เมื่อไม่นานมานี้ มีงานนิทรรศการเล็กๆ ถูกจัดแสดงอยู่ ณ ร้านคาเฟ่และแกลเลอรี่ Palette Artspace ในใจกลางกรุงเทพฯ ภายในงานมีภาพวาดสีน้ำที่ถ่ายทอดภาพวิวและเมืองในญี่ปุ่นจากฝีมือของ AnimaToey หรือคุณเต้ย (ฉัตรชัย ธรรมาภิรมย์) ศิลปินนักวาดภาพสีน้ำคนไทยที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเมืองซาวาระ จังหวัดจิบะและถ่ายทอดเมืองที่เห็นออกมาเป็นภาพวาดในนิทรรศการภาพวาดสีน้ำ “Sawara town & 7city01”
ในโอกาสนี้ ทีมงาน ANNGLE ได้ขอเวลาคุณเต้ยมานั่งพูดคุยเรื่องนิทรรศการและความประทับใจที่คุณเต้ยมีต่อญี่ปุ่นกันค่ะ
รู้จักคุณเต้ย “AnimaToey” และเส้นทางกว่าจะมาจับพู่กันเป็นนักวาดภาพสีน้ำ
ก่อนจะเข้าเรื่องนิทรรศการและการวาดภาพวิวทิวทัศน์ในญี่ปุ่น เรามารู้จักคุณเต้ยและชีวิตในฐานะ Animator ก่อนจะผันมาเป็นนักวาดภาพสีน้ำอย่างทุกวันนี้กันค่ะ
ก่อนอื่นขอรบกวนคุณเต้ยช่วยแนะนำตัวเล็กน้อยค่า
สวัสดีครับ เต้ยครับ เป็นเจ้าของเพจ AnimaToey Watercolor ครับ ปัจจุบันก็วาดรูปสีน้ำ ทำหนังสือ สอนสีน้ำ และทำไลน์สินค้าต่างๆ จากภาพวาดสีน้ำครับ
ได้ยินมาว่าก่อนจะมาวาดรูปสีน้ำคุณเต้ยเคยทำงานเป็น Animator มาก่อน ช่วยเล่าเรื่องความชอบที่ทำให้สนใจงานอนิเมชั่นได้ไหมคะ?
ก็เริ่มมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่ดูมาแต่เด็ก โดราเอมอน Dragonball พวกการ์ตูนยุค 90 แล้วช่วงมหาลัยก็มาเจองาน Studio Ghibli ที่เราประทับใจภาพฉาก เช่นเรื่อง Spirited Away, Princess Mononoke และ Pompoko ซึ่งเป็นเรื่องของธรรมชาติ สัตว์ และผมจบ Landscape มาก็เลยอินกับฉากแบบนี้ งานช่วงแรกของผมก็เลยจะมีอิทธิพลของ Ghibli อยู่ในงาน
แต่การ์ตูนที่ทำให้อยากทำอนิเมชั่นคือ Cartoon Network ยุคเฟื่องฟู ซึ่งความต่างคือการ์ตูนญี่ปุ่นเนี่ย เราไม่สามารถทำอนิเมชั่นด้วยตัวคนเดียวได้ แต่การ์ตูนแบบของใน Cartoon Network เป็นงานสเกลที่สามารถทำอนิเมชั่นด้วยตัวคนเดียวได้
สรุปก็คือความชอบมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ Cartoon Network ก็เป็นเหมือนการพบรักอีกครั้งที่ทำให้เราอยากหันมาทำงานอนิเมชั่น
ว้าวว ANNGLE เองก็โตมากับการ์ตูนยุคนี้เหมือนกันค่ะ จนทุกวันนี้ยังเป็นความทรงจำดีๆ ในวัยเด็กอยู่ค่ะ
แล้วอะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณเต้ยผันจาก Animator มาเป็นนักวาดรูปสีน้ำเหรอคะ?
อันนี้ต้องกลับไปสมัยเรียนครับ ผมเรียนสถาปัตย์แต่จะชอบสีน้ำและมีความฝันว่าอยากวาดสีน้ำ ระหว่างเรียนก็มาศึกษาเอง และตอนนั้นก็เจอกับความสนุกของอนิเมชั่นด้วย
พอจบมาก็มาทำงานอนิเมชั่น แต่บางครั้งเราจะเจองานที่ทำให้รู้สึกว่าในอนิเมชั่นเราไม่ค่อยมีสิทธิ์เลือกในการจะปล่อยของของเราเท่าไหร่ ก็เลยหันมาหาการวาดรูปที่มีพื้นที่ให้เราปล่อยของได้
อะเนะยะโคจิ ก้าวใหญ่ก้าวแรกของ AnimaToey ในญี่ปุ่น
ก่อนจะมาวาดภาพเมืองซาวาระใจจังหวัดจิบะครั้งนี้ คุณเต้ยได้เคยวาดและจัดนิทรรศการที่อะเนะยะโคจิ (姉小路) จังหวัดเกียวโต ซึ่งนับเป็นก้าวแรกของคุณเต้ยในการจัดนิทรรศการที่ญี่ปุ่น
มาที่งานวาดเกี่ยวกับญี่ปุ่นของคุณเต้ยกันบ้างนะคะ เห็นว่าก่อนงานเมืองซาวาระนี้ คุณเต้ยเคยจัดแสดงที่เกียวโตมาก่อน ไม่ทราบว่างานที่เกียวโตนี้มีที่มาอย่างไรบ้างเหรอคะ?
อันนั้นผมตั้งใจให้มันเกิดขึ้น เขาว่ากันว่าเรื่องบางเรื่องมันจะเกิดขึ้นถ้าเราประกาศออกไปให้คนรู้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะในนั้นอาจจะมีคนที่ทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ แล้วมันก็ไปตกกับเพื่อนคนนึงที่เรียนอยู่ญี่ปุ่น ณ ตอนนั้น และเพื่อนเขาก็รู้จักกับคุณลุงคนหนึ่งที่ทำงานเกี่ยวกับชุมชนในเกียวโต
คุณลุงทานิ ผู้ชวนคุณเต้ยมาจัดงานที่เกียวโต
ภาพวาดร้านเต้าหู้ หนึ่งในจุดเริ่มต้นของการจัดงานที่เกียวโต
คุณลุงคนนี้เขาไปเที่ยวรอบโลกมาแล้วเห็นว่าต่างประเทศมีการอนุรักษ์เมืองเก่าไว้ได้อย่างสวยงามอยู่ เขาก็เลยตั้งใจว่าอยากให้เมืองเขาเป็นแบบนั้นบ้าง ก็เป็นการอนุรักษ์ที่เกิดจากคุณลุงวิศวกรคนนี้คนเดียว
คุณลุงเขาก็ชวนมาแสดงงานในนิทรรศการที่เขาจัดกันเป็นประจำอยู่แล้วที่ย่านอะเนะยะโคจิ ในเกียวโต เป็นงานที่ไม่ได้ใหญ่อะไร แต่ชุมชนนั้นก็ได้รางวัลในด้านของการรักษาวัฒนธรรมและบรรยากาศของเมืองไว้ได้โดยไม่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ได้ยินว่าตอนไปจัดนิทรรศการที่เกียวโตก็มีคนญี่ปุ่นมาซื้อผลงานของคุณเต้ยด้วย ขอถามได้ไหมคะว่าภาพแรกที่ถูกซื้อไปในงานนั้นเป็นภาพอะไรเหรอคะ?
ภาพร้านพู่กันครับ ไซอุนโด (彩雲堂) เป็นร้านพู่กันโบราณของญี่ปุ่น และเป็นภาพที่ผมชอบมาก คือเจ้าของร้านเป็นคุณลุงและจริงๆ ในภาพต้องเป็นคุณลุงที่นั่งอยู่ในร้านเป็นประจำ แต่พอดีวันที่ไปที่ร้านลูกสาวเขามาเยี่ยม แล้วก็มานั่งเป็นแบบในรูปภาพแทนคุณลุง คุณลุงเจ้าของร้านเขาก็มาซื้อภาพผมแล้วเอาไปติดในร้าน

คุณลุงเจ้าของร้านพู่กันไซอุนโด

ภาพวาดภายนอกร้านไซอุนโด

ภาพวาดภายในร้านไซอุนโด
เขาบอกว่าเขาชอบภาพนี้เพราะมันมีลูกสาวเขาอยู่ในภาพ คือลูกสาวเขาแต่งงานออกไปแล้ว เพราะงั้นการมีลูกสาวเขาอยู่ในร้านในภาพนี้ มันทำให้รู้สึกเหมือนลูกสาวอยู่ข้างๆ กับเขาตลอดเวลา
เป็นเรื่องประทับใจมากๆ เลยค่ะ นอกจากนี้ในงานมีอะไรที่คุณเต้ยประทับใจอีกบ้างไหมคะ?
นอกนั้นแล้ว ความสนุกอย่างหนึ่งของตอนไปจัดแสดงที่เกียวโตคือคนที่มาดูงานนั้น ถึงจะเป็นคนทั่วไปแต่จะเป็นคนที่มีความรู้ทางศิลปะสูง แล้วเขาจะวิจารณ์ได้คมมาก
คือหลายคนที่มาดูเหมือนจะเป็นแค่คุณลุงธรรมดา แต่ความจริงเป็นศิลปินก็หลายคน ทางเราเองก็สนุกกับคนที่มาชมผลงานเราเหมือนกัน
“Sawara town & 7city01” ภารกิจถ่ายทอดเสน่ห์ของเมืองซาวาระและความสนุกที่ไม่คาดคิด
หลังจากจัดนิทรรศการที่เกียวโตแล้ว งานต่อมาก็คือโปรเจกต์เมืองซาวาระ ไม่ทราบว่างานนี้มีที่มาอย่างไรบ้างเหรอคะ?
เกิดจากการแซวเล่นๆ ครับ คือมีรุ่นน้องที่รู้จักเขาทำเพจ Wonder Sawara เราก็ทักเขาไปว่ารูปนี้สวย ขอเอามาเป็นแบบวาดได้ไหม น้องเขาก็ตอบมาว่าพี่เต้ยมาจัดนิทรรศการที่นี่เลยไหม เพราะผมเคยจัดนิทรรศการที่เกียวโตมาแล้ว ก็เลยมี Portfolio ที่เอาไปใช้เสนอได้ แล้วก็ได้โอกาสทำงานนี้มา
Facebook Page: Wonder Sawara เที่ยวรอบซาวาระ : Chiba Katori City
ในงานของเมืองซาวาระนี้คุณเต้ยมีเบื้องหลังการทำโปรเจกต์นี้อย่างไรบ้างคะ?
หลักๆ ก็คือไปที่เมืองเพื่อไปถ่ายรูปแล้วกลับมาวาด แต่สามรูปแรกของโปรเจกต์นี้จะเป็นรูปที่ผมขอเขามาวาด เป็นรูปจากศูนย์การท่องเที่ยวและราชการที่มีคนส่งเข้ามาประกวดกับทางเมือง แต่รูปหลังๆ มาก็จะเป็นรูปที่ผมไปถ่ายมาวาด
เวลาที่เลือกโลเคชั่นมาวาดนี้ คุณเต้ยมีหลักอะไรในการเลือกบ้างคะ?
มีครับ อย่างที่ซาวาระคือพอได้เห็นทั้งเมืองแล้วเราก็จะมาลำดับว่าที่ทางเมืองเขากำหนดมา 8 รูปนี้ เราจะเสนอ 8 รูปยังไงที่จะช่วยให้เมืองเป็นที่รู้จัก ก็จะเลือกที่เป็นมุมยอดฮิต ส่วนใหญ่ก็จะเสนอเมืองกับเทศกาลของเขา อย่างเมืองนี้ดังเรื่องเทศกาลแห่รถลาก แต่ผมชอบวาดโคมไฟ ผมก็เลือกเฉพาะตรงโคมไฟมาวาด ก็เป็นรูปที่มีคนชอบมากๆ
รูปภาพจากเมืองคาโทริ (Katori City)
นอกจากนี้เห็นว่ามีภาพวาดของเมืองอื่นอยู่ด้วย ภาพวาดเมืองอื่นที่อยู่ในนิทรรศการนี้ก็ถูกวาดทีหลังใช่ไหมคะ?
ใช่ครับ พอจบงานของเมืองซาวาระก็ได้ขยายโปรเจกต์ไปที่อีกเจ็ดเมืองรอบๆ ซาวาระด้วย รวมทั้งหมดเป็น 8 เมืองในภูมิภาคโฮคุโซ
แต่ทั้งหมดนี้มันพาให้ผมมาสนุกกับการวาดภาพที่ใหญ่ขึ้น และที่ไม่คาดคิดก็คือ ช่วงก่อนงานนี้ผมมีวาดการ์ตูน แต่พอมาจับโปรเจกต์นี้ก็ต้องลาจากงานการ์ตูนไปพักนึง เพราะเรารู้สึกว่าการวาดสถานที่และคนตามความจริงจะช่วยให้เมืองเป็นที่รู้จักมากกว่า
แต่พอจบงานแล้วก็พบว่ามันสนุกโดยที่เราคาดไม่ถึง คือในการวาดมันก็จะมีที่เราสนุกบ้างไม่สนุกบ้าง แต่มันก็พาเรามาถึงที่ที่เราไม่คิดว่าจะมาถึงได้เหมือนกัน เหมือนได้มาเจอทางใหม่ที่เอ้ย! มันก็สนุกดีเหมือนกันนี่หว่า

ความประทับใจในญี่ปุ่น และความฝันในการวาดญี่ปุ่นต่อจากนี้ของ AnimaToey
จากการได้มาจัดงานที่ญี่ปุ่นนี้ มีอะไรที่คุณเต้ยรู้สึกว่าแฮปปี้ที่ได้มาจับงานนี้บ้างไหมคะ?
ตอนแรกความคิดที่อยากจะมาจัดงานที่ญี่ปุ่นเนี่ย ตอนนั้นก็มาจากความอยากมีตัวตน อยากเป็นที่รู้จักในระดับโลกขึ้นมา และงาน Artbook ผมตั้งแต่เล่มหนึ่งจนถึงเล่มสองเป็นงานที่เราเลือกเอาสถานที่ชอบมาวาด
แต่พอได้จับงานเกี่ยวกับญี่ปุ่นก็เป็นงานที่วาดแล้วแฮปปี้ ก็เริ่มรู้สึกว่าอยากวาดอะไรที่มันเป็นของจริง เพราะบางทีผมแค่ถ่ายรูปมาวาดมันก็ไม่มีเรื่องราว แต่พอมันมีประโยชน์กับคนอื่น มีความหมาย หรือเราได้รู้ลึกลงไปเกี่ยวกับสิ่งที่วาดมันก็จะทำให้การวาดมันสนุกขึ้น
มีเสน่ห์อะไรของญี่ปุ่นบ้างเหรอคะที่ทำให้คุณเต้ยรู้สึกว่าได้วาดแล้วมีความสุข?
เสน่ห์ของพวกตัวอาคาร ความเป็นไม้ ทรงบ้านญี่ปุ่นแบบเก่าอย่างที่เห็นเราในการ์ตูนโดราเอมอน พวกบ้านในยุคโชวะ หรือของเกียวโตก็จะมีวัดมีอะไรเต็มไปหมด หลักๆ ก็จะอินกับเมืองเก่า พวกอาคารเก่าๆ โทรมๆ ที่สำหรับคนญี่ปุ่นอาจจะมองเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราจะรู้สึกว่ามันมีความเป็นปัจเจกสูง ซึ่งเราก็ชอบตรงนั้น
ขอถามเรื่องงานต่อจากนี้บ้างนะคะ หลังจากเมืองซาวาระแล้ว คุณเต้ยมีโลเคชั่นไหนหรืออะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นที่อยากวาดต่อจากนี้ไหมคะ?
คือผมเคยมีความฝันว่าอยากไปวาดเมืองเก่าทุกเมืองของญี่ปุ่น ซึ่งซาวาระก็เป็นเหมือนการได้ทำฝันนั้นให้เป็นจริงขึ้นมา
นอกนั้นก็จะมีธรรมชาติและโคมไฟที่เป็นสิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับญี่ปุ่นเหมือนกัน หรือเทศกาลก็สน เพราะโปรเจกต์ซาวาระนี้ผมวาดจบโดยยังไม่ได้ไปเทศกาลหน้าร้อนของเขาสักอันเลย จนคนญี่ปุ่นเขาแซวผมแล้วเนี่ย ฮ่าๆๆ
ฮ่าๆๆ แต่ถึงอย่างนั้นภาพวาดของคุณเต้ยก็ยังสามารถถ่ายทอดบรรยากาศสนุกๆ ของเทศกาลหน้าร้อนออกมาได้อย่างน่าประทับใจมากๆ เลยค่ะ ต้องมีสักครั้งแน่นอนค่ะที่คุณเต้ยจะได้ไปร่วมเทศกาล
สำหรับสองงานนี้ที่คุณเต้ยได้ทำงานกับคนญี่ปุ่นมา อยากรู้ว่าคุณเต้ยคิดเห็นอย่างไรกับการทำงานกับคนญี่ปุ่นบ้างคะ?
ผมว่าผมก็ได้เจอความจริงประมาณนึง เพราะเรามีภาพลักษณ์ของคนญี่ปุ่นว่ามีความเป๊ะ แต่ผมก็เจอความจริงว่าคนญี่ปุ่นก็มีหลุดๆ เหมือนคนไทยอยู่เหมือนกันนะ แต่ส่วนใหญ่ที่เจอก็ดีนะ เป็นการเป็นงาน และไม่มีใครมาเลทเลยเวลานัด
กับผมพบว่าความเจ๋งของเมืองเมืองนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับคนในเมืองนั้นๆ เอง อย่างโปรเจกต์ที่เกียวโตก็เริ่มมาจากคนคนหนึ่งที่อยากให้เมืองของเขาเป็นที่รู้จัก แล้วจากคนเดียวเขาก็ไปโน้มน้าวคนในชุมชนของเขาจนเกิดเป็นกลุ่มก้อนขึ้นมา
หรืออย่างเมืองซาวาระก็เคยได้รับความเสียหายไปทีนึงตอนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แต่เขาก็ฟื้นฟูเมืองขึ้นมาใหม่ เพราะงั้นอาคารบ้านเมืองในญี่ปุ่นมันจะยืนอยู่ได้ก็มาจากคน ไม่ว่าจะเป็นสังคมหรือตัวคนที่เป็นเจ้าของอาคารนั้นๆ ที่คิดถึงเมือง คิดถึงจังหวัดของเขา คือผมรู้สึกได้ถึงความรักที่เขามีต่อเมืองที่มาจากการกระทำของเขา
ข้อความจาก AnimaToey ถึงแฟนๆ
สุดท้ายนี้คุณเต้ยอยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยและชาวญี่ปุ่นบ้างคะ?
สำหรับแฟนๆ ชาวไทยก็ถ้ามีโอกาสก็ไปเที่ยวเมืองซาวาระที่ผมวาดได้นะครับ มันก็เป็นเมืองที่ไม่ได้ไกลจากสนามบินนาริตะหรือโตเกียว ก็เป็นเมืองที่น่ารักและมีอะไรเยอะกว่าที่คิด หรือจะไปเที่ยวรอบๆ อีก 7 เมืองที่ผมวาดก็ได้
อย่างน้อยก็เมืองนาริตะ เพราะก็เป็นเมืองที่ไม่ได้เที่ยวยากและน่าสนใจ เป็นเมืองรองหนึ่งที่ถ้าคุณเที่ยวเมืองหลักมาจนเบื่อแล้วก็มาเที่ยวเมืองรองแบบนี้ได้ ก็จะมีความเป็นธรรมชาติที่ตอบโจทย์ เป็นตัวเลือกน่าสนใจที่เราจะได้เห็นความเป็นญี่ปุ่นจริงๆ อีกแบบที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ได้เจอคนญี่ปุ่นบ้านๆ หรือได้ชิมอาหารที่ไม่ได้ทำไว้สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว
และที่สำคัญก็อยากฝากเทศกาลรถลากของซาวาระด้วย เขาบอกว่ามันเป็นหนึ่งในสามเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของแถบคันโตในญี่ปุ่น ซาวาระก็เป็นเมืองที่เจริญขึ้นมาจากการขนส่งทางแม่น้ำโทเนะกาว่าในสมัยเอโดะ มีการพัฒนาวัฒนธรรมเป็นของตัวเองขึ้นมาที่มีคำกล่าวว่า เจริญยิ่งกว่าเอโดะ เป็นเมืองที่สืบทอดวัฒนธรรมที่ผ่านมากว่า 300 ปี
แล้วก็มีเรื่องสนุกๆ อีกก็คือคนที่มาลากรถลากนี้เขาจะดื่มเหล้ากัน ก็จะมีความเฮฮาที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่อยู่เหมือนกัน ผมออกตัวก่อนว่าผมไม่เคยไป แต่ถ้าไปเมืองซาวาระ เทศกาลรถลากนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
รูปภาพจากเมืองคาโทริ (Katori City)
รูปภาพจากเมืองคาโทริ (Katori City)
รูปภาพจากเมืองคาโทริ (Katori City)
รูปภาพจากเมืองคาโทริ (Katori City)
รูปภาพจากเมืองคาโทริ (Katori City)คุณเต้ยแนะนำขนาดนี้ ANNGLE ก็อยากไปเทศกาลขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกันค่ะ!
มาทางฝั่งผู้อ่านคนญี่ปุ่นกันบ้างนะคะ คุณเต้ยมีข้อความอะไรถึงผู้อ่านคนญี่ปุ่นบ้างคะ?
สำหรับผู้อ่านคนญี่ปุ่นก็ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ใช่คนญี่ปุ่นโดยเนื้อแท้ แต่ผมก็โตมากับการ์ตูนญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น และก็ชอบญี่ปุ่นมากๆ ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศในความฝันของผมเลยที่อยากไปมานานแล้ว และตอนนี้ก็ได้ไปจริงๆ และวาดญี่ปุ่นออกมา
ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ชอบงานของผม และถ้าคุณเห็นว่าเมืองของคุณมีอาคารที่น่าสนใจหรืออาคารเก่าที่อยากนำเสนอ ก็ส่งมาให้ผมวาดได้ และถ้ามีโอกาสผมก็อยากมีโอกาสไปเยี่ยมหรือวาดเมืองของคุณครับ
พอได้มาเห็นผลงานและเรื่องราวของคุณเต้ยแบบนี้แล้ว ทีมงานเชื่อว่าหลังจากนี้คุณเต้ยต้องได้มีโอกาสเดินทางวาดเมืองในญี่ปุ่นตามความตั้งใจแน่นอนค่ะ และหลังจากนี้เราคงได้เห็นเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในมุมต่างๆ ของญี่ปุ่นผ่านสายตาและภาพวาดของคุณเต้ยอีกมาก เพื่อนๆ ที่อยากติดตามและสนับสนุนให้กำลังในศิลปินไทยท่านนี้ สามารถติดตามได้ผ่านแฟนเพจ AnimaToey Watercolor ได้ค่ะ แล้วมารอดูผลงานใหม่ๆ ของคุณเต้ยกันนะคะ
ติดตามผลงานคุณเต้ย AnimaToey ได้ทาง
Facebook Page: AnimaToey Watercolor
Instagram: @animatoey