สิ่งที่กวักมือเรียกพัชให้ไปร้านนี้ก็คือเจ้าวากิวซูชิค่ะ เห็นรุ่นพี่ท่านนึงแชร์รูปในเฟสบุ๊คแล้วก็อดตามรอยไม่ได้
เจ้าวากิวซูชิ พระเอกของอาหารมื้อนี้
เมื่อกินเข้าไปทั้งคำจะมีคำว่า อูมามิ โผล่ขึ้นมาบนหน้าผาก (อารมณ์เหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่น)
ชิ้นก็ไม่ใช่เล็กๆนะ เมื่อเทียบกับผู้ชายตัวเล็กๆคนนึง(ตัวเล้กกกกก)
น้อง Ikura ก็น่ารักค่ะ สด เด้งดึ๋งๆ ไม่เหม็นคาว
น้องมาพร้อมกับชุดซาซิมิรวม ทางร้านให้มาเต็มกล่องเลย ด้านล่างมีหัวไชเท้าฝอยรองนิดหน่อย แต่รองมาแบบบางมากๆ
คนชอบ Ikura ฟินแน่นอนกับเมนูนี้
ชุดรวมซาซิมิ ได้ปลาชิ้นหนาพอตัวเลย แต่เคี้ยวไม่ยากค่ะ ปลาไม่เหนียวนะ
ราชาปลาดิบ เจ้า Otoro มากัน 4 คน ได้มา 2 คำ ทำไงล่ะ แบ่งครึ่งสิ 5555
ร้านนี้หมักไม่เปรี้ยวมากค่ะ ตรงลายไขมันไม่เหนียว พัชว่าโอเคเลยนะ พัชไปกับเพื่อนๆอีก 3 คน โดนเมนูนี้ไปแอบจุกเหมือนกันนะ
เจ้านี่คือ Kani Miso Yaki
เมนูใหม่ของร้าน Kabocha Sushi
ส่วนผสมหลักคือมันปูค่ะ จะมีรสเค็มติดปลายลิ้นนิดๆ
พอเริ่มร้อนเราก็คนให้เข้ากันแล้วคีบเข้าปาก มีกลิ่นมันปูที่ชัดเจน แฟนๆอาหารทะเลอาจจะถูกใจเมนูนี้นะ
TAKO WASABIIIIIIIIII เมนูที่พัชกับโอ๊ตเห็นไม่ได้ ต้องสั่ง !
เป็นหมึกทาโกะดองกับวาซาบิดองค่ะ จะมีรสเค็มนิดๆ แต่เสน่ห์ของเมนูนี้คือวาซาบิที่เข้ามาตัดเลี่ยนของหมึก เพื่อนพัชไม่เคยลอง พอได้ชิมไปก็ติดใจเหมือนกันค่ะ
Salmon Skin Maki จริงๆเมนูนี้เคยเห็นครั้งแรกจากร้านอาหารญี่ปุ่นที่อังกฤษเมื่อ 7 ปีก่อน (นานแท้น้องเอ๊ย)
เพิ่งมาเห็นในไทยสักประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมาค่ะ ลองมาหลายร้านแต่ส่วนตัวชอบร้านนี้มากที่สุด เพราะหนังปลาแซลมอนกรอบ ไม่อมน้ำมัน
ที่สำคัญคือซอสที่ราดมาอร่อยค่ะ หวานนิดๆไม่หวานแหลม พอเคี้ยวแล้วมีรสหวานจากข้าวและความเค็มจาก Tobiko (ไข่ปลาบิน) หืมมมม อร่อย เมนูนี้แนะนำให้ลองค่ะ
ร้านตั้งอยู่ในโครงการ The Bright พระราม 2 สาวกอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ฝั่งธนแต่ไม่อยากเดินทางเข้าไปในเมืองร้านนี้ตอบโจทย์เรื่องระยะทางได้ดีค่ะ
อาหารมีให้เลือกเยอะมากกกกก สั่งกันไม่ถูกเลยทีเดียว ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมาก ให้ปริมาณเยอะ เรื่องคุณภาพวัตถุดิบก็ไม่แย่ค่ะ ไม่เหม็นคาวและสด
ร้านเปิดให้บริการทุกวัน 11:30-22:00 ค่ะ