“ตอนที่กำลังเปลี่ยนชุดพละ จะมีครูเข้ามาตักเตือกเด็กที่สวมชุดชั้นในที่มีลวดลายว่า ระวังตัวให้มากกว่านี้หน่อยเพราะชุดมันบาง และเคยได้ยินมาว่า ที่โรงเรียนอื่นก็มีคุณครูคอยเช็กสีชุดชั้นในด้วยเหมือนกัน”
เสียงจากนักเรียนหญิงที่จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ “ความบิดเบี้ยวของกฎโรงเรียน”
เธอเล่าต่ออีกว่า ที่โรงเรียนมีกฎให้นักเรียนหญิงต้องมัดผมในตำแหน่งต่ำกว่าติ่งหู โดยให้เหตุผลว่า “เพราะเด็กนักเรียนชายจะรู้สึกตื่นเต้นกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษเมื่อได้เห็นต้นคอของนักเรียนหญิง” ซึ่งเธอไม่เข้าใจกับเหตุผลที่ครูให้มาเลย
กฎที่นักเรียน “ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา ทางเนติบัณฑิตยสภาประจำเมืองฟุกุโอกะ ได้ดำเนินการตรวจสอบกฎโรงเรียนโดยสอบถามจากนักเรียนและผู้ปกครอง พบว่า ในปัจจุบันยังมีการตั้งกฎโรงเรียนที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่มาก โดยกฎที่สร้างความไม่พอใจให้นักเรียนและผู้ปกครองมากที่สุดคือ “กฎเกี่ยวกับชุดชั้นใน” เช่น
– ครูให้ยืนเรียงแถวหน้ากระดานที่โถงทางเดิน และให้นักเรียนถลกเสื้อขึ้นเหนือหน้าอกเพื่อเช็กสีเสื้อชั้นใน
– นักเรียนทั้งชายและหญิงเคยถูกครูเรียกไปเช็กสีกางเกงชั้นในพร้อมกันที่อาคารพละ
ซึ่งเคยมีเคสที่นักเรียนหญิงของโรงเรียนแห่งหนึ่งไม่ยอมไปโรงเรียน หลังจากถูกครูเพศชายเข้ามาเช็กสีชุดชั้นใน และเคยมีเคสที่บังคับให้นักเรียนที่ทำผิดกฎถอดชุดชั้นในทิ้งไว้ที่โรงเรียนอีกด้วย
“กฎทรงผม” ที่ครูเองก็อธิบายเหตุผลไม่ได้
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนอีก 69 แห่งในเมืองฟุกุโอกะ ที่ตั้งกฎบังคับเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียน โดยนักเรียนหญิงที่จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะเล่าว่า นักเรียนชายห้ามไว้ผมยาวถึงหู ซึ่งจะโกนผมไปเลยก็ได้ แต่ห้ามตัดทรงผมอันเดอร์คัต เลยทำให้นักเรียนต้องเข้าร้านตัดผมบ่อยขึ้น
ทรงผมอันเดอร์คัต คือการตัดผมให้ด้านข้างศีรษะทั้งสองฝั่งให้สั้นเตียน เป็นทรงผมที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นชายของญี่ปุ่น โดยคุณครูได้ออกมาพูดถึงเหตุผลที่ทรงผมอันเดอร์คัตไม่ได้รับอนุญาตตามกฎของโรงเรียนว่า
“ที่ตัดทรงผมอันเดอร์คัตไม่ได้ เพราะรัฐบาลเป็นผู้ออกกฎบังคับมาอีกที”
ทั้งนี้ ทนายความโกโตะ โทมิคาซุ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎทรงผมของโรงเรียนว่า ดูเหมือนว่าคุณครูเองก็ไม่สามารถอธิบายเหตุผลในการห้ามตัดทรงอันเดอร์คัตได้ และพวกเขาเองก็คงไม่เข้าใจเหตุผลจริง ๆ ของกฎนี้ด้วยเช่นกัน ผมคิดว่าเราควรยกเลิกกฎโรงเรียนที่ไม่มีคำอธิบายที่สมเหตุสมผลเหล่านี้โดยทันที กฎเช็กสีชุดชั้นในนักเรียนก็เหมือนกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะฉะนั้นจึงควรยกเลิกโดยเร็ว
ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเสนอเรื่องให้คณะกรรมการการศึกษาประจำเมืองและจังหวัดฟุกุโอกะพิจารณาว่า ควรมีการทบทวนปรับปรุงกฎโรงเรียนในแต่ละพื้นที่หรือไม่
สรุปเนื้อหาจาก : fnn