ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีรอยสักที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ภาพลักษณ์ของคนมีรอยสักในญี่ปุ่นมักจะถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับยากูซ่า มาเฟีย และธุรกิจสีเทา ที่ประชาชาชนคนทั่วไปเห็นแล้วรู้สึกหวาดกลัว ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการมีปัญหาต่าง ๆ โรงแรมหรือบริการออนเซ็นบางที่จึงไม่อนุญาตให้ผู้มีรอยสักเข้าใช้บริการ
แต่ว่าปัจุบันมีโรงแรมและบริการออนเซ็นหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นที่เริ่มอนุญาตให้คนมีรอยสักเข้าใช้บริการได้แล้ว แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น สถานที่ให้บริการที่พักและออนเซ็น “Yokohama Minatomirai Manyo Club” ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่มินาโตะมิไร เมืองโยโกฮาม่า ได้ประกาศในเว็บไซต์ทางการ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2020 ว่า “จากการที่เคยมีประกาศห้ามผู้มีรอยสักเข้าใช้บริการบางพื้นที่ในสถานที่บริการรวมนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020 เป็นต้นไป หากใช้สติกเกอร์ปิดทับรอยสัก (Cover seal) ที่จำหน่ายในสถานที่ให้บริการ จะสามารถเข้าใช้บริการได้”
View this post on Instagram
“Yokohama Minatomirai Manyo Club” ดำเนินการบริหารโดย Manyo Club (มันโยคลับ) เป็นสถานที่ให้บริการออนเซ็นขนาดใหญ่พร้อมที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม เพื่อป้องกันปัญหาจากรอยสักที่อาจจะเกิดขึ้น จึงได้ออกกฎระเบียบการห้ามผู้ที่มีรอยสักใช้บริการออนเซ็น แต่ว่าระยะหลังมานี้ ญี่ปุ่นได้เริ่มยอมรับรอยสักที่เป็นแฟชั่นมากขึ้น และเพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นได้ จึงออกกฎระเบียบใหม่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020 เป็นต้นไป แต่มีข้อกำหนดว่า ผู้ที่จะเข้าไปใช้บริการในสถานที่ได้จะต้องมีรอยสักขนาดไม่เกินสติกเกอร์ปิดทับรอยสัก (สติกเกอร์ทรงสี่เหลี่ยมขนาด 11 x 11 ซม. ราคา 100 เยนต่อแผ่น รวมภาษี) โดยใช้สติกเกอร์ปิดทับได้มากสุด 2 แผ่น สามารถซื้อสติกเกอร์ปิดทับรอยสักได้ที่แผนกต้อนรับ
ในเว็บไซต์ทางการของ Manyo Club ได้ระบุข้อความว่า “เราพยายามจะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิม เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการอยู่เป็นประจำตั้งแต่ก่อนหน้านี้ไม่รู้สึกลำบากใจ และเราหวังว่าลูกค้าทุกท่านที่มีความต่างด้านวัฒนธรรมหรือศาสนาจะเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะสามารถรู้สึกสนุกและผ่อนคลายกับออนเซ็นของญี่ปุ่นได้”
ก่อนหน้าที่เว็บไซต์ของ Manyo Club จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ ได้มีการแจ้งภายในให้ทราบก่อน หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา ก็มีข้อความแสดงบนทวิตเตอร์มากมาย เช่น “ในความคิดที่หลากหลาย ผมสนับสนุนแนวความคิดของ Manyo Club ครับ” หรือ “ขอบคุณหนึ่งก้าวของความกล้าของ Manyo Club” เป็นต้น แต่ในทางกลับกันก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยบางส่วนแสดงความคิดเห็นเข้ามา เช่น “น่าจะอนุญาตแค่คนต่างชาติก็พอ รู้อยู่ว่าวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน” หรือ “สำหรับคนที่ญี่ปุ่นที่สัก รู้อยู่แล้วว่ามีความเสี่ยง ตอนที่สักน่าจะยอมรับตรงนี้อยู่แล้วนะ” เป็นต้น

นอกจาก Manyo Club แล้ว สถานที่ให้บริการออนเซ็นหรือโรงอาบน้ำในญี่ปุ่นหลายแห่งก็ออกกฎระเบียบเพื่อผ่อนปรนการใช้บริการของผู้มีรอยสักเพิ่มมากขึ้น และเมื่อการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียวกำลังใกล้เข้ามา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่าง จากการออกกฎระเบียบที่ผ่อนคลายความเข้มงวดลงแบบนี้ เป็นที่น่าสนใจว่า ต่อไปกฎระเบียบการให้บริการผู้มีรอยสักจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต
อ้างอิงเนื้อหาจาก : nlab.itmedia
ผู้เขียน : KOKATETA