Go to Eat เป็นแคมเปญที่จัดทำโดยรัฐบาลญี่ปุ่น และเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา โดยเป็นหนึ่งในโครงการของตระกูล “Go to Campagin” ที่คลอดออกมาเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แคมเปญ Go to Eat นั้นคลอดตามมาติดๆ กับแคมเปญ Go to Travel ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามก่อนหน้า ซึ่ง Go to Eat นี้เป็นแคมเปญที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากออกไปเที่ยวหรือไม่มีเวลาว่างที่จะไปเที่ยว ให้ออกไปกินแทน
ปัจจุบัน แคมเปญในตระกูล Go to มีทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่
- Go to Travel แคมเปญที่สนับสนุนให้คนออกไปท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยจะได้รับส่วนลดค่าโรงแรมสูงสุดถึง 35% เลยทีเดียว
- Go to Event แคมเปญสนับสนุนให้คนไปงานอีเว้นต์ที่แต่ละจังหวัดจัดขึ้น
- Go to Shotenkai แคมเปญสนับสนุนการจับจ่ายในร้านค้าที่ร่วมรายการ
- Go to Eat แคมเปญสนับสนุนให้ออกไปกินอาหารตามร้านค้าที่ร่วมรายการ
สำหรับแคมเปญ Go to Eat นั้น คุณสามารถอิ่มอร่อยกับร้านอาหารที่ร่วมรายการมากมาย และที่สำคัญชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นก็สามารถใช้สิทธินี้ได้เช่นเดียวกับประชาชนคนญี่ปุ่นทั่วไป วันนี้ ANNGLE เลยจะมาแนะนำรายละเอียดของแคมเปญ เพื่อให้คนไทยในญี่ปุ่นที่ต้องการไปใช้บริการเข้าใจเงื่อนไขของแคมเปญได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
Go to Eat คืออะไร?
ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา อุตสหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและร้านอาหาร
เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมที่ซบเซา ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้เปิดตัวโครงการในตระกูล Go to Campaign เพื่อกระตุ้นให้มีคนออกมาจับจ่ายกับอุตสาหกรรมเหล่านี้มากขึ้น และหนึ่งในนั้นก็คือแคมเปญ Go to Eat ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมานั่นเอง
Go to Eat เป็นแคมเปญที่ส่งเสริมให้คนออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน (หลังจากที่งดไปเพราะเสี่ยงโควิด) รวมไปถึงสนับสนุนร้านอาหารที่ได้พยายามกันอย่างหนักเพื่อที่จะอยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะนอกจากจะต้องคงไว้ซึ่งมาตรฐานการให้บริการแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเรื่องความสะอาด สุขอนามัย และการป้องกันโรคอีกด้วย
แคมเปญ Go to Eat จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. พรีเมี่ยมคูปอง (プレミアム付食事券)

แต่ละจังหวัดจะออกบัตรกำนัลมื้ออาหาร หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่าพรีเมี่ยมคูปอง เพื่อให้ประชาชนที่ซื้อคูปองไป สามารถไปใช้แทนเงินสดเพื่ออุดหนุนร้านอาหารภายในจังหวัด โดยรัฐจะรับภาระค่าใช้จ่าย 25% กล่าวคือ ถ้าเราจ่ายเงินซื้อคูปองในราคา 1,000 เยน เราจะสามารถรับประทานอาหารได้ในราคา 1,250 เยน โดยส่วนต่าง 1,250 เยน นั้น รัฐจะเป็นคนออกเงินให้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม พรี่เมี่ยมคูปองเหล่านี้ไม่ได้มีทั่วประเทศ ซึ่งโตเกียวก็เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ยังไม่ได้เข้าร่วม ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดฮอกไกโดที่ผู้เขียนอยู่ไม่ได้ร่วมรายการ Go to Eat กับทางรัฐบาล แต่จัดทำคูปองขึ้นมาเองด้วยเงื่อนไขคล้ายๆ กัน โดยจะขายขั้นต่ำอยู่ที่ 50,000 เยน แต่เราจะได้รับคูปองทั้งหมดอยู่ที่ 75,000 เยน หรือก็คือเราได้กำไรสำหรับการจับจ่ายไป 25,000 เยน แต่ก็จะมีการจับฉลากค่ะ ถ้าเราได้สิทธินี้ จะมีไปรษณียบัตรส่งมาที่บ้านให้เราไปแลกคูปองตัวจริง ซึ่งส่วนใหญ่ได้กันหมด แต่อาจจะเฉลี่ยช่วงเวลา เพราะการจับฉลากแรกครั้งผู้เขียนไม่ได้ แต่มาได้ครั้งที่ 2 แล้วก็กำเงินไปจ่ายให้รัฐจตามระเบียบค่ะ โดยคูปองที่ได้มานี้นอกจากจะสามารถจ่ายค่าอาหารได้แล้ว ยังสามารถจับจ่ายซื้อของตามร้านค้าต่างๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากร้านอาหารในจังหวัดได้อีกด้วย
* สามารถซื้อคูปองได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 20121 หรือจนกว่าคูปองจะหมด
** คูปองไม่สามารถทอนเป็นเงินสดได้ ต้องใช้ให้พอดีกับจำนวน เช่น คูปอง 1 ใบ มูลค่า 1,000 เยน แต่อาหารราคา 1,100 เยน เราต้องใช้เงินสดจ่ายส่วนต่างอีก 100 เยน
*** คูปองไม่สามารถใช้ข้ามเขตหรือข้างจังหวัดได้
2. จองออนไลน์รับพ้อยท์สะสมสูงสุด 10,000 พ้อยท์! (オンライン飲食予約)

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบทำอาหารง่ายๆ ผ่านมือถือ การจองร้านอาหารผ่านทางแอปพลิเคชันของเว็บไซต์ที่ร่วมรายการก็สามารถสะสมพ้อยท์ไว้เป็นส่วนลดในมื้ออาหารได้เช่นกัน
สำหรับการจองมื้อกลางวันนั้นจะได้รับส่วนลดคนละ 500 เยน และ เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 เยน สำหรับการจองมื้อเย็น โดยสามารถจองได้มากสุดถึง 10 ต่อ 1 การจอง นอกจากนี้ การจองออนไลน์นั้นไม่ได้จำกัดการใช้ส่วนลดแค่ในจังหวัดแบบคูปอง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถใช้สิทธินี้รับประทานอาหารกับร้านค้าที่ร่วมรายการได้ทั่วประเทศ
บางท่านอาจจะมีความเป็นกังวลในเรื่องสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ว่ามันปลอดภัยจริงหรือกับการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน? จริงๆ แล้วร้านค้าที่ร่วมรายการทั้งหมดต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคที่เข้มงวดของรัฐด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมสเปรย์แอลกอฮอล์สำหรับล้างมือก่อนที่จะเข้าไปในร้าน ต้องเปิดหน้าต่างหรือช่องลมที่สามารถหมุนเวียนอากาศภายในร้านได้ดี รวมถึงต้องเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะอย่างน้อย 2 เมตรอีกด้วย
ผ่านมาแล้วเกือบ 1 เดือนที่เริ่มแคมเปญ พบว่ามีผู้ใช้บริการแคมเปญ Go to Eat ทั่วประเทศกว่า 1o ล้านคน โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นได้ระบุว่า จำนวนผู้ของแคมเปญ Go to Eat เฉพาะทางออนไลน์นั้น มื้อกลางวันมีมากถึง 2.33 ล้านคน และมื้อเย็นอีก 8.58 ล้านคน รวม 10.91 ล้านคน รวมเป็นคะแนนสะสมกว่า 9.75 พันล้านเยน
รัฐบาลได้มีการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการนี้มากถึง 61.6 พันล้านเยน แม้ว่าตอนนี้ร้านอาหารในโตเกียวจะไม่ได้เข้าร่วมรายการในการใช้คูปอง แต่รัฐเชื่อมั่นว่า ภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน จะสามารถให้ชาวโตเกียวเข้าร่วมรายการนี้ได้ เนื่องจากตอนนี้ยังมีความกังวลเรื่องสถานการณ์การติดเชื้อในโตเกียวที่ยังสูงอยู่ รวมทั้งคาดว่าจะสามารถพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในญี่ปุ่นได้ภายในเดือนหน้าเช่นกัน
แคมเปญ Go To Eat นั้นมีอายุตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2020 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2021 (บัตรกำนัลอาหารและคะแนนจะสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2021) คนไทยในญี่ปุ่น หากมีโอกาสก็ลองไปอุดหนุนร้านค้าใกล้บ้านดูนะคะ