ถึงญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่แสนอร่อยและดีต่อสุขภาพ แต่เบื้องหลังอาหารอันน่าทานและผักผลไม้รสเลิศของญี่ปุ่นนั้นคือ มาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก ทำให้ห้างร้าน ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ จำเป็นที่จะต้องควบคุมคุณภาพสินค้าอาหารและวัตถุดิบอย่างเข้มงวด สินค้าที่แม้จะยังทานได้แต่ใกล้วันหมดอายุ หรือมีตำหนิที่ทำให้ดูไม่น่าทาน จะต้องถูกคัดออกและไม่สามารถวางจำหน่ายได้ เป็นเหตุให้เกิดปัญหาเรื่องขยะอาหารปริมาณมากที่ถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย
หลายหน่วยงานและองค์กรต่างพยายามที่จะแก้ปัญหาขยะอาหารนี้ ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างความพยายามในการแก้ปัญหาที่น่าชื่นชมคือ โปรเจ็กต์ของนักศึกษามหาวิทยาลัย Ritsumeikan Asia Pacific University (APU) ในเมืองเบปปุ ที่กำลังเตรียมการทดลองเปิดฟรีซุปเปอร์มาร์เก็ต ด้วยความตั้งใจที่จะลดปริมาณขยะอาหาร และแก้ปัญหาความยากจนของคนในชุมชนด้วย
คุณฮิคาริ ฟุรุคาวะ นักศึกษาขั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัย APU กำลังเตรียมงานสำหรับโปรเจ็กต์การทดลองเปิดฟรีซุปเปอร์มาร์เก็ตในชื่อ “Amairo Shoten” ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะถึงนี้เป็น เธอกล่าวว่า ตนเองเกิดที่จังหวัดชิกะ ในช่วงที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย สิ่งที่เธอเห็นจนชินตาก็คือ ผักและผลไม้จากไร่สวนของเพื่อนบ้านถูกทิ้งเป็นจำนวนมาก เพียงเพราะเป็น “สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน” ด้วยสีที่ผิดเพี้ยน หรือรูปทรงไม่ได้มาตรฐานแม้จะยังสามารถทานได้ก็ตาม และเมื่อเวลาผ่านไปเธอยิ่งได้รู้ว่า ไม่เพียงแต่พืชผักเท่านั้น แต่ยังมีขยะอาหารอีกมากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น เธอจึงเกิดความสงสัยว่า “ทั้ง ๆ ที่มีคนทุกข์ยากเพราะความยากจนมากมาย แต่กลับมีอาหารจำนวนมากถูกทิ้ง จะมีทางไหนไหมที่จะสามารถช่วยเหลือผู้คนที่กำลังลำบากได้” และนั่นก็เป็นที่มาที่ทำให้คุณฟุรุคาวะเลือกเข้ามาศึกษาอยู่ในคณะวิชาผู้ประกอบการของมหาวิทยาลัย APU ที่มีเป้าหมายในการสร้างผู้ประกอบการออกสู่สังคม
View this post on Instagram
“Amairo Shoten” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากฟรีซุปเปอร์มาร์เก็ตที่สร้างขึ้นที่ประเทศออสเตรเลียในปี 2017 สินค้าที่จะนำมาวางในซุปเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าวคาดว่าจะเป็นของที่ถูกทิ้งจากซุปเปอร์มาร์เก็ตและจากเกษตรกร โดยจะไม่มีการนำเนื้อสัตว์หรือปลาสดมาวางจำหน่าย และทางผู้จัดจะไม่ตั้งราคาของสินค้า แต่จะวางกล่องรับบริจาคเอาไว้ให้ผู้ที่มาเลือกสินค้าได้บริจาคเงินกันตามศรัทธา นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะออกร้านจำหน่ายอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากของที่ถูกทิ้งอีกด้วย โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้บริการที่ในตัวเมืองเบปปุช่วงเดือนมีนาคม 2020
ตอนนี้ทางผู้จัดงานกำลังอยู่ในระหว่างการรณรงค์ขอความร่วมมือจากซุปเปอร์มาร์เก็ตและเกษตรกรภายในเมืองให้ช่วยส่งวัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐานแต่ยังสามารถรับประทานได้มาร่วมในโปรเจ็กต์ดังกล่าว โดยความตั้งใจสูงสุดของผู้จัดคือ อยากให้ฟรีซุปเปอร์ในครั้งนี้ได้ผลสำเร็จลุล่วงและสามารถเปิดให้บริการโดยตลอดได้ในอนาคต ถือเป็นโปรเจ็กต์ดี ๆ จากความมุ่งมั่นของคนรุ่นใหม่ที่อยากจะแก้ปัญหาสังคมที่ควรให้การสนับสนุนมาก ๆ เลยละค่ะ
อ้างอิงเนื้อหาจาก docomo