วันนี้เวลา 17:50 นายซูซูกิ นาโอมิจิ ผู้ว่าราชการจังหวัดฮอกไกโด พร้อมด้วยนายอะกิโมโต้ คาซุฮิโร่ นายกเทศมนตรีเมืองซัปโปโรได้ออกแถลงการณ์ “ประกาศภาวะฉุกเฉิน” ในพื้นที่จังหวัดฮอกไกโด พร้อมทั้งของความร่วมมือประชาชนให้งดออกนอกเคหะสถานโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง เนื่องจากตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 (COVID-19) เข้าสู่ขั้นวิกฤติ รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์และหาเส้นทางการแพร่ระบาดของโรคที่แน่ชัดได้
ในวันนี้มียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก รวมเป็น 66 รายแล้ว ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศ (ไม่รวมจำนวนที่ตรวจพบเรือไดมอนด์ปริ๊นเซส) โดยแถลงการณ์ “ประกาศภาวะฉุกเฉิน” ดังกล่าวครอบคลุมระยะเวลา 3 สัปดาห์ มีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์- 19 มีนาคม 2020
ผู้ว่าฯ เตือน “อาจจะมีการแพร่เชื้อระหว่างเมือง”
ผู้ว่าราชการจังหวัดฮอกไกโดได้กล่าวเสริมว่า ผู้ป่วยที่ตรวจพบเมื่อวานนี้ทั้ง 6 คนนั้น ได้เข้าร่วมอีเว้นท์เดียวกันที่จัดขึ้นที่เมืองคิตะมิ (Kitami) และมีรายงานยืนยันอีกว่า ผู้ร่วมงานบางส่วนของเมืองดังกล่าวเดินทางมาจากเมืองซัปโปโร เมืองหลวงของเกาะ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่เชื้อระหว่างเมือง
การคมนาคมยังเป็นปกติ
ด้านการคมนาคมในจังหวัดยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากประกาศนี้ รถไฟและรถบัสยังคงให้บริการตามปกติ ทางการรถไฟ JR Hokkaido กล่าวว่า พวกเขาเข้าใจประชาชนที่จำเป็นต้องใช้รถไฟในการเดินทางด้วยเหตุผลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงาน หรือการเดินทางในชีวิตประจำวัน จึงไม่ได้มีการงดขบวนหรือเวลาในการให้บริการแต่อย่างใด
ในส่วนของสายการบิน ANA และ JAPAN AIRLINE ก็วางแผนที่จะให้บริการเที่ยวบินเข้า-ออกจากจังหวัดฮอกไกโดตามปกติ
การท่องเที่ยว
ในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้เขียนขอแนะนำให้พิจารณายกเลิกหรือเลื่อนทริปไปดีกว่าค่ะ ผู้เขียนเองในฐานะที่อาศัยอยู่ฮอกไกโด แม้ว่าผู้คนจะใช้ชีวิตกันเป็นปกติ แต่ก็ยังมองว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วง มาส์กปิดปากขาดตลาดมาเป็นเดือน ๆ แล้ว วันนี้หลังจากประกาศผู้คนก็เริ่มกักตุนข้าวของ คาดว่าคงให้บริการนักท่องเที่ยวได้ไม่เต็มที่ในเรื่องของอาหารการกิน เนื่องจากอาหารบางส่วนก็ต้องนำเข้าจากต่างเมืองค่ะ
อย่างไรก็ดี โปรดอย่าเชื่อข่าวลวง ไม่มีการปิดเมืองค่ะ แค่ขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุจำเป็นเท่านั้น
สรุปเนื้อหาจาก: NHK
ผู้เขียน: A Housewife Wannabe
