“แกงกะหรี่” ตัวช่วยของเด็กไม่ทานผัก และวัยที่เหมาะในการทาน

แกงกะหรี่ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในเมนูที่เด็ก ๆ ก็ชื่นชอบ แต่ด้วยรสชาติที่จัดจ้านกว่าอาหารอื่น ๆ เด็ก ๆ จะสามารถทานได้ตอนอายุเท่าไหร่ ? ความจริงแล้วเครื่องเทศสามารถช่วยเปิดต่อมรับรสของเด็ก ๆ ได้หากนำมาใช้อย่างถูกต้อง ไปดูกันว่าข้อควรระวังในการใช้เครื่องเทศกับเด็ก ๆ มีอะไรบ้าง และวิธีการนำเครื่องเทศมาใช้ในเมนูต่าง ๆ รับรองอร่อยเหาะ!

อายุเท่าไหร่ถึงจะทานแกงกะหรี่ได้ ?

แกงกะหรี่ เด็ก

เด็กส่วนมากชื่นชอบแกงกะหรี่ แน่นอนว่าต้องมีหลาย ๆ ครอบครัวที่ทำแกงกะหรี่ทานเองในบ้านบ่อย ๆ เป็นเมนูที่มีทั้งเนื้อสัตว์และผัก ทานกับข้าวร้อน ๆ อร่อยแถมยังได้รับสารอาหารที่หลากหลายในจานเดียว แต่เคยสงสัยไหมคะว่าแกงกะหรี่ที่มีรสชาติค่อนข้างจัดแบบนี้ เด็ก ๆ จะสามารถทานได้เมื่ออายุเท่าไหร่กัน ?

ตัวเครื่องเทศเองไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากนัก จึงไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าควรทานตอนอายุเท่าไหร่ แต่สำหรับเด็กเล็ก ๆ จะคุ้นเคยกับนมแม่หรือนมที่มีรสหวานเล็กน้อย หากให้ทานอาหารที่มีรสจัด ก็เหมือนกับได้รับสิ่งกระตุ้นอย่างเร็วเกินไป อาจทำให้เด็กตกใจและกลัวที่จะทานสิ่งนั้นในอนาคต เด็ก ๆ จะเริ่มเรียนรู้รสชาติของวัตถุดิบเองผ่านอาหารสำหรับเด็ก เช่น ผัก ปลา ข้าว เมื่อประสาทรับรสค่อย ๆ พัฒนาขึ้นทีละน้อยและทานเครื่องปรุงต่าง ๆ ได้ เด็ก ๆ ก็จะสามารถเพลิดเพลินกับอาหารรสจัดที่เหมาะสำหรับเด็กหรือแกงกะหรี่ที่เผ็ดน้อย ซึ่งส่วนมากก็เริ่มให้ทานตอนอายุได้ประมาณ 1 ขวบ หรือวัยที่เลิกทานอาหารเด็กและสามารถทานอาหารปกติได้แล้ว

*ข้อควรระวัง แกงกะหรี่ยี่ห้อเวอร์มอนต์มีน้ำผึ้งเป็นส่วนผสม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำผึ้งแก่เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ

“เครื่องเทศ” ตัวช่วยของเด็กไม่ทานผัก

แกงกะหรี่ เด็ก

แกงกะหรี่มีเครื่องเทศที่หลากหลาย เครื่องเทศมีหน้าที่ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม หากใช้ในปริมาณที่พอเหมาะเครื่องเทศจะมีประโยชน์อย่างน่าประหลาดใจสำหรับสมดุลอาหารของเด็ก ๆ

เมื่อเด็ก ๆ ถึงวัย 3-4 ขวบ ความชอบด้านอาหารจะชัดเจนขึ้น เลือกทานแต่ของที่ชอบ เมินของที่ไม่ชอบ โดยเฉพาะผักอย่างพริกหยวก แครอท มะเขือเทศ และผักปวยเล้ง อาจเพราะมีกลิ่นเหม็นเขียว รสขม และความฉุนที่ทำให้ทานยาก อย่างไรก็ตาม วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ก็จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตที่ดีของเด็ก เนื่องจากเด็กในวัย 3-5 ปีต้องการแคลอรีประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่เลยทีเดียว

เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถทานผักได้ ตัวช่วยอย่างดีก็คือเครื่องเทศ ตัวอย่างเช่น เมื่อทำเนื้อผัดผัก ถ้าใส่ผงกะหรี่ลงไปเล็กน้อยเพื่อให้มีรสแกง ก็จะดับกลิ่นเหม็นเขียวได้และทานได้ง่ายขึ้น หากไม่ชอบผักสดก็สามารถเพิ่มผงกะหรี่ลงในน้ำสลัด แถมยังเข้ากันได้ดีกับสลัดมันฝรั่งด้วย พวกผัดทอดอย่างหัวไชเท้า แครอท จิ้มด้วยผงกะหรี่ผสมเกลือเล็กน้อยก็สามารถทานเป็นของว่างได้ จะเห็นว่าผงกะหรี่สามารถใช้ได้กับอาหารหลากหลายชนิดจริง ๆ

ใช้เครื่องเทศอย่างชาญฉลาด

แกงกะหรี่ เด็ก

สิ่งสำคัญในการศึกษาอาหารสำหรับเด็กคืออย่าให้เขาเกลียดของที่เขาไม่กิน หากไปดุว่า “อย่าเลือกกินแต่ของที่ชอบ” หรือไปบังคับว่า “ลองกินดูสักคำ” เด็ก ๆ ก็จะไม่สนุกกับการทานอาหารอีกต่อไป และมีความรู้สึกเกลียดอาหารนั้นฝังใจไปเรื่อย ๆ

หากเป็นไปได้ พยายามให้เด็ก ๆ ได้รับประสบการณ์ดี ๆ ในการทานอาหาร เปลี่ยนรูปแบบหรือวิธีการปรุงให้เขารู้สึกว่าปรุงแบบนี้แล้วอร่อยถูกปากมากขึ้น เมื่อทำเช่นนั้นก็จะช่วยพัฒนาความรู้สึกเชิงบวกเกี่ยวกับการทานอาหารและสามารถทานได้หลากหลาย สำหรับพ่อแม่เองก็คงจะเหนื่อยกายเหนื่อยใจที่ทำของดีมีประโยขน์ให้แต่ลูกไม่ยอมทาน พยายามค้นหาเครื่องปรุงรสที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ ซึ่งจริง ๆ แล้วการใช้เครื่องเทศต่าง ๆ เพียงเล็กน้อยก็ช่วยได้มากเพราะจะทำให้รสชาติอาหารจัดจ้านไม่จำเจ กระตุ้นความอยากอาหารได้มากขึ้น

ความชอบด้านรสชาติเปลี่ยนไปเมื่อเด็ก ๆ โตขึ้น บางครั้งก็เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและอารมณ์ในแต่ละวัน การจะหาเมนูให้ถูกใจทุกวันอาจเป็นเรื่องยาก แต่เพียงแค่เติมเครื่องเทศขวดเล็ก ๆ ก็จะง่ายขึ้นทันที

เห็นเด็ก ๆ ญี่ปุ่นเริ่มทานแกงกะหรี่กันได้ตอนอายุ 1 ขวบ แล้วเด็กไทยเริ่มทานของเผ็ดกันได้ตอนอานุเท่าไหร่กันนะ ?? ใครจำได้ว่าเริ่มทานเผ็ดได้ตอนไหนก็มาแชร์กันได้เลยน้าาา ^^

สรุปเนื้อหาจาก housefoods-group

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save