เดือนกุมภาพันธ์แบบนี้ มันอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะเขียนอะไรเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์เยอะสักหน่อย หลายคนอาจจะรู้แล้วแต่ก็ขอเล่าอีกรอบว่า ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นธรรมเนียมในวันวาเลนไทน์จะแตกต่างกับที่ไทยสักเล็กน้อย เพราะวันวาเลนไทน์จะเป็นวันที่ผู้หญิงมอบของขวัญหรือช็อคโกแลต ให้กับคนรักหรือคนที่กำลังแอบมีใจอยู่เพื่อเป็นการสารภาพความรู้สึกในใจ และหลังจากนั้น 1 เดือน ในวันที่ 14 มีนาคม หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า “White day” ถ้าฝ่ายชายมีใจให้ก็จะให้สิ่งของกลับมาเป็นการตอบแทน นอกเหนือจากความมุ้งมิ้งแลกของกันระหว่างหนุ่มสาวที่มีใจให้กันแล้ว ที่ญี่ปุ่นยังมีธรรมเนียมการมอบช็อคโกแลตตามมารยาทหรือที่เรียกว่า “กิริช็อกโก” อีกด้วย ซึ่งธรรมเนียมดังกล่าวหมายถึงการมอบช็อคโกแลตให้กับหนุ่ม ๆ ในที่ทำงาน หรือคนที่ร่วมงานด้วยแบบไม่ได้เกี่ยวว่ามีใจให้หรือไม่ แต่ธรรมเนียมที่ฟังแล้วเหมือนจะดูดีนี้กลับนำมาซึ่งความลำบากใจ และมีแต่คนอยากจะให้ธรรมเนียม “กิริช็อกโก” หายไปเสียที!!
ธรรมเนียมกิริช็อกโกในวันวาเลนไทน์นี้ ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายจัดเตรียมช็อคโกแลตให้กับผู้ชายในที่ทำงานหรือคนที่ร่วมงานด้วย ซึ่งสาว ๆ สมัยนี้ส่วนใหญ่ต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเป็นเรื่องยุ่งยากแถมยังต้องเสียเงินมากมายในการซื้อช็อคโกแลต ครั้นจะให้แค่เพียงบางคนก็ดูจะเสียมารยาทไปเสียอีก ไม่ใช่แค่ฝั่งสาว ๆ เท่านั้นนะคะที่ปวดหัว เพราะจากผลสำรวจของฝั่งหนุ่ม ๆ ก็พบว่า มีหนุ่ม ๆ ที่ไม่อยากได้กิริช็อกโกไม่น้อยอยู่เหมือนกัน โดยเหตุผลของหนุ่มๆส่วนใหญ่ก็คือ เป็นเรื่องยุ่งยากที่ต้องหาของมาให้คืน และเสียดายตังค์อีกด้วยต่างหาก หลายคนก็ตอบว่าไม่ได้สนใจกับวันพิเศษอะไรอยู่แล้ว รวมถึงไม่ได้ชอบทานช็อคโกแลตก็มี รวม ๆ แล้วก็คือ หนุ่ม ๆ มองว่ามันเป็นภาระทั้งทางจิตใจและทางการเงินมากกว่าจะรู้สึกดีใจที่ได้รับ
จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเจอมารู้สึกว่าจะมีสาว ๆ ส่วนน้อยที่มอบกิริช็อกโกให้กับหนุ่ม ๆ ในที่ทำงานนะคะ โดยส่วนใหญ่ก็ให้เหตุผลเหมือนตามด้านบนที่ว่ายุ่งยาก ลำบาก แถมยังเปลืองเงิน หรือบางคนก็เกรงใจแทนผู้รับกลัวผู้รับต้องลำบากไปหาซื้อของมาคืนให้ บางคนคิดไปถึงขั้นกลัวภรรยาหรือแฟนของฝ่ายชายจะหึงหวงเลยก็มี แต่ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่าไอ้ธรรมเนียมกิริช็อกโกแบบนี้ มันคงเป็นแผนการตลาดขายช็อคโกแลตของบริษัทช็อคโกแลตต่าง ๆ แน่นอน!!
อ้างอิงข้อมูลจาก careerconnection
