คนญี่ปุ่นเค้ามีจุดเด่นอย่างหนึ่งคือธรรมเนียมการทานโมจิในวันขึ้นปีใหม่ แต่ว่าธรรมเนียมที่ว่านี้ก็นำไปสู่ปัญหาที่หลายคนคาดไม่ถึง นั่นคือในแต่ละปีมีคนญี่ปุ่นที่ทานโมจิแล้วเสียชีวิตด้วย
มองแบบผิวเผินแล้วขนมหน้าตาน่ารักอย่างโมจิดูไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร แต่ช่วงปีใหม่ของทุกปีทางการญี่ปุ่นมักจะมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากการทานโมจิ และอีกหลายรายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากทานโมจิเข้าไปแล้วสำลักจนหายใจไม่ออก
โมจิเหนียวหนึบหนับ
โมจิ (餅) เป็นขนมญี่ปุ่นสีขาวที่มีลักษณะเหนียวหนืด ทำจากข้าวเหนียวที่หุงแล้วนำมาทุบหรือบดจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนนำมาปั้นเป็นก้อนกลมหรือหั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วอบหรือต้มให้คงรูปก่อนนำไปประกอบอาหาร โดยครอบครัวคนญี่ปุ่นจะนิยมทานโมจิเป็นของมงคลในช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกๆ ปี
โมจิเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ยังไง?
พูดถึงโมจิหลายคนอาจจะนึกถึงไดฟุกุ(大福)ขนมสีขาวก้อนกลมนุ่มนิ่มสอดไส้ผลไม้หรือถั่วแดงที่หน้าตาคล้ายกัน แต่ความจริงแล้วโมจิเหนียวกว่านั้นมาก กว่าจะกลืนลงคอได้ต้องใช้ทั้งแรงและเวลาค่อย ๆ เคี้ยวแบบละเมียดละไมเลยล่ะ เพราะถ้าเผลอกลืนเร็วเกิดไปมีโอกาสติดคอและขาดอากาศหายใจได้ โดยกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงก็คือผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ซึ่งจากที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลหลังทานโมจิกว่า 90% คือผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
ลดความเสี่ยงด้วยการหั่นโมจิเป็นชิ้นเล็ก ๆ
จากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่เว้นในแต่ละปี ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของญี่ปุ่นจึงประกาศแจ้งเตือนเรื่องการรับประทานโมจิในช่วงปีใหม่ โดยแนะนำให้เด็กและผู้สูงอายุหั่นโมจิเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนรับประทานเพื่อความปลอดภัย แต่ว่าก็ยังมีผู้ประสบอุบัติเหตุจากการทานโมจิอยู่ทุกปี โดยที่ผ่านมาในช่วงเปลี่ยนผ่านจากปี 2014 มาปี 2015 มีผู้เสียชีวิตจากการรับประทานโมจิ 9 ราย ปี 2016 มี 1 ราย และอีก 2 รายในปี 2017 รวมถึงผู้ที่มีอาการสาหัสจนต้องส่งเข้าโรงพยายามอีกจำนวนมาก
คิดแล้วก็น่าเศร้านะคะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในช่วงปีใหม่ เพื่อน ๆ คนไหนถ้ามีโอกาสไปฉลองปีใหม่แล้วได้ทานโมจิที่ญี่ปุ่น แม้ว่าหลายคนจะโตแล้วและยังไม่แก่ แต่ทางที่ดีเราว่าค่อย ๆ ทานอย่างมีสติดีกว่าค่ะ เทศกาลแห่งความสุขจะได้ไม่กลายเป็นช่วงเวลาที่น่าโศกเศร้าแทนนะคะ
อ้างอิงเนื้อหาจาก bbc