คนทั่วไปคิดว่าดอกซากุระเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น แต่รู้มั้ยคะว่ายังมีดอกไม้อีกหลายชนิดที่เป็นดอกไม้ประจำชาติญี่ปุ่น มารู้จัก 5 อันดับดอกไม้ที่เมื่อได้ยินชื่อแล้วต้องนึกถึงญี่ปุ่นพร้อมทั้งความหมายของดอกไม้แต่ละชนิดกันนะคะ
อันดับที่ 5: ดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือฟูจิ (藤, フジ)
วิสทีเรียเป็นไม้เถาเลื้อยตระกูลถั่วที่มีดอกเล็กๆ สีม่วง ชมพูและขาวจำนวนมากรวมตัวกันเป็นพวงระย้าคล้ายพวงองุ่นหรือคล้ายราชพฤกษ์ วิสทีเรียเป็นดอกไม้ที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมาตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อดอกบานสะพรั่งพร้อมกันจะแลดูสวยงามดั่งภาพวาด ในญี่ปุ่นสามารถชมดอกวิสทีเรียสวยงามได้ในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม
ความหมายของวิสทีเรีย: ความนุ่มนวลอ่อนโยน การยินดีต้อนรับ การไม่มีวันจากกัน และความลุ่มหลงในความรัก
อันดับที่ 4: ดอกคาเมลเลีย (Camellia) หรือสึบากิ (椿, ツバキ)
ดอกคาเมลเลียหรือสีบากิเป็นไม้พุ่มที่ดอกมีกลีบซ้อนคล้ายกุหลาบ ด้วยความมันเงาของกลีบดอกทำให้ดอกคาเมลเลียมีความสวยโดดเด่นไม่แพ้ดอกไม้ใดในญี่ปุ่น ดอกคาเมลเลียมีหลายสี ได้แก่ ชมพู แดง และขาว ช่วงเวลาการบานดอกนั้นจะอยู่ในช่วงที่อากาศเย็นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมและเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน เมื่อดอกบานพร้อมกันเต็มต้น คาเมลเลียจะดูสวยงามราวกับช่อดอกไม้ขนาดใหญ่เลยทีเดียว
อีกหนึ่งข้อเด่นของคาเมลเลียคือ น้ำมันสกัดจากเมล็ดคาเมลเลียเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากคนญี่ปุ่นนำน้ำมันสกัดมาใช้ประโยชน์มากมาย เช่น ใช้ทำอาหาร บำรุงผิวพรรณและเส้นผม ใช้เคลือบเงาและขัดงานไม้และงานแกะสลัก เป็นต้น
ความหมายของคาเมลเลีย: ความงดงามที่ไม่เสแสร้ง ความงดงามที่สงบเสงี่ยม และความอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยความหมายในเชิงถ่อมตนทำให้ดอกคาเมลเลียเป็นดอกไม้ที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้เป็นลายผ้ากิโมโน
อันดับที่ 3: ดอกบ๊วยหรืออุเมะ (梅, ウメ)
ดอกบ๊วยเป็นดอกไม้ที่ญี่ปุ่นนำเข้ามาจากจีนเมื่อประมาณ 1,500 ปีก่อนเพื่อใช้ทำยาสมุนไพร ปัจจุบันในญี่ปุ่นมีสายพันธุ์บ๊วยที่ให้ดอกสวยงามกว่า 500 สายพันธุ์ โดยดอกบ๊วยมีทั้งชนิดที่มีกลีบดอกเพียง 5 กลีบและชนิดที่มีกลีบซ้อนกันหลายชั้น ตลอดจนมีสีต่างๆ ได้แก่ ชมพูอ่อน ชมพูเข้ม ขาว และแดง ช่วงการบานของดอกบ๊วยจะเป็นช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงเมษายนและให้ผลบ๊วยประมาณเดือนมิถุนายน
ความหมายของดอกบ๊วย: ความสูงส่งและความน่าเชื่อถือ
อันดับที่ 2: ดอกเบญจมาศหรือคิคุ (菊, キク)
ดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ที่ญี่ปุ่นนำเข้ามาจากจีนเพื่อใช้เป็นยาตั้งแต่สมัยนารา และถูกปรับปรุงพันธุ์เรื่อยๆ จนมีหลากหลายสายพันธุ์ในปัจจุบัน ดอกเบญมาศเป็นดอกไม้ประจำชาติของคนญี่ปุ่นจากการนำมาเป็นตราประทับประจำองค์สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นโดยเป็นรูปดอกเบญจมาศ 16 กลีบที่มีกลีบซ้อน 16 กลีบ สำหรับเชื้อพระวงศ์พระองค์อื่นๆ จะใช้ตราประทับรูปดอกเบญจมาศ 14 กลีบ และรัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้รูปดอกเบญจมาศ 16 กลีบสำหรับเป็นตราประทับบนเอกสารสำคัญทางราชการ เช่น หนังสือเดินทาง หนังสือคำสั่งต่างๆ และสถานที่สำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ นอกจากนี้ดอกเบญจมาศก็ปรากฏอยู่บนภาพพิมพ์ ลายผ้า และด้านหลังของเหรียญ 50 เยนด้วย


ความหมายของเบญจมาศ: ความสูงส่ง
อันดับที่ 1: ดอกซากุระ (桜, サクラ)
ซากุระเป็นดอกไม้ที่ใครๆ ต้องนึกถึงเมื่อเอ่ยถึงญี่ปุ่น เป็นดอกไม้ประจำฤดูใบไม้ผลิที่ออกดอกเป็นสีชมพู ช่วยเปลี่ยนสีเทาที่เหงาๆ ของต้นไม้กิ่งไม้ให้เป็นสีชมพูสดใสต้อนรับอากาศอบอุ่น ปัจจุบันในญี่ปุ่นมีซากุระพันธุ์ต่างๆ มากว่า 600 สายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่คนทั่วไปนึกถึงเมื่อพูดถึงซากุระคือ โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกในประเทศญี่ปุ่นมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์
นอกจากให้ความเพลิดเพลินใจแก่คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากการได้ชมซากุระที่งดงามแล้ว การบานของดอกซากุระยังสื่อถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของคนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารับการศึกษา การจบการศึกษา และการเข้าทำงานใหม่ ซึ่งล้วนเป็นก้าวสำคัญของชีวิตเพื่ออนาคต
ความหมายของซากุระ: ความงามแห่งจิตวิญญาณ หญิงงาม และความบริสุทธิ์
ดอกไม้สีสันสวยงามมักสร้างความสุขให้ผู้ชม นอกจากจะได้ชมความสวยงามแล้วดอกไม้หลายชนิดยังมีความหมายต่อจิตใจของคนในชาตินั้นๆ ด้วย ใช่ว่าจะชื่นชมแต่ดอกไม้ต่างชาติ คนไทยอย่างผู้เขียนก็รู้สึกภูมิใจ.oดอกไม้ประจำชาติไทยเสมอ ครั้งหนึ่งผู้เขียนได้นำเสนอดอกไม้ไทยคือราชพฤกษ์และกัลปพฤกษ์ให้เพื่อนญี่ปุ่นและต่างชาติดู พวกเขาต่างตื่นเต้นกับความสวยงามของดอกไม้ไทยไม่น้อยค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก: botanica-media