจากธรรมชาติ แต่การล้างจานอย่างถูกวิธีเพื่อให้ปลอดภัยจากสารตกค้างโดยใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคือ หากล้างในน้ำไหลควรให้น้ำไหลผ่านจานอย่างน้อย 5 วินาที หรือหากล้างในภาชนะก็ควรจะล้างน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ครั้ง หากนำมาล้างผักก็ไม่ควรแช่ผักเกิน 5 นาทีและควรล้างด้วยน้ำไหลอย่างน้อย 30 วินาที เป็นต้น
การตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาจานนั้นขึ้นกับความชอบของแต่ละบุคคล แต่เมื่อเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันทางเลือกของการนำวัตถุดิบตามธรรมชาติมาใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่อถนอมสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจึงเกิดขึ้น ในญี่ปุ่นผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมสารลดแรงตึงผิวที่สกัดได้จากน้ำมันมะพร้าวมีราคาถูกกว่าน้ำยาล้างจานโดยทั่วไป จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ค่ะ