สวัสดีครับท่านผู้อ่าน เหตุการณ์รัสเซียบุกยูเครนซึ่งหลายคนก็หวั่นว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่สามกันบ้าง หวั่นเกิดวิกฤติเศรษฐกิจบ้าง หลายคนส่งเสียงเรียกร้องขอให้รัสเซีย “หยุด” วันนี้จะขอนำเรื่องรักข้ามขอบฟ้า หนุ่มญี่ปุ่น-สาวยูเครน ในวันที่รัสเซียบุกยูเครน มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
เรื่องราวของ “รักข้ามขอบฟ้า” ในคราวนี้เป็นเรื่องของหนุ่มญี่ปุ่นนามว่านายยาสุยูกิ ทานิ กับสาวยูเครนนามว่า ลูบอฟ เทเรเชนโก ซึ่งปัญหาคือ ตอนนี้ฝ่ายหญิงยังตกค้างอยู่ที่ยูเครน! ทั้งที่ทั้งคู่เดินทางมาที่ญี่ปุ่นแล้วในเดือนมกราคม (ที่ผ่านมา) เพื่อจะมาจัดงานแต่งงานกัน แต่เพราะมาตรการ “จำกัดการเข้าเมืองของชาวต่างชาติ” อันเนื่องมาจากภาวะโควิด ฝ่ายหญิงเลยโดนไล่กลับยูเครน อนิจจา!
“มันช่างเจ็บปวดที่รู้ว่าเธอกำลังกลัว แต่ผมทำอะไรไม่ได้” ฝ่ายชายกล่าว
“ฉันได้ยินเสียงระเบิด ฉันจะออกจากบ้านที่ฉันอาศัยอยู่กับคุณ ฉันจะไปบ้านพ่อแม่ของฉันใกล้ๆ” นี่คือข้อความที่ฝ่ายหญิงติดต่อมาจากยูเครนบ้านเกิดของเธอ
บ้านที่ทั้งสองคนอาศัยอยู่ด้วยกันอยู่ในเมืองที่ชื่อว่า “โบยาร์กา” ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 1 ชั่วโมงโดยทางรถยนต์
เมื่อหกปีก่อนนายทานิเรียนภาษารัสเซียที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ พอเรียนได้สองปีก็มาพบรักกับนางสาวลูบอฟซึ่งตอนนั้นทำงานนักวิจัยที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย
เรื่องน่าเศร้าซ้ำภาวะโควิดคือ หลังจากที่นางสาวลูบอฟโดนไล่กลับยูเครน (ไม่ให้เข้าเมืองญี่ปุ่น) นายทานิวางแผนจะกลับไปที่ยูเครนในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยเตรียมเอกสารไปสำหรับจะไปจดทะเบียนสมรสที่ยูเครน แต่อนิจจา.. สงครามมาเกิดเสียก่อน นายทานิถามนางสาวลูบอฟว่า “คุณต้องการอพยพไปอิสตันบูลและไปเจอกันที่นั่นไหม” แต่เธอตอบว่า “ครอบครัวของฉันอยู่ที่นี่” ญาติของเธอบางคนเตรียมจะ “ต่อสู้” กับรัสเซียด้วยซ้ำ (หากท่านผู้อ่านเห็นภาพข่าวจะรู้เลยว่า คนที่โน่นไม่น้อยคิดจะ “สู้” กระทั่งผู้หญิงยังมานั่งทำ “ระเบิดขวด” กันเลยทีเดียว)
จนถึงตอนนี้ ทั้งคู่ยังคงติดต่อกันทางวิดีโอคอลกับอีเมล แต่ว่า ที่ยูเครนจะมีไฟฟ้าให้ใช้ไปถึงเมื่อไหร่…
“มือของเธอสั่นผ่านหน้าจอ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากให้กำลังใจ และตอนนี้ผมทำได้แค่หวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายโดยเร็วที่สุด” นายทานิกล่าว
เรามาส่งเสียงไม่เห็นด้วยกับการรุกราน และภาวนาขอให้เหตุการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วด้วยกันเถิดครับ
สรุปเนื้อหาจาก Yahoo! Japan, BBC