จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้กิจการหลายแห่งในญี่ปุ่นต้องปิดกิจการชั่วคราว ไม่ใช่เฉพาะคนทำงานเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่รวมถึงนักเรียน-นักศึกษาจำนวนมากที่จำเป็นต้องหารายเองที่ก็กำลังทุกข์หนัก เนื่องจากรายได้จากการงานพาร์ทไทม์ลดลงอย่างมาก ทำให้ไม่มีเงินเก็บเพียงพอสำหรับใช้เป็นค่าธรรมเนียมการศึกษาและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
จากผลการสำรวจขององค์กรนักศึกษา นักศึกษาหลายคนที่กำลังเผชิญกับปัญหารายได้ที่ลดลงตอบว่า “พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าเทอม และกำลังอยู่ในช่วงพิจารณาที่จะลาออกจากมหาวิทยาลัย” ที่รุนแรงไปกว่านั้น มีนักศึกษารายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันใช้ชีวิตด้วยเงินค่าอาหารเพียง 300 เยนต่อวัน”
นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดไซตามะกล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม เธอไม่สามารถไปทำงานได้ เนื่องจากร้านกินดื่มที่เธอทำงานอยู่ลดจำนวนวันเปิดร้าน ทำให้รายได้ในเดือนเดียวกันลดลง 30% เธอกล่าวอย่างคร่ำครวญต่ออีกว่า “ในเดือนเมษายนรายได้อาจจะเป็นศูนย์” จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เธอต้องดึงเงินเก็บออกมาใช้ โดยต้องจำกัดค่าอาหารไว้ที่ 200-300 เยนต่อวัน ซึ่งเงินจำนวนเท่านี้ไม่เพียงพอต่อการซื้อผัดสดหรือกระดาษชำระที่ในช่วงนี้ราคาสูงเป็นพิเศษ สามารถซื้อได้เพียงแค่ขนมปัง หรือไม่ก็อุด้งเเช่แข็งเท่านั้น
Kansai Collegiate Athletic Alliance ได้ทำการสำรวจนักศึกษาของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในเขตภูมิภาคคันไซ กว่า 1,400 คน พบว่า 74.8% ของจำนวนนักศึกษามีรายได้ลดลง และ 55.6% ของจำนวนนักศึกษา ได้รับเงินลดลงจากพ่อแม่
นอกจากนี้ จากการสำรวจแบบสอบถามขององค์กรนักศึกษา พบว่า “มีนักศึกษาที่กำลังคิดจะลาออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องจากรายได้จากงานพาร์ทไทม์หรือรายได้ของครอบครัวลดลง ” และจากแบบสอบถาม มีคนเขียนตอบมาว่า “รายได้จากกิจการส่วนตัวของพ่อลดลงกว่า 80% ฉันกังวลที่จะต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย”
ศาสตราจารย์ ฮิโระคาซึ โออุจิ จากมหาวิทยาลัยจูเกียว เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมแห่งชาติเกี่ยวกับปัญหาทุนการศึกษา ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินมีผลกระทบอย่างมากต่อโรงเรียนกวดวิชา ร้านอาหาร รวมถึงกิจการที่มีการจ้างพาร์ทไทม์ในนักเรียน-นักศึกษา “ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ นักเรียนจะไม่สามารถชำระค่าเล่าเรียน และถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นนักศึกษา จึงควรที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นโดยให้มีการค้างชำระหรือผ่อนชำระได้”
สรุปเนื้อหาจาก : news.livedoor