เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่าน เกิดเหตุผู้โดยสารบนรถไฟใต้ดินฟุคุโอกะ กดปุ่มฉุกเฉินแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยเหตุผลที่ว่า “มีผู้โดยสารไอโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย” ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 ที่เป็นสาเหตุให้ชาวเมืองในญี่ปุ่นมีการตอบสนองที่เกินเหตุ สืบเนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อในประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
หน่วยงานคมนาคมในฟุคุโอกะให้ข้อมูลว่า ช่วง 20:00 น. ของวันที่ 18 ก.พ. มีผู้โดยสารเพศชาย กดปุ่มฉุกเฉินบนรถไฟใต้ดินสายนานากุมะ เดินทางออกจากสถานีเท็นจิน-มินามิ ไปยังสถานีฮาชิโมโตะ โดยแจ้งเหตุผลว่า “มีคนไอทั้ง ๆ ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยอยู่บนขบวนรถ” ทำให้รถไฟต้องจอดในสถานีที่ใกล้ที่สุดอย่างกะทันหัน โดยเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟได้เชิญชายที่แจ้งข้อมูลและชายที่ไอโดยไม่สวมหน้ากากลงจากรถไฟเพื่อพูดคุยเจรจา ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็ประนีประนอมยอมความกันด้วยดี
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์กดปุ่มฉุกเฉินรถไฟในครั้งนี้ทำให้รถไฟให้บริการช้ากว่ากำหนด 3 นาที ซึ่งตัวแทนจากหน่วยงานคมนาคมในฟุคุโอกะ กล่าวว่า “นี่เป็นการแจ้งเหตุฉุกเฉินที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแม้จะอยู่ในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่ระบาดก็ตาม และคงไม่ดีแน่หากผู้โดยสารจะกดปุ่มฉุกเฉินรถไฟเพียงเพราะเรื่องไม่สวมหน้ากากอนามัย”
สรุปเนื้อหาจาก livedoor