ร้อน~ อากาศบ้านเราจะร้อนเกินไปแล้วววว! อุณหภูมิช่วงนี้แต่ละวันน่ากลัวมากจริง ๆ บางจังหวัดก็พุ่งสูงเกิน 40 องศาเซลเซียสไปแล้ว ถ้าอากาศยังร้อนแบบนี้ต่อไปว่าจะลองอบคุกกี้ในรถแล้วนะ! ล่าสุดนายกฯ ของเราก็ออกมาเตือนประชาชนให้ระวังโรคลมแดด (Heat stroke) เพราะว่าเป็นโรคที่อาจเกิดกับใครก็ได้ในสภาพอากาศร้อนระอุแบบนี้
โรคลมแดดคืออะไร
โรคลมแดด (Heat stroke) เกิดจากการที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินไป เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้ ซึ่งหากได้รับการรักษาล่าช้าอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจะประมาทไม่ได้เลย
อาการของโรคลมแดด
คนที่เป็นโรคลมแดดจะแสดงอาการต่าง ๆ ออกมาให้เห็น ถ้าสงสัยว่าตนเองหรือคนรอบตัวอาจจะเป็นโรคลมแดดให้ลองสังเกตอาการต่อไปนี้ดู
- หน้ามืดตาลายหรือมีอาการร้อนวูบวาบ
- ปวดกล้ามเนื้อหรือเป็นตะคริว
- ร่างกายเฉื่อย ไม่กระฉับกระเฉง หรือรู้สึกคลื่นไส้
- เหงื่อออกแบบผิดปกติ
- อุณหภูมิร่างกายสูง, ผิวหนังมีอาการผิดปกติ (ผิวแห้งหรือเปลี่ยนเป็นสีแดง เป็นต้น)
- ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก, เดินโซเซ
- ไม่สามารถเติมน้ำให้ร่างกายได้
ถ้าเกิดว่าอาการถึงขั้นที่ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกและไม่สามารถเติมน้ำให้ร่างกายได้ แสดงว่าอาการเข้าขั้นอันตรายมาก อย่าพยายามดื่มน้ำเองเพราะอาจทำให้อาการทรุดลง ให้รีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
วิธีป้องกันโรคลมแดดแบบคนญี่ปุ่น
เห็นญี่ปุ่นเป็นประเทศอากาศอบอุ่นมี 4 ฤดู ไม่น่าจะร้อนทรมานสักเท่าไหร่? ขอบอกเลยว่าไม่จริง! หน้าร้อนที่ญี่ปุ่นร้อนมาก ๆ ไม่ได้สบายไปกว่าเมืองไทยเลยคนญี่ปุ่นเองจึงต้องหาวิธีแก้ร้อนและป้องกันโรคลมแดดเหมือนกัน แม้ว่าโรคลมแดดจะเป็นโรคที่น่ากลัว แต่เราสามารถป้องกันได้หากรู้วิธี มาดูกันดีกว่าว่าคนญี่ปุ่นมีวิธีป้องกันโรคนี้ยังไงบ้าง
1. เตรียมร่างกายให้พร้อมเผชิญกับอากาศร้อน
- ดื่มน้ำบ่อย ๆ
- เติมเกลือแร่ให้ร่างกายด้วยอาหารหรือเครื่องดื่มเกลือแร่ต่าง ๆ
- นอนหลับในห้องที่เย็นสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก
- ทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย
2. ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน
- หมั่นตรวจเช็คอุณหภูมิและความชื้นอยู่เสมอ หากแดดแรงจัดก็ปิดม่านหรือกางผ้าใบกันแดด เป็นต้น
- ลดอุณหภูมิในห้องด้วยพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- พยายามอยู่ในที่ร่ม หรือกางร่ม/สวมหมวกเมื่อต้องออกไปข้างนอก
- ใช้อุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย เช่น พัดหรือผ้าเย็น การเพิ่มความเย็นบริเวณเส้นเลือดใหญ่ เช่น ที่คอ จะช่วยให้ลดอุณหภูมิได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ในกรณีที่เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งไม่ได้ก็ต้องเตรียมตัวให้ดีเป็นพิเศษ
- พกน้ำติดตัวเมื่อออกไปข้างนอก
- พักให้บ่อยเข้าไว้
- ติดตามข่าวสารเรื่องโรคลมแดดในเวลานั้น ๆ
เครื่องดื่มที่ช่วยป้องกันโรคลมแดด
ในบรรดาวิธีป้องกันโรคลมแดดที่กล่าวมาทั้งหมด การหมั่นเติมน้ำให้กับร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเพียงแค่ร่างกายเสียน้ำไป 3% ก็ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายลดลงแล้ว นอกจากนี้โรคลมแดดยังเกิดในที่ร่มได้บ่อย ๆ จากอากาศที่ร้อนจัดประกอบกับการที่ร่างกายของเราได้รับน้ำไม่เพียงพอ
นอกเหนือจากน้ำเปล่าแล้ว คนญี่ปุ่นยังนิยมดื่มเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคลมแดดได้ เช่น สปอร์ตดริ้งค์ ชาข้าวบาร์เลย์ อามาซาเกะ (เหล้าหวานแอลกอฮอล์ต่ำ) เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวได้เป็นอย่างดี แต่หนึ่งในเครื่องดื่มที่คนญี่ปุ่นแนะนำมากแถมยังหาซื้อได้ในเมืองไทยก็คือ เครื่องดื่มเกลือแร่โพคารี่สเวท (Pocari Sweat)
เวลาที่เราเสียเหงื่อมาก ๆ นอกจากจะเสียน้ำแล้ว ร่างกายยังเสียแร่ธาตุต่างๆอีกด้วย โพคารี่สเวทมีเกลือแร่ที่ช่วยชดเชยนํ้าในร่างกายที่สูญเสียไป ทำให้เราสดชื่นขึ้นโดยไม่ต้องดื่มน้ำเปล่ามากเกินไปจนจุกนั่นเอง จึงถือเป็นเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์หน้าร้อนนี้และช่วยป้องกันโรคลมแดดได้เป็นอย่างดี ใครยังไม่รู้จักเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้เลย
ที่มา: bangkokhospital, netsuzero, pocarisweat, otsuka
